มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



นมแม่นี่สิสำคัญ


คุณแม่ต่างก็ทราบกันดีแล้วว่า " น้ำนมแม่ " เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เป็นวิธีการให้อาหารตามหลักธรรมชาติ แต่ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ทำให้คุณแม่หลายท่านต้องตัดใจยุติการให้นมลูกด้วยตนเองก่อนเวลาอันควร อีกทั้งเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น ทำให้มีการผลิตอาหารมาทดแทนน้ำนมแม่กันมากขึ้น แต่ยังคงยืนยันว่าไม่มีอาหารใดในโลก ที่จะผลิตออกมาได้เหมือน " น้ำนมแม่ " ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ และไม่มีท่าอุ้มใดที่ทารกจะอบอุ่น และรู้สึกปลอดภัยเท่าท่าอุ้มขณะให้นมจากอกแม่

หลายๆ ท่านยังเข้าใจว่าการให้นมแม่เป็น " สัญชาตญาณของคนหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม " จึงไม่จำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้เมื่อคลอดลูกได้ก็จะทำเป็นเอง ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด อันที่จริงแล้วการให้นมลูกถือเป็นพฤติกรรมหนึ่งที่คุณแม่ต้องศึกษาและเรียนรู้วิธีการที่ถูกต้อง เพื่อให้ทารกได้รับนมอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด

คุณแม่ควรเริ่มต้นเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ภายในครึ่งชั่วโมงแรกที่ทารกคลอดออกมา ดังนั้นสถานพยาบาลที่เข้าใจในเรื่องนี้ดีมักจะให้ทารกและคุณแม่อยู่ห้องเดียวกัน ก่อนที่จะกล่าวถึงวิธีการให้นมที่ถูกต้องต่อการให้นมแม่ก่อนเริ่มต้นด้วยการกำจัดความเชื่อ และความเข้าใจที่ผิดๆ ออกไปก่อนความเชื่อเหล่านี้ได้แก่
  • การให้นมลูกทำให้เต้านมหย่อนยาน ข้อเท็จจริงก็คือ เต้านมหย่อนยานเกิดจากอายุของคุณแม่มากกว่า และปัญหานี้จะหมดไปด้วยการใช้ชุดชั้นในประคองทรวงอกที่จำหน่ายทั่วไป
  • คุณแม่มีเต้านมขนาดเล็กจะมีน้ำนมไม่เพียงพอ ข้อเท็จจริงก็คือ แม้ว่าคุณแม่จะมีขนาดเต้านมเล็กก็จริงแต่ยังคงมีต่อมน้ำนมไม่แตกต่างจากคุณแม่ ที่มีเต้านมขนาดใหญ่ ยิ่งเมื่อทารกดูดนมจะยิ่งกระตุ้นให้มีการสร้างน้ำนมเพิ่มขึ้น จึงมีน้ำนมเพียงพอให้ทารกตลอดเวลา
  • การให้ลูกดูดนมจะทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลง ข้อเท็จจริงคือคุณแม่ที่ให้ลูกดูดนม กลับจะมีความรู้สึกทางเพศดีกลับสู่สภาพปกติเร็วกว่าคุณแม่ที่ไม่ให้ลูกดูดนม
  • การที่คุณแม่ไม่มีน้ำนมให้ลูกดูดเป็นสิ่งปกติ เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะปกติคุณแม่ควรจะมีน้ำนมให้ลูกดูดเพียงพอเพียงแต่แม่ต้องใส่ใจ เริ่มต้นให้ลูกดูดนมเร็ว เพราะปกติคุณแม่ควรจะมีน้ำนมให้ลูกดูดเพียงพอ เพียงแต่คุณแม่ต้องใส่ใจเริ่มต้นให้ลูกดูดนมเร็ว (ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังคลอด) ขึ้นและบ่อยขึ้น การที่ลูกดูดนมจะช่วยให้คุณแม่น้ำนมมากพอ (เนื่องจากมีการกระตุ้นจากแรงดูดของลูก)
ถึงตอนนี้คุณแม่คงกำจัดความเชื่อผิดๆ ออกไปได้แล้ว ท่านก็สามารถให้ลูกดูดนม ได้อย่างสบายใจต่อไปเราจะมาเล่าถึงการดูแลเต้านมคู่สวยของคุณแม่ให้สามารถเป็นแหล่งอาหาร ของทารกไปนานๆ เริ่มต้นด้วย

  • การตรวจลักษณะของหัวนม

หัวนมปกติที่ทารกจะดูดได้ก็คือ หัวนมที่ยื่นออกมา แต่คุณแม่หลายท่านประสบปัญหา "หัวนมบอด" ซึ่งทำให้ไม่สามารถให้ลูกดูดนมได้อย่างปกติ แต่ปัญหานี้แก้ไขได้ไม่ยากสามารถเตรียมแก้ไข ตั้งแต่ก่อนคลอดโดยใช้อุปกรณ์ที่ทำด้วยพลาสติกรูปครึ่งวงกลม (คล้ายซาลาเปา) ที่มีรูระบายอากาศอยู่ด้านบน (ยอดซาลาเปา) และมีรูขนาดเท่าหัวนมแม่อยู่ตรงฐานซาลาเปา เรียกว่า Breast Cup หาซื้อได้ ตามห้างสรรพสินค้าที่ขายอุปกรณ์สำหรับแม่และเด็กทั่วไป

วิธีใช้ก็คือ Breast Cup นี้สวมครอบไว้ที่หัวนมแล้วสวมเสื้อยกทรงทับอีกทีอุปกรณ์จะไปกดที่ลานนม (ฐานของหัวนม) ทำให้หัวนมกระเด้งออกมาโดยใส่เป็นเวลาสั้นๆ 1-2 ชั่วโมงก่อน เมื่อเคยชินแล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ จนหัวนมยื่นออกมาถาวร ระยะเวลาที่ใช้มีตั้งแต่ 1 เดือน – 3 เดือน ดังนั้นคุณแม่ควรเริ่มใช้ Breast Cup ตั้งแต่ตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน เมื่อครบกำหนดคลอด หัวนมจะยื่นออกมาพอดี

  • การรักษาความสะอาด

ปกติหัวนมและลานนมเป็นผิวหนังที่บอบบางไม่เหมาะที่จะใช้สบู่ล้างหรือนำแอลกอฮอล์ไปเช็ดถู เพราะจะทำให้ผิวหนังแห้งแตก คุณแม่จะเจ็บปวดหัวนมได้ การทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าทุกครั้ง หลังให้นมลูกก็เพียงพอแล้วค่ะ

  • การรักษาเต้านมไม่ให้หย่อนยาน

คุณแม่จะสังเกตได้ว่าขณะตั้งครรภ์และให้นมลูก เต้านมจะมีขนาดใหญ่กว่าปกติมาก โดยเฉพาะช่วงให้นมลูกขนาดจะใหญ่ขึ้น 3-4 เท่า คุณแม่มักจะกังวล ว่าเต้านมจะหย่อนยานก่อนวัยอันควร ปัญหานี้แก้ไขได้ง่ายด้วยการใช้เสื้อยกทรงที่ขนาดพอดีกับเต้านม เลือกชนิดที่มีโครงพยุงทรง โดยใส่ทั้งกลางวันและกลางคืน

  • การรักษาอาการเต้านมคัด

เชื่อว่าคุณแม่หลังคลอดเกือบทุกคนจะมีอาการคัดตึงที่เต้านมหลังคลอดได้ 3-4 วัน สาเหตุเนื่องจากการเร่งสร้างน้ำนมจนถุงน้ำนมโป่งเบียดให้ท่อน้ำนมตีบลงก็เลยรู้สึกคัดตึง การแก้ไขทำได้หลายวิธี วิธีที่ทำได้ง่ายที่สุดคือ ให้ลูกดูดนมบ่อยขึ้นหรือดูดทันทีที่มีอาการคัดตึง หรือใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบที่เต้านม ดื่มน้ำอุ่นๆ หรือถ้าลูกดูดนมจนอิ่มแปล้แล้วยังมีอาการคัดตึงอยู่ ให้คุณแม่ปั๊มน้ำนมออกเท่านี้ก็หายจากอาการคัดตึงแล้วค่ะ

  • เจ็บหัวนม

อาการนี้พบได้กับคุณแม่ทุกคน สาเหตุหลักๆ เกิดจากการดูดนมของลูกไม่ถูกท่า เหงือกของทารกจึงเสียดสีกับหัวนม ท่าที่ถูกต้องคือ คุณแม่ต้องอุ้มลูกให้กระชับอก ให้ลูกงับถูกลานนม โดยคุณแม่ใช้มือคอยพยุงเต้านมไว้เมื่อลูกอิ่ม จะเอาหัวนมออกจากปากลูก ให้ใช้นิ้วสอดลงไปที่มุมปากลูก เพื่อให้อากาศเข้าไป ช่วยคลายผนึกที่ลูกดูดติดอยู่กับหัวนม ทำให้คุณแม่ไม่เจ็บด้วย อย่างไรก็ตาม หากเกิดอาการเจ็บขึ้นแล้วถ้าพอทนได้ ควรให้นมต่อไปแต่เปลี่ยนท่าอุ้มเพื่อหาตำแหน่ง ของการกดเหงือกบนหัวนมของลูกที่ถูกต้องจนหายเจ็บไปเอง

  • หัวนมเปียกชื้น

หลายๆ ท่านจะรู้สึกรำคาญเนื่องจากมีน้ำนมไหลซึมอยู่ตลอดเวลา วิธีแก้ไขก็คือ เปลี่ยนผ้าซับน้ำนมบ่อยๆ แต่ไม่ควรใช้ผ้าซับน้ำนมชนิดที่บุด้วยพลาสติก เพราะความชื้นจะไม่ระเหยออกไป

นอกจากการดูแลเต้านมของคุณแม่ แล้วใคร่ขอแนะนำหลักการให้นมลูกเพิ่มเติม ดังนี้
  • ไม่ควรให้อาหารอื่นทดแทนน้ำนมแม่ เช่น นมสูตรทารก น้ำเปล่า เพราะจะทำให้ทารกอิ่ม ดูดนมแม่ได้น้อยลง
  • ไม่ควรให้ลูกดูดหัวนมหลอกเพราะจะทำให้ลูกเลิกดูดนมแม่เร็วขึ้น
  • การให้ลูกดูดนมแต่ละครั้งควรให้ดูดทั้ง 2 เต้า โดยดูดเต้าแรกให้หมดก่อนจึงเปลี่ยนมาดูดอีกเต้าหนึ่ง แต่ถ้าลูกอิ่มก่อน การดูดครั้งถัดไปให้เริ่มจากเต้าที่ดูดค้างไว้คราวก่อนหน้าจนหมดแล้วจึงเปลี่ยนเต้า
  • คุณแม่ต้องระมัดระวังดูแลสุขภาพ ต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่เครียดเพราะอาการอ่อนเพลีย, เครียด ทำให้น้ำนมไม่ไหล
  • ระหว่างการให้นมลูกและระยะหลังคลอดคุณแม่ควรได้รับอาหารดีๆ มีประโยชน์พยายามดื่มน้ำอุ่นมากๆ เพื่อให้มีน้ำนมที่มีคุณภาพและเพียงพอ
  • ให้ลูกดูดนมสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายแม่สร้างฮอร์โมนสำหรับผลิตน้ำนมมากๆ
  • การใช้ยาต่างๆ ระหว่างที่ให้นมลูกควรใช้อย่างระมัดระวัง ปรึกษาผู้รู้ก่อนใช้ สำหรับเรื่องยาใดบ้างใช้ได้ ยาใดใช้ไม่ได้ไว้เราจะมาคุยกันต่อไปในฉบับหน้าค่ะ
นอกจากนี้ยังมีหลายท่านข้องใจว่า ถ้าคุณแม่บังเอิญต้องไปทำธุระนอกบ้าน ไม่สามารถนำทารกไปด้วยได้จึงบีบนมใส่ขวดทิ้งไว้ จะเก็บรักษาอย่างไรจึงจะถูกวิธี ใคร่ขอแนะนำว่า เริ่มต้นด้วยการฆ่าเชื้อโรคที่ขวดนมก่อน แล้วบีบน้ำนมใส่ขวดปริมาณเท่ากับอาหาร 1 มื้อของทารก เก็บใส่ตู้เย็นไว้ในช่องปกติ เก็บได้นาน 24 ชม. แต่ถ้าแช่ช่องแข็งเก็บได้นานถึง 2 สัปดาห์ ก่อนจะบีบน้ำนมใส่ขวด ทุกครั้งคุณแม่ควรบีบทิ้ง 2-3 ครั้งแรกก่อน ส่วนวิธีการบีบที่ถูกต้องก็คือ การนวดเต้านมเบาๆ เพื่อกระตุ้นกลไกของน้ำนมให้ทำงาน (มีแรงพุ่ง) ขณะบีบให้ใช้นิ้วหัวแม่มือวางด้านบน นิ้วชี้วางไว้ด้านล่างของลานนมแล้วกดทั้งสองนิ้วเข้าหาลำตัวเล็กน้อยพร้อมบีบเข้าหากันเป็นระยะ จะมีน้ำนมพุ่งออกมาโดยไม่เจ็บเลยค่ะ

ฉบับนี้เราคุยกันเฉพาะเรื่องของ "เต้านม" กับ "น้ำนม" ฉบับหน้าจะคุยกันถึงเรื่องของ "ยา" ที่คุณแม่ใช้ว่าจะถ่ายทอดไปยังทารกทาง "น้ำนม" อย่างไรกันบ้าง มีอันตรายหรือไม่โปรดติดตามนะคะ

ภญ.ยุวดี หงส์รัตนาวรกิจ

(update 17 มกราคม 2001)


[ ที่มา... นิตยสารแม่และเด็ก   ปีที่ 23 ฉบับที่ 341 กรกฎาคม 2543]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600