มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



เมื่อเจ้าจอมซนคว้าสารพิษเข้าปาก


สมัยนี้เป็นสมัยไฮเทคที่มีการคิดค้นสารเคมีสารพัดรูปแบบมาใช้ในบ้าน ทั้งยาล้างห้องน้ำ ยาล้างจาน ยากำจัดแมลงสาบ ยาฉีดยุง ผงโรยกันมด แถมยังทำหน้าตาแสนน่าใช้ บ้างก็เป็นผงมีสีสันสวยงาม ชวนให้เด็กหยิบมาเล่น มาลิ้มลองเสียนี่กระไร

จะทำอย่างไร ถ้าลูกกลืนเอาสารมีพิษเหล่านี้เข้าไป ? ง่ายดายที่จะพูดก็ว่า แค่ให้ดื่มนม หรือน้ำเพื่อบรรเทาระบายพิษก่อนไปโรงพยาบาลแค่นั้นเอง แต่ถ้าความเป็นจริงคือคุณอยู่ไกลหมอ ไม่มีพาหนะใดๆ คุณจะทำฉันใด ?

คุณจะต้องปฐมพยาบาลขั้นต้นให้ลูกก่อน แต่ก่อนจะเกิดเหตุฉุกเฉินแบบนี้ ก็ควรจะเรียนรู้เอาไว้แต่เนิ่นๆ ว่าสารพิษคืออะไร ร้ายกาจแค่ไหน

สารพิษแบ่งเป็นสองประเภท ประเภทแรกเป็นอันตรายเมื่อเข้าไปในระบบทางเดินโลหิตผ่านทางท้อง การปฐมพยาบาลสำหรับสารพิษประเภทนี้คือ ทำให้อาเจียนเอาสารพิษนี้ออกมาจากร่างกาย

สารพิษประเภทที่สองคือประเภทที่เป็นกรดซึ่งจัดว่ามีอันตรายร้ายแรงทำลายเนื้อเยื่อ ได้แก่กรดประเภทน้ำมัน น้ำมันก๊าดนั้น หากเข้าไปในปอดทำให้ปอดอักเสบได้ ถ้าเป็นสารประเภทที่สองนี้ไม่ควรทำให้เด็กอาเจียนออกมา เพราะจะยิ่งทำให้เป็นอันตรายมากเข้าไปอีก

คำแนะนำต่อไปนี้คือ วิธีปฐมพยาบาลในกรณีฉุกเฉินสำหรับสารพิษทั้งสองประเภท แต่ก็เป็นแค่การปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ทำได้ก่อนพาลูกไปโรงพยาบาลเท่านั้น เพราะลูกจะปลอดภัยได้ก็ต่อเมื่อไปถึงมือแพทย์ผู้มีความรู้ความสามารถดำเนินการช่วยเหลือ

หัดเตรียมตัว

ควรเตรียมตัวไว้ให้พร้อมสำหรับอุบัติเหตุฉุกเฉินที่จะเกิดจากการกลืนสารพิษเข้าไป ด้วยการเริ่มจากถามไถ่หมอเจ้าประจำครอบครัวว่าจะตามตัวหมอได้ที่ไหน หากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น (หมอสมัยนี้ส่วนใหญ่มีตารางเดินสายออกคลินิกหรือโรงพยาบาลไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน) หรือคิดเตรียมไว้ว่าจะพาลูกไปหาหมอหรือไปโรงพยาบาลแห่งใดที่ใกล้บ้านที่สุด อย่ารอจนเกิดเหตุปัจจุบันทันด่วนซะก่อนถึงวิ่งลนลานไปเปิดสมุดโทรศัพท์ซึ่งจะยิ่งไม่ทันการ จดเบอร์แพทย์หรือโรงพยาบาลเอาไว้ในที่ๆ คนในบ้านทุกคนหยิยง่ายพร้อมใช้การได้ทันที

ป้องกันไว้เป็นดีที่สุด

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กตัวน้อยแสนเยาว์วัย ผู้ใหญ่ควรเก็บยาและสารเคมีทุกชนิดในบ้านเอาไว้ในที่มิดชิดหรือที่สูงซึ่งเด็กเอื้อมไปหยิบไม่ถึง สอนลูกที่พอรู้ภาษาแล้วว่า ห้ามหยิบอะไรใส่ปาก คุณระวังขนาดนี้แล้วก็อย่าเพิ่งโล่งใจว่า ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะบ้านคนอื่นอาจไม่ได้เก็บของมีพิษไว้พ้นมือเด็กเหมือนบ้านคุณ เวลาพาลูกไปบ้านญาติโยมเพื่อนฝูงแห่งใดก็โปรดดูแลแกใกล้ชิด อย่าปล่อยเด็กตามลำพัง ระหว่างคุณจ้อเพลิน ลูกอาจซุกซนไปรื้อค้นลิ้มลองของมีพิษใดๆ ก็ได้

บางอย่างก็ไร้พิษ

หมอแมรี่แอน ฮาวเลย์ แห่งศูนย์ป้องกันสารพิษ มหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์มีความเห็นว่า แม้แต่ลิปสติก อายชาโดว์ ครีมทาผิว สบู่อาบน้ำ ดินสอเขียนคิ้ว เทียนไข หมึก จะมิใช่ของมีพิษร้ายแรง แต่ถ้าเด็กกลืนเข้าไปก็จะทำให้ติดคอ อาเจียน ท้องเสีย หรือท้องเดินได้ ถ้าเด็กกลืนของเหล่านี้เข้าไป ควรให้แกล้างปากและดื่มนมสักถ้วย

ฟังคำแนะนำที่เชื่อถือได้

คำเตือนข้อสุดท้ายคือ อย่าเหมาเอาว่าคำแนะนำที่ปรากฏบนฉลากข้างขวดสารเคมี แต่ละชนิดจะละเอียดลออเข้าใจง่าย ทำแล้วหายชะงัดทันควันเสมอไป อย่าประมาทด้วยการปฏิบัติ ตามนั้นอย่างเดียว ควรพาลูกไปพบแพทย์ด้วยจะเป็นการดีที่สุด

การปฐมพยาบาลสำหรับสารพิษชนิดไม่ร้ายแรง

สารพิษชนิดนี้ได้แก่ยาแก้ไข้ บุหรี่และซิการ์ ยาระบาย น้ำหอม ยาโกนหนวด โคโลญ ยาย้อมหนัง แอลกอฮอล์ ยาแก้แพ้ ยาระงับกลิ่นตัว ยาแอสไพริน ฟลูออไรด์ ยาทากันแดด วิตามิน (หลายๆ เม็ด)

ให้ดูอาการจากสัญญาณต่อไปนี้ ขวดหรือกระปุกเปล่าใกล้ตัวเด็ก อาการคลื่นไส้ วิงเวียน พูดไม่รู้เรื่อง ผิวแห้งผาก กระหายน้ำ มีกลิ่นสารพิษจากลมหายใจ อาการชัก ให้ปฏิบัติตามข้อต่อไปนี้ก่อนไปหาหมอ
1. ให้เด็กดื่มนมสองแก้ว
2. พยายามทำให้เด็กอาเจียนออกมา ใช้ปลายช้อนกดหลังลิ้น
3. เลี่ยงไม่ให้เด็กสำลัก ถ้ายังอาเจียนอยู่ด้วยการคอยปลุกอย่าให้หลับไป ภายในเวลาครึ่งชั่วโมงแรก
4. ถ้าเด็กหมดสติ ให้คอยดูว่าเขาหายใจดีอยู่หรือไม่ อาจต้องช่วยด้วยการเป่าปาก ช่วยหายใจ
5. พาไปหาหมอทันที
ข้อสำคัญที่พึงปฏิบัติคือ

- อย่าให้ดื่มของเหลวหรือพยายามทำให้แกอาเจียนถ้าเด็กยังไม่ได้สติ จะสำลัก
- อย่าให้ยาแก้อาเจียน นอกจากคุณแน่ใจว่าเป็นสารพิษที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับระบบทางเดินหายใจ
- เก็บกระป๋อง ภาชนะที่บรรจุสารพิษและเศษอาเจียนไปให้แพทย์ตรวจดูด้วย
การปฐมพยาบาลสำหรับสารพิษชนิดร้ายแรง

สารพิษชนิดร้ายแรงได้แก่ กรด แบตเตอรี่ น้ำยาล้างจาน น้ำยาฆ่าเชื้อโรค น้ำยาขัดสนิม น้ำมันเบนซิน น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาขัดโลหะ น้ำยาขัดล้างห้องน้ำ ยาฟอกสี น้ำยาขัดเครื่องเรือน กรดไนตริก ขี้ผึ้ง น้ำยาเช็ดกระจก น้ำมัน น้ำยาล้างเตาอบ น้ำมันดีเซล น้ำยาเช็ดปืน น้ำยาล้างท่อ น้ำยาดัดผม

ให้ดูลักษณะดังนี้คือ ขวดที่ตกอยู่ข้างตัวเด็ก รอยบวมเป่งรอบริมฝีปาก อาการคันปาก ปวดแสบปวดร้อนรอบปาก ที่คอและที่ท้อง กลิ่นสารพิษจากลมหายใจ ท้องเสียโดยมีโลหิตออกมา ปนกับอุจจาระ ไอ สำลักและกลืนอะไรไม่ลง

ข้อพึงปฏิบัติก่อนรีบไปหาหมอ

1. ให้เด็กดื่มนมสองแก้ว (น้ำก็ได้ ถ้าไม่มีนม)
2. แก้ไขอาการช็อกด้วยการให้เด็กนอนราบลงกับพื้น ขาตั้งชันขึ้น
3. ถ้าเด็กหมดสติให้ดูว่าเขายังหายใจได้หรือไม่ ถ้าติดขัดอาจต้องช่วยการหายใจทางปาก
4. พาไปหาหมอทันที
- อย่าให้เด็กดื่มของเหลวใดๆ ถ้าแกยังหมดสติอยู่ จะสำลักได้
- อย่าให้ยาช่วยแก้อาเจียนเพราะสารพิษประเภทร้ายแรงนี้ ไม่ควรทำให้เด็กอาเจียนออกมาเพราะจะทำให้ระคายเคือง
- อย่าลืมเก็บภาชนะบรรจุสารพิษไปให้หมอดูด้วย
หวังว่าความรู้เบื้องต้นนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณแม่ได้มากทีเดียว แต่สำหรับคุณแม่ที่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ฝากลูกให้พี่เลี้ยงดูแลก็ควรบอกเล่า ให้คำแนะนำกับพี่เลี้ยงของลูกด้วยเช่นเดียวกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว เพื่อจะได้ช่วยกันแก้ไขลูกน้อยได้ทันการหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ขึ้น

โสภาพรรณ รัตนัย

(update 5 มกราคม 2001)


[ ที่มา... นิตยสารแม่และเด็ก   ปีที่ 22 ฉบับที่ 329 กรกฎาคม 2542]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600