เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า "กลิ่นปาก" เป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ว่าในเด็กหรือในผู้ใหญ่ หากเกิดกลิ่นปากขึ้นนอกจากจะรบกวนคนอื่นแล้ว
ตัวเองยังเกิดความไม่มั่นใจตลอดเวลา ดังนั้นเรื่องที่หมอพิมจะคุยกันวันนี้
ใช้ได้ทั้งกับคุณลูกและคุณพ่อคุณแม่ด้วย เพราะใครๆ ก็ไม่อยากมีกลิ่นปากด้วยกันทั้งนั้น
เรามาว่ากันถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นปากก่อนนะคะ แบ่งเป็นสาเหตุใหญ่ๆ ได้ 2 อย่างคือ
1. สาเหตุจากในช่องปากเอง
กลิ่นปากจะเกิดจากความสกปรกในช่องปากนั่นเอง มาดูกันว่า สาเหตุจากในช่องปาก
ที่ทำให้ปากเหม็นมีอะไรบ้าง
- การแปรงฟันไม่สะอาด การที่แปรงฟันไม่สะอาด เช่น ในเด็กที่ผู้ปกครองให้แปรงฟันเอง
โดยไม่ช่วยแปรงซ้ำให้ ส่วนใหญ่จะแปรงได้ไม่ดี ทำให้มีเศษอาหารตกค้างอยู่
และก็เป็นธรรมดาค่ะ เมื่อตกค้างอยู่นานๆ อาหารนั้นจะบูดเน่าทำให้เกิดกลิ่นเหม็น
โดยเฉพาะการแปรงฟันตอนก่อนนอนนั้น ควรเน้นเป็นพิเศษ ถ้ามีเศษอาหารตกค้างอยู่
เมื่อเราหลับไปเราไม่ได้อ้าปากพูดหรือทานอาหาร ดังนั้นอุณหภูมิในช่องปากจะสูงขึ้น
ทำให้เหมาะกับการที่เชื้อโรคในช่องปากจะทำปฏิกิริยากับซากอาหารที่ค้างตามซอกฟัน
ผลตามมาคือ จะเกิดกลิ่นเหม็นมากรวมทั้งฟันผุกร่อน เหงือกอักเสบง่ายอีกด้วย
- การแก้ไขสำหรับเรื่องนี้คือ ให้แปรงฟันให้สะอาดที่สุด พยายามใช้เวลาในการแปรงฟันให้มากขึ้น
และพิถีพิถันขึ้นค่ะ
- มีฟันผุเป็นรูอยู่ เมื่อมีฟันผุเป็นรู รูเหล่านี้เป็นแอ่งหรือแหล่งสะสมเศษอาหาร
ซึ่งมักจะตกลงไปคั่งค้างอยู่ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้มาก การแก้ไขก็โดยไปพบหมอฟัน
เพื่อตรวจรักษาฟันที่ผุนั้น เมื่ออุดฟันแล้วก็จะไม่มีรูให้เศษอาหารตกลงไปอีก กลิ่นปากจะไม่มี
- มีหินปูน เหงือกอักเสบ หินปูนนั้นเกิดจากแคลเซียมในน้ำลายตกตะกอนทับถมอยู่
บนคราบอาหารแฉะๆ ซึ่งจับอยู่ตามคอฟันและซอกฟัน ปกติคราบอาหารจะทำให้เกิด
กลิ่นเหม็นอยู่แล้ว ถ้ายิ่งมีหินปูนด้วยหินปูนนี้จะกระตุ้นให้เกิดเหงือกอักเสบ
มีเลือดออกง่ายถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจเกิดหนองขึ้นที่เหงือก ดังนั้น
กลิ่นปากจากสาเหตุของหินปูนนี้จะเหม็นรุนแรงมาก
- การแก้ไข โดยการไปพบหมอฟัน เพื่อทำการขูดหินปูน และข้อสำคัญต้องแปรงฟันให้สะอาดอยู่เสมอ
- การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นรุนแรง อาหารบางอย่างมีกลิ่นรุนแรงและติดปาก เช่น
หัวหอม, กระเทียม, กะปิ, ปลาร้า, สะตอ, ทุเรียน เป็นต้น
- การแก้ไข โดยแปรงฟันหลังจากรับประทานอาหารเหล่านี้ พอจะช่วยให้กลิ่นลดลงไปได้บ้าง
2. สาเหตุนอกช่องปาก
บางรายเกิดกลิ่นปากเนื่องจากกลิ่นนั้นมาจากอวัยวะอื่น เช่น จากจมูก, โพรงจมูก, ลำคอ
คือเป็นโรคอื่นๆ ที่ไม่ได้มาจากฟัน เช่น โรคไซนัสอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอด
หรือบางรายมีกลิ่นจากการเป็นโรคในระบบทางเดินอาหาร
การแก้ไข โดยการรักษาโรคต่างๆ ดังกล่าว กลิ่นปากก็จะหายไป
จะเห็นได้ว่ากลิ่นปากนั้นมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากความสกปรกหมักหมมในช่องปาก หากใครรู้ตัวว่า
ตัวเองมีกลิ่นปากก็จะขาดความมั่นใจไปมากทีเดียว นอกจากนี้บางรายเกิดการเคยชินกับกลิ่นเหม็นของตัวเอง
ทำให้ไม่ทราบว่าเขามีกลิ่นปากก็มี ปัญหาเรื่องกลิ่นปากบางท่านอาจคิดว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่เชื่อไหมคะ
มีคนไข้มากมายที่กลัดกลุ้มในเรื่องกลิ่นปากนี้มากจนไม่เป็นอันทำอะไร เขาจะไม่มั่นใจไปหมด
หากได้ทราบสาเหตุและการแก้ไขอย่างที่หมอพิมเล่าไปแล้ว คงจะปฏิบัติตัวได้ดีขึ้นเพื่อการแก้ไข
ในเด็กนั้นผู้ปกครองมักจะพามาพร้อมกับบอกว่าไม่ไหวเลยลูกคนนี้กลิ่นปากรุนแรงมาก
ให้คุณหมอช่วยแก้ไขให้ด้วย เมื่อตรวจดูมักพบว่าเกิดจากฟันผุเป็นรู ทำให้เศษอาหารหมักหมมเกิดกลิ่น
ถ้าเป็นอย่างนี้รักษากันได้สบายคะ ขอให้มาถึงมือหมอฟันก็แล้วกัน
อีกคำถามที่พบบ่อย คือในผู้ใหญ่มักมาปรึกษาว่า น้ำยาบ้วนปากยี่ห้อไหนให้ผลชะงัดที่สุด
ในการลดกลิ่นปาก อันนี้ตอบได้เลยค่ะว่า ตราบใดที่ในช่องปากยังมีเศษอาหารหมักหมม, ฟันผุ,
หินปูนเกาะล่ะก็ ไม่ว่าน้ำยาป้วนปากยี่ห้อไหนก็ช่วยคุณไม่ได้ ดับกลิ่นกันไม่หมด
หมอจึงขอให้เน้นไปที่การทำความสะอาดฟันอย่างสม่ำเสมอ ขจัดรอยฟันผุ หินปูน
แล้วปัญหาจะหมดไป
ปัญหากลิ่นปากนี้ดูคล้ายเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าเกิดขึ้นกับตัวเองแล้วคงพูดไม่ออกทีเดียวค่ะ
เพราะไม่กล้าพูดไงคะกลัวกลิ่นไปรบกวนคนอื่น ดังนั้นกันไว้ดีกว่าแก้อีกแหละค่ะ เชื่อหมอพิมเถอะ
ท.ญ.วิริยา ออประยูร
|