มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



ทำไมลูกเล็กๆ ตายต่อหน้าไม่รู้ตัว


พ่อแม่ที่รักลูกทั้งหลายคงเคยอ่านข่าวที่พ่อแม่พาลูกไปเที่ยวเขาดิน
แล้วโดน (เข้าใจว่า) ลูกเสือกัด เพราะคนเลี้ยงพาออกมาเดินเล่นและเด็กคนนั้นอายุไม่กี่ขวบ

อ่านแล้วไม่สบายใจ เนื่องจากเด็กเล็กๆ มักจะชอบสัตว์จึงอดเดินไปลูบไปจับไม่ได้ แต่สัตว์ก็คือสัตว์ไม่อาจจะรู้ดีรู้ชั่ว รู้แต่ว่าหิวก็กินใครเข้าใกล้ก็กลัวขอกัดไว้ก่อน ไม่ชอบใจใครจะกัด เพื่อป้องกันตัวมันเอง มันไม่รู้หรอกว่านั่นเป็นสิ่งไม่ดีจะว่าเป็นความผิดของมันคงไม่ถูกเท่าไร เป็นของเรื่อของ "คน" จะต้องระมัดระวังตัวกันเอง อย่าพาเด็กไปในที่ทำให้เกิดอันตราย

เวลาพาเด็กไปที่มีสัตว์ป่าควรจะระมัดระวังไม่ควรให้เด็กห่างสายตาหรือให้เด็กอยู่คนเดียวเป็นอันขาด มิฉะนั้นอาจต้องเสียใจจนตายก็ได้ เหมือนตัวอย่างที่อยากบอกอยากเล่าต่อไปนี้ เพื่อไม่ให้เกิดกับใครในประเทศไทยไม่ว่าจะพาลูกไปไหน

เรื่องแรก เกิดในแอฟริกาเมื่อซินเทียนักธุรกิจหญิงพาลูกชายวัยขวบครึ่งไปเที่ยวป่า แล้วเธอจอดเพื่อเข้าห้องน้ำและปล่อยลูกไว้ในรถที่ล็อคไว้
ปรากฏว่า ลูกถูกสิงโตกินไปเรียบร้อยแล้ว!!

เธอบอกว่า เธอเข้าห้องน้ำแค่ 3 นาทีเท่านั้นก็พบว่า สิงโตตะปบลูกจากรถไปกองบนพื้นและกินลูกชาย เหลือแต่เสื้อกับขาของลูกเท่านั้น
เธอร้องโหยหวนสุดเสียงขอความช่วยเหลือจนหน่วยพิทักษ์ป่าขับรถจิ๊ปมาช่วยและยิงสิงโตตาย
แล้วเธอก็เป็นลมไป มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ในโรงพยาบาลและต้องให้ยานอนหลับตลอดอาทิตย์ เนื่องจากภาพของลูกที่ตายอย่างทารุณตราตรึงอยู่ในใจ



สินเทีย (วัย 31 ปี) เล่าว่าเธอไปแอฟริกากับลูกชายเพียงเพื่อพาลูกไปเที่ยว หลังจากต้องต่อสู้กับการหย่าร้างอย่างขมขื่นเกือบ 10 ปี เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยจึงอยากพาลูกชาย ไปพ้นบอสตันให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไปได้ ประกอบกับมีเพื่อนที่เคยไปแอฟริกาเมื่อปีที่แล้วแนะนำให้เธอไปเที่ยวที่นั่น

การเที่ยวช่วง 6 วันแรกก็สนุกสนานกันดี แต่มามีเรื่องในวันต่อมาเมื่อเธอขับรถไปที่ Sourberge Game Park ซึ่งเป็นถิ่นทุรกันดาร แต่ในแผนที่กลับบอกว่าปลอดภัย แล้วยังมีโถส้วมเคลื่อนที่ไว้ให้คนเดินทางใช้ ทำให้เชื่อว่าคงไม่มีอันตรายอะไรกับพวกมาเที่ยวจึงลงไปปลดทุกข์โดยล็อกประตูไว้เพื่อไม่ให้ลูกเปิดออกมา แต่กลัวลูกจะร้อนเกินไป จึงเปิดกระจกไว้แค่ 1 นิ้วและวิ่งเข้าห้องน้ำ
ขณะที่เธอเข้าห้องน้ำมีสิงโตตัวใหญ่หนักประมาณ 400 ปอนด์ ดึงกระจำรถเก่าๆ ที่เช่ามาแล้วลากลูกชายของเธอออกมากิน
"ฉันออกจากห้องน้ำก็ช่วยลูกไม่ได้เลย ฉันเคราะห์ร้ายจริงๆ หลังจากต้องสู้กับการหย่าร้างมายาวนาน ในชีวิตไม่มีอะไรที่ทารุณกว่านี้อีกแล้วที่เห็นลูกคนเดียวโดนสิงโตกอนโดยไม่มีทางช่วยเหลือลูกได้เลย"
น่าขนลุกไหม!!



เรื่องที่สอง เกิดในดาร์การ์ เซเนกัล ที่ปลาหนัก 350 ปอนด์ กินเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ขณะที่แกเล่นน้ำที่ชายหาด
นักทัศนาจรและผู้คนอาศัยอยู่ตรงนั้นต่างเห็นเหตุการณ์แต่ไม่รู้จะช่วยเด็กน้อยได้อย่างไร ขณะที่พ่อแม่ของเด็กยืนตะลึงตกตื่นใจและหัวใจแทบสลาย
ชาวประมงกระโจนลงไปในน้ำและเอาฉมวกแทงปลาทันทีที่ได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของเด็กน้อยอย่างไร ก็ตามแม้เขาจะจับปลาได้แต่ช่วยเด็กน้อยไม่ไดเมื่อปลากลืนเด็กน้อยเข้าไปในท้องเสียแล้ว

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้แค่ 1 ในล้านคนเท่านั้น



เฮดอน ไมเคิล ผู้เชี่ยวชาญปลายืนยันว่าปกติปลาจะไม่กินคนแบบนี้ยกเว้นปลาดุร้าย เช่น ฉลาม ปิรันยา เป็นต้น ปลาชนิดนี้ชอบอาศัยอยู่ตามริมฝั่งก็จริงแต่จะอยู่ในน้ำตื้นๆ เพื่อหาอาหารและที่หนูน้อยโดนกินอาจจะมีสาเหตุบางอย่างทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งอาจจะเป็นเสื้อว่ายน้ำสีสดใสที่เด็กน้อยใส่จนดูหนูน้อยเหมือนปลาอีกตัว หากปลาอยากกินเด็กน้อย เด็กน้อยย่อมไม่มีทางสู้แน่ เพราะปลาตัวใหญ่มาก ใหญ่พอจะกลืนเด็กน้อยทั้งตัวได้

ฟิลลิป ดูปี ชาวประมงคนเก่งที่เอาฉมวกแทงปลาย้ำเตือนว่า จะให้ปลอดภัยอย่าให้เด็กเข้าใกล้ปลาใหญ่ รวมทั้งไม่ควรแต่งตัวสีสันสดใส จนปลานึกว่าเป็นปลาหรือเหยื่ออีกตัวที่มันอยากกิน ขณะเดียวกันเขางงตัวเองที่ลงไปในน้ำได้อย่างรวดเร็วทันทีทันควันที่ปลากินเด็กน้อย
"อาจจะเป็นพระเจ้าที่อยากให้ผมทำแบบนี้เพื่อไม่ให้พ่อแม่ของเด็กต้องเศร้าโศกกว่านี้ อย่างน้อยพวกเขาก็ได้ศพคืนมาบ้าง

พ่อแม่ของเด็กน้อยไม่ยอมให้สัมภาษณ์เพราะพอลกับแคทเธอรีน มาร์เวล สะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งกับลูกสาวสุดที่รักที่เป็นแก้วตาดวงใจของทุกคนในบ้านต้องตายไปต่อหน้า

เด็กอายุแค่นี้ก็ต้องมาตายอย่างเจ็บปวดแบบไม่คาดฝันคงไม่พ่อแม่คนไหนทนได้
จึงอยากฝากพ่อแม่ทุกคนอย่าได้ประมาทเวลาพาลูกไปเที่ยวที่ไหนเพราะสิ่งที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะสัตว์ที่เราชอบไว้ใจ แม้แต่หมาก็เคยกินเด็กมาแล้วในอเมริกา แถมกินลูกอัณฑะเด็กแบเบาะ เพราะความหิวทำให้เด็กน้อยคนนั้นก็กลายเป็นเด็กมีปัญหาที่เกิดมาเป็นชายแต่ขาดสิ่งสำคัญของชีวิตไป

น่าสงสารจริง...

รศ.สุพัตรา สุภาพ

(update วันที่ 29 สิงหาคม 2543)


[ ที่มา... นิตยสารแม่และเด็ก   ปีที่ 23 ฉบับ 342 สิงหาคม 2543 ]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600