 |
ขอเรียนคุณนงนารถว่า ถ้าขณะนี้ลูกชายไม่มีพฤติกรรมอะไรที่บ่งบอกว่ามีอาการเบี่ยงเบน
ทางเพศ ก็ให้สบายใจได้เลยค่ะ เพราะเด็กทั่วไปแล้วพัฒนาการทางเพศมักจะสมบูรณ์
และถาวรเมื่ออายุ |
ประมาณ 6 ขวบแล้ว ตัวอย่างของพฤติกรรมที่อาจบ่งชี้ถึงการเบี่ยงเบนทางเพศก็คือ ลูกอาจสนใจเรื่องที่เด็กผู้หญิงสนใจ เช่น
ดูทีวีแต่รายการแฟชั่นโชว์ของผู้หญิง ไม่สนใจรายการที่ผู้ชายชอบดู วาดการ์ตูนรูปผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่
สนใจแต่การเล่นของเล่นของเด็กผู้หญิง เช่น ตุ๊กตาผู้หญิง เล่นบ้าน เล่นขายของ ไปโรงเรียน
แล้วก็ยังไปจับกลุ่มเล่นกับเด็กผู้หญิง ไม่เล่นกับเด็กผู้ชายวัยเดียวกัน
เด็กผู้ชายบางคนที่เริ่มมีการเบี่ยงเบนทางเพศจะแสดงความต้องการที่จะเป็นผู้หญิงด้วย เช่น
บ่นว่าอยากเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ไม่ชอบที่เกิดมาเป็นผู้ชาย
เด็กบางคนก็จะแสดงการเบี่ยงเบนทางเพศออกเป็นพฤติกรรม เช่น มีท่าทางกระตุ้งกระติ้งแบบเด็กหญิง
มีท่าทางกรีดกราย พูดจากระเดียดไปทางผู้หญิง เช่น ตกใจก็อาจจะร้องวีดว้าย หรือพูดจาแบบจีบปากจีบคอ
หมอคาดว่า ลูกของคุณนงนารถไม่น่าจะมีปัญหาเพราะปัญหาเบี่ยงเบนทางเพศ
อาจจะเริ่มต้นจากใจของพ่อแม่ ว่ายอมรับลูกที่เกิดมาว่าเป็นลูกชายหรือลูกสาวหรือไม่
ถ้าพ่อแม่ยอมรับเพศของลูกตั้งแต่เกิดลูกก็จะได้รับการเลี้ยงดูตามเพศธรรมชาติที่เขาเกิดมา
เช่น การพูดจากับลูก การซื้อของให้ลูกก็ตรงตามเพศของลูก เด็กทั่วไปจะตอบสนองตาม
ความปรารถนาของพ่อแม่ตนอยู่แล้ว หมอเห็นว่าคุณนงนารถอยากให้ลูกเป็นผู้ชาย
เมื่อเขาเกิดมาเป็นผู้ชายจึงเป็นการเริ่มต้นที่ดี ที่ถูกต้องแล้ว ตามประสบการณ์ที่พบมา
พ่อแม่บางคนปฏิบัติไม่ถูกต้องกับลูก ทำให้ลูกมีปัญหาต่อมา เช่น มีลูกชายหลายคนแล้วและเฝ้ารอคอยลูกสาว
แต่ลูกคนเล็กก็ยังเป็นผู้ชาย พ่อแม่เลยเลี้ยงลูกชายคนสุดท้องแบบเด็กผู้หญิง
หมอขอถือโอกาสแนะนำการเลี้ยงดูลูกชายของคุณนงนารถเพิ่มเติมจากจุดนี้ต่อไป
เนื่องจากคุณพ่อไม่ค่อยมีโอกาสใกล้ชิดลูกชาย ดังนั้น ตอนคุณพ่อกลับมาทุกครั้ง
อาจให้คุณพ่อให้เวลากับลูกชายมากสักหน่อย เช่น ทำอะไรด้วยกัน ไปไหนด้วยกัน
เล่นกับลูกชาย พูดคุยกัน และระหว่างที่คุณพ่อทำงานอยู่ต่างจังหวัด น่าจะมีโอกาสพูดคุยกับคุณพ่อ
ทางโทรศัพท์สม่ำเสมอ
เพื่อให้ลูกรู้สึกสนิทกับคุณพ่อ แม้คุณพ่อจะอยู่ไกลก็ตาม จากความรู้ถึงปัจจุบันยังพบว่า
ปัจจัยที่จะป้องกันปัญหาการเบี่ยงเบนทางเพศที่ดีคือ การที่ลูกชายมีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นกับพ่อของเขา
แต่ในสังคมไทย พ่อไม่ใช่ผู้ชายต้นแบบคนเดียวของลูก ลูกมักมีโอกาสพบเจอผู้ชายคนอื่นๆ ญาติๆ
หรือที่โรงเรียนก็มีโอกาสเจอเด็กผู้ชายคนอื่นตั้งแต่อนุบาลแล้ว มีโอกาสเจอครูผู้ชาย
ได้เห็นภาพผู้ชายอื่นๆ ในทีวีอีก
นอกเหนือจากการเลี้ยงลูกไม่ให้เบี่ยงเบนทางเพศแล้ว ในปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ควรเลี้ยงลูกให้
มีการพัฒนารอบด้าน ทั้งจิตใจ ร่างกายและทางสังคม ให้สนใจดนตรีกีฬา ศิลปวัฒนธรรม
ควรหล่อหลอมให้ลูกมีบุคลิกภาพที่เหมาะสม เช่น เป็นคนมีความสุข เป็นคนอารมณ์ดี
มีความเป็นตัวของตัวเอง เป็นต้น ลูกจะได้เป็นคนแกร่ง มีภูมิต้านทานต่อปัญหาชีวิตต่างๆ
และสามารถแก้ปัญหาได้เมื่อพบปัญหาที่ต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดาของคนเรา เพราะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กกว่าคุณนงนารถและเป็นห่วงว่าลูกอาจพัฒนาแล้ว
มีความเบี่ยงเบนทางเพศอาจป้องกันโดยหาความรู้ถึงวิธีเลี้ยงลูกเพื่อป้องกันไว้ก่อน
โดยหาอ่านจากหนังสือแนะนำการเลี้ยงลูกไม่ให้ผิดเพศที่มีเขียนไว้มากมายหลายเล่ม
หมอเองก็เขียนไว้บทหนึ่งชื่อ เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้ผิดเพศในหนังสือชื่อ เลี้ยงลูกถูกวิธี ชีวีเป็นสุข
ศ.พญ.นงพงา ลิ้มสุวรรณ
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น รพ.รามาธิบดี
|