มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



ฉลาดเล่น (8-9 เดือน)

สุมนา ตัณฑเศรษฐี


คุณแม่เคยวิดพื้นหรือเปล่าคะ วิดพื้นโดยท่าของผู้หญิงจะแตกต่างจากท่าของผู้ชาย ท่าวิดพื้นของผู้หญิงจะงอเข่าวางบนพื้นได้ งอข้อศอก แล้วเหยียดให้อกลอยสูงจากพื้นท่านี้เป็นท่าที่ลูกน้อย วัย 8-9 เดือน ใช้เพื่อเตรียมตัวคลาน

ถ้าคุณแม่ไม่เคยวิดพื้นมาก่อนแล้วให้คุณแม่ทำ คุณแม่จะรู้สึกเหนื่อยหมดแรง แต่คุณแม่คงไม่ต้องห่วงสำหรับลูก เพราะเราได้ฝึกหัดเสริม
สร้างความแข็งแรงให้กับแขนขาของลูกมาอย่างสม่ำเสมอแล้ว

เมื่อลูกอยู่ในท่าเตรียมพร้อมจะคลานได้ ลูกอาจจะยังคลานไม่ได้เพราะการคลานไปข้างหน้า จะต้องก้าวแขนและขาไปอย่างเป็นจังหวะ ถ้าเรายกแขนขวาขึ้นเพื่อที่จะก้าว จุดรับน้ำหนักของตัวทั้งหมดคือ แขนซ้ายและเข่าทั้งสองข้าง รวมเป็นการลงน้ำหนักเพียง 3 จุด การทรงตัวบน 3 จุดนี้จะต้องดีพอ นั่นคือ สะโพกทั้ง 2 ข้างจะต้องแข็งแรง กล้ามเนื้อลำตัวแข็งแรงจะทำให้เอวไม่บิดไปมา เหมือนคนขี่จักรยานไม่เป็น แขนแต่ละข้างก็ต้องแข็งแรง ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถโยกตัว เพื่อถ่ายน้ำหนักเวลาก้าวไปได้

การออกกำลังกายทุกส่วนโดยใช้ของเล่นที่เราได้ฝึกหัดลูกมาแล้ว ทำให้ลูกมีความพร้อมที่จะคลาน
การคลานบ่อยๆ ก็ทำให้กล้ามเนื้อสะโพก ลำตัว แขนแข็งแรงยิ่งขึ้น ความว่องไวในการคลาน ก็ยิ่งเสริมประสิทธิภาพในการพัฒนาของกล้ามเนื้อยิ่งขึ้น คลานไปไหน ไปทำอะไร ของเล่นคงเป็นเป้าหมายสำคัญที่ลูกจะคลายไปหา

ของเล่นในวันนี้ควรจะเคลื่อนไหวได้ เช่น ตุ๊กตาไขลานให้เดินได้ ลูกบอลหรือขวดพลาสติกเปล่า สีสันสวยงามที่หนีจากมือลูกได้เมื่อลูกไขว่คว้า และน่าสนใจที่จะคลานติดตามไปหยิบจับ

เด็กบางคนอาจไม่ผ่านขั้นตอนการคลาน แต่สามารถพาตัวเองเคลื่อนที่ไปได้โดยการนั่งเหยียดขา แล้วกระเถิบก้นไปข้างหน้าด้วยการเกร็งงอเข่า ก็ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องจับลูกให้มาคลาน หาของเล่นให้ลูกเช่นเดียวกันลูกอาจเล่นตามลำพัง แต่ลูกจะสนุกสนานมากถ้าคุณพ่อคุณแม่ได้เล่นด้วย โดยการวางของเล่นล่อ ณ จุดต่างๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ไปคอยร้องเรียก ส่งเสียงเชียร์ให้ลูกมาหาของเล่น

ไม่ลืมใช่ไหมคะว่าลูกเกาะยึดตัวลูกขึ้นยืนได้แล้ว และพยายามปล่อยมือด้วย ตื่นเต้นดีนะคะ ไหนจะต้องเล่นกับลูก ไหนจะต้องคลานตามกลัวลูกจะเกิดอุบัติเหตุ ไหนจะคอยรีบเข้าประคอง ก่อนที่ลูกจะยืนปล่อยมือแล้วล้มก้นกระแทก

นับว่าลูกน้อยมีส่วนช่วยให้คุณแม่ได้ออกกำลัง เดี๋ยวนั่ง เดี๋ยวยืน เมื่อคุณแม่ได้อยู่กับลูก จะพบว่าวันๆ หมดไปโดยไม่รู้ตัว แต่ภารกิจประจำวันของคุณแม่ยังรออยู่ คุณแม่ต้องเข้าครัว ปรุงอาหารให้กับสมาชิกในครอบครัว แล้วยังต้องดูแลลูกอีก
ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วนะคะ

เมื่อถึงเวลาที่คุณแม่ต้องเข้าครัว ก็พาลูกเข้ามาด้วย ปล่อยลูกอยู่บนพื้นครัว เก็บเศษวัสดุต่างๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อลูกให้หมด หาเครื่องครัวที่คุณแม่มีอยู่ใบเล็กสุดให้ลูกก็จะมีหม้อ กระทะ ถ้วยชาม โดยเฉพาะช้อนและทัพพีที่ขนาดพอเหมาะกับมือของลูกที่จะจับมาเคาะเล่นกับหม้อ กระทะ ถ้วยชามให้เกิดเสียงดัง สนุกมากน่าตื่นเต้นสำหรับลูก อาจจะเสียงดังไปหน่อย นั่นหมายถึง แขนของลูกมีกำลังมากขึ้น ลูกได้ฝึกการฟังเสียงค่อยเสียงดัง

ถ้าลูกเบื่อการเคาะลูกก็จะหยิบชามช้อน ทัพพีใส่ในหม้อ เวลาใส่ก็เกิดเสียงดัง แปลกดี สนุกดี ลูกก็จะหยิบใส่หยิบออกอยู่เช่นนั้น หลายครั้งเมื่อคุณแม่เห็นลูกเล่นเช่นนี้ ก็ควรไปหยิบบล็อกไม้ รูปทรงต่างๆ ที่เป็นชุดของเล่นของลูกมาวางให้ลูกเล่น ลูกจะจับโยนใส่หม้อสเตนเลสเสียงดัง สนุกมาก

ถ้าคุณแม่มีปี๊บขนมปัง ยกให้ลูกเล่นก็เป็นอีกพัฒนาการหนึ่งที่จะให้ลูกเพราะถ้าเปิดฝาออก ปากจะเล็กกว่าตัว เมื่อลูกเอาของเล่นใส่เข้าไป แล้วลูกจะก้มลงไปมอง บางทีลูกยกขึ้นมาดู เป็นสิ่งที่ลึกลับน่าสนใจ ก็จะเป็นการพัฒนาความแข็งแรงของแขน ลำตัวก็จะต้องแข็งแรง ทรงตัวเองอยู่ได้เมื่อยกของใหญ่ๆ และหนัก สายตาก็ต้องพยายามเพ่งมองเข้าไป สมองก็จะพยายามค้นหาความจริงที่อยู่ข้างใน

ลูกน่าจะหิว คุณแม่เอาขนมคุกกี้ ขนมปังใส่ชามให้ลูกหยิบกินซิคะ หกก็ไม่เป็นไร เพราะเราจะฝึกความแม่นยำของมือกับสายตา ตามองเห็นขนมสมองต้องส่งให้มือมาที่ขนม แล้วหยิบขนม งอแขนเคลื่อนมาหาปาก ใส่ให้ตรงปาก ใหม่ๆ ก็ใส่ไม่ตรงปาก เลอะเทอะ หกเรี่ยราด เมื่อลูกกินเองบ่อยๆ ก็จะเที่ยงตรงมากขึ้น
ต่อมาหัดลูกให้จับช้อน ตักบล็อกไม้จากหม้อหนึ่งไปใส่อีกหม้อหนึ่งซึ่งจะง่ายกว่า การตักจากชามหนึ่งไปใส่อีกชามหนึ่ง

ในวัย 9 เดือน ลูกสามารถถือของเล่นสองชิ้นในเวลาเดียวกัน และนำของเล่นสองชิ้น เข้ากระทบกันได้

หัดลูกให้ถือหูกระป๋องน้ำด้วยมือซ้าย และถือช้อนด้วยมือขวา ทำท่าเหมือนคนถ้วยกาแฟ เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานของมือให้ยากขึ้น
เล่นนานๆ ก็เบื่อใช่ไหมคะ แต่คุณแม่ก็ยังไม่เสร็จธุระในครัว ถ้าไม่ได้ยินลูกทำเสียงดัง ต้องรีบหันไปดูนะคะ มิเช่นนั้นลูกอาจจะไปเกาะอยู่ที่ลิ้นชักตู้ครัว ลูกไม่ทราบหรอกค่ะว่า ลิ้นชักนั้นดึงออกอย่างไร แต่ด้วยความที่ลูกจะล้มจึงเกิดแรงดึงให้ลิ้นชักทั้งอันหลุดออกมา เป็นอันตรายต่อลูก หรือเลื่อนออกมาทำให้ลูกพบเห็นมีดหรือวัตถุแหลมคมที่เมื่อหยิบจับแล้ว เป็นอันตรายได้

หาของเล่นอย่างอื่นมาให้ลูกเล่นต่อ อาจเป็นห่วงพลาสติกสีต่างๆ ที่มีรูปร่างเหมือนขนมโดนัท คล้องกับแท่งเสาที่สูงประมาณ 1 คืบ เสานี้มีฐานโค้งโยกเยกได้ ลูกจะหยิบห่วงคล้องกับเสา ระยะแรกลูกจะหยิบเข้าหยิบออกจากเสาโดยไม่ปล่อยให้ห่วงตกถึงโคนเสา ปล่อยให้ลูกเล่น ต่อไปค่อยๆ สอนให้ใส่แล้วปล่อยห่วงลงมาที่โคนเสา

ความเที่ยงตรงของมือเป็นสิ่งที่ต้องฝึกมาก เพื่อการทำงานที่ละเอียดอ่อน เพราะต่อไปลูกต้องใส่เสื้อเอง เอามือสอดเข้าไปในแขนเสื้อได้ ติดกระดุมเองได้ เอาหมวกสวมศีรษะได้ ในระหว่างที่ลูกเล่น คุณแม่อย่าลืมส่งเสียงพูดคุยกับลูกด้วยนะคะ ลูกจะพูดได้เก่งหรือไม่ก็อยู่ที่การฝึกหัด จากการที่ลูกได้ยินบ่อยๆ ซ้ำๆ กัน

วัย 9 เดือน ลูกสดใสส่งเสียงคิกคักหัวเราะเมื่อรู้สึกขบขัน และลูกเริ่มเรียกสมาชิกในครอบครัวได้ ก็อยู่ที่เราจะหัดให้เรียกใคร ก่อนหน้านี้เราเอ่ยถึงพ่อ ลูกจะหันหน้าไปมองพ่อ เมื่อเราพูดคำว่าพ่อๆๆ พร้อมกับชี้ไปที่พ่อ พูดบ่อยๆ ลูกก็จะเรียกพ่อได้

คนหูหนวกมาแต่กำเนิด ไม่ทราบจะพูดอย่างไรเพราะไม่เคยได้ยินเสียงพูด แต่ลูกเราสมบูรณ์ทุกอย่าง พร้อมเสมอที่จะพูดตามเรา หัดภาษาเหนือ ใต้ อีสาน ภาษาต่างประเทศอะไรก็จะได้ตามนั้น เพราะลูกจะจดจำอย่างรวดเร็ว

9 เดือน นี้ลูกฮัมเพลงกับตัวเองได้แล้วนะคะ ลูกได้ยินเสียงเพลงที่คุณพ่อคุณแม่เปิดให้ฟังประจำ หรือคุณพ่อคุณแม่ฮัมเพลง ร้องเพลง ลูกก็จะร้องได้เร็ว

โลกแคบๆ ในบ้านเริ่มมีชีวิตชีวาอีกแล้วนะคะจากเสียงของลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นเสียงคิกคัก หัวเราะ ฮัมเพลงและเสียงเรียกสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะเสียงอันดังของการเคาะถ้วยชาม

(update วันที่ 28 กันยายน 2543)


[ ที่มา... นิตยสารแม่และเด็ก   ปีที่ 23 ฉบับที่ 332 ตุลาคม 2542]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600