เสียงมีความสำคัญมากในการแก้ปัญหาลูกคุณงอแง บางทีการงอแงอาจขจัดได้
เพียงคุณปรับน้ำเสียงให้อ่อนโยนขึ้น ตอนพูดขอร้องให้เขาเลิกงอแง
งอแงอยู่อย่างนี้เป็นเวลาพอควร แม้จะเข้าไปโอบเข้าไปขอร้อง
เข้าไปขู่เข็ญอย่างไรก็ยังไม่ยอมเลิก
เมื่อคุณเห็นลูกคุณงอแงให้หยุดสังเกตลูกคุณครูหนึ่งก่อนเขางอแงเพราะอะไร
เป็นได้เขากำลังไม่สบายมีอาการตัวร้อนและอยากจะบอกคุณ งอแงแบบนี้แก้ไม่ยาก
หรือเขากำลังอึดอัด เช่น ถูกปล่อยไว้ในห้องคนพลุกพล่าน แต่ไม่มีใครสนใจเขา
งอแงแบบนี้แก้ไม่ยากเหมือนกัน
อาการงอแงที่พ่อแม่ควรให้ความสนใจและรู้จักวิธีแก้ไข คืออาการที่แสดงการรับไม่ไหวของเด็ก
ซึ่งเป็นอาการธรรมชาติอย่างหนึ่งของเด็กวัย 3 ขวบขึ้นไป จนบางทีถึงก่อนวัยรุ่น
อาการคือ เมื่อทำอะไรใกล้จะสำเร็จ เช่นแต่งตัวกำลังจะเสร็จจู่ๆ ลูกคุณก็ทรุดตัวลง
ขว้างถุงเท้าแล้งร้องไห้กระจองอแง หรือเล่นสนุกแล้ว อาบน้ำแล้วนั่งโต๊ะอาหารแล้ว
ทันทีเขากลับหุบปากพลัดกอดอกและไม่นาน ปล่อยเสี้ยงร้องไห้ออกมาปลอบเท่าไรไม่หาย
ไม่ยอมกินข้าวไม่ยอมลุกจากโต๊ะ
ช่วงที่เด็กกำลังเติบโตเป็นช่วงที่เด็กต้องเรียนรู้อะไรมากมาย เมื่อรู้แล้วเขาต้องเอามาลำดับ
เอามาปรับให้เข้ากับตัวเองและเอามาปฏิบัติจนเกิดความถูกต้อง และเมื่อรู้อะไรถูกต้องแล้ว
เขายังจะต้องรักษาความถูกต้องนั้นต่อไป ไม่เช่นนั้นจะถูกดุ ถูกตำหนิ ไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กตัวเล็กๆ
ที่จะต้องรับภาระนี้ ดังนั้นพอถึงช่วงเวลาหนึ่งเขาจึงระเบิดอารมณ์ออกมาในรูปของการงอแง
อย่าว่าแต่เด็กเลย การแสดงออกแบบนี้ผู้ใหญ่ยังทำได้บ่อยครั้งไปที่ตัวเรารู้สึกรับอะไรไม่ไหว
แล้วอารมณ์อยากหวนกลับไปสู่ความเป็นเด็กอีกครั้งไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่ต้องทำอะไรที่มีคนคอยจับตา
การงอแงอีกแบบที่พ่อแม่มักหาสาเหตุยาก ต้องงอแงเพราะอิจฉาพี่หรือน้องส่วนมากมักจะเป็นน้อง
โดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กยังไม่กี่ขวบและเพิ่งมีน้องเกิดใหม่
ในหลายกรณี การงอแงแบบนี้มักถูกแสดงออกในลักษณะรุนแรง เช่น เด็กอาจโยนช้อนส้อมทิ้ง
หรือถอดเสื้อผ้าออก แล้วขว้างลงกับพื้น ทำเช่นนี้เป็นประจำ จนคลายความอิจฉาได้จึงเลิก
ซึ่งทุกครั้งที่เกิดพ่อแม่ก็งงว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
สุดท้ายเป็นการงอแงที่มักเกิดเป็นประจำและส่วนมากพ่อแม่คุ้นเคยดี คืองอแงเพราะไม่พอใจ
คือมีใครไปขัดใจเข้าและทันทีเกิดอาการกระฟัดกระเฟียดร้องไห้เอาเป็นเอาตาย
ต้องมีคนไปงอนง้อ จึงยอมหยุด
ไม่ว่าลูกของคุณจะงอแงในรูปแบบใด วิธีแก้ง่ายๆ ที่มักได้ผลเสมอคือการเข้าไปโอบ
แต่ถ้าโอบแล้วยังไม่หาย ให้ลองอุ้มหรือฉุดให้ลุกขึ้น แล้วพาไปนั่งตรงที่นั่งสบายๆ เปิดพัดลมให้เขา
รินน้ำให้เขา พอบรรเทา การงอแงลงได้
เสียงมีความสำคัญมากในการแก้ปัญหาลูกคุณงอแง บางทีการงอแงอาจขจัดได้
เพียงคุณปรับน้ำเสียงให้อ่อนโยนขึ้น ตอนพูดขอร้องให้เขาเลิกงอแง
แต่ถ้าเอาใจขนาดนี้แล้ว ลูกคุณยังงอแงขอให้ทำดังนี้ วางตัวเฉยทำทีไม่สนใจ
ปล่อยให้เขาสิ้นฤทธิ์ไปเอง ถ้าใครเคยคุ้นเคยกับชาวต่างประเทศ คงเคยเห็นพ่อแม่ฝรั่ง
เวลาลูกเขางอแงไม่เลิก เขาจะปล่อยลูกให้อยู่ตรงนั้น แล้วให้งอแงไปเรื่อยๆ นี้ไม่ได้แสดงว่า
เขาไม่ได้รักลูก แต่เขาต้องการแสดงให้ลูกเห็นพ่อแม่ก็มีระดับความอดทนเหมือนกัน
การงอแงถ้ามากเกินไปควรมีการลงโทษ เช่น งอแงซ้ำซาก งอแงจนทำให้คนอื่นเดือดร้อน
หรืองอแงจนอาจเป็นภัยต่อตัวเอง
การทำโทษควรทำในขณะเกิดเรื่อง คือหลังจากที่คุณรู้สึกลูกคุณชักจะงอแงเกินไป
หรือเป็นการงอแงที่เสียหาย คุณอาจสั่งให้ลูกคุณไปนั่งคนเดียวในอีกห้องหนึ่ง บอกไปด้วยเลย
ต้องไปนั่งนานเท่าไร เพื่อเขาจะได้รู้สึกคุณกำลังเอาจริง
และหลังจากลงโทษควรมีการคาดโทษด้วย คือบอกให้เขาทราบเขาจะได้รับโทษอะไร
ถ้ายังงอแงเช่นนั้นอีกโดยพ่อแม่อาจลงโทษ เช่น งดซื้อขนยม งดดูโทรทัศน์ งดพาไปเที่ยว ฯลฯ
การคาดโทษจะคอยเตือนเขาให้ระมัดระวังไม่ได้หมายความเขาจะเลิกงอแง
แต่จะช่วยให้เขาคิดก่อนที่จะงอแงหรือลดความรุนแรงในการงอแง
จะเห็นว่า การปราบการงอแงที่กล่าวมานี้ไม่มีการใช้ไม้เรียวแม้แต่น้อย...
องศาร้อย
|