มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc


ลูกชายเติบโตในหมู่ผู้หญิง


ดิฉันมีลูกชายคนเดียว อายุ 7 ขวบ เลี้ยงเองเป็นส่วนใหญ่เพราะสามี ทำงานอยู่ต่างจังหวัด นานๆ จะกลับมาบ้านสักครั้งหนึ่ง ดิฉันอาศัยอยู่กับ
ญาติพี่น้องที่เป็นผู้หญิงทั้งหมดลูกจึงเป็นเด็กผู้ชายคนเดียวที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางสังคม ที่ไม่มีผู้ชายอยู่ในบ้านเลยเป็นห่วง กลัวเขาจะเบี่ยงเบนทางเพศ ดิฉันควรเลี้ยงดูเขาอย่างไรดี ลูกจึงจะได้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ชาย 100%

นงนารถ

ขอเรียนคุณนงนารถว่า ถ้าขณะนี้ลูกชายไม่มีพฤติกรรมอะไรที่บ่งบอกว่ามีอาการเบี่ยงเบน ทางเพศ ก็ให้สบายใจได้เลยค่ะ เพราะเด็กทั่วไปแล้วพัฒนาการทางเพศมักจะสมบูรณ์ และถาวรเมื่ออายุ
ประมาณ 6 ขวบแล้ว ตัวอย่างของพฤติกรรมที่อาจบ่งชี้ถึงการเบี่ยงเบนทางเพศก็คือ ลูกอาจสนใจเรื่องที่เด็กผู้หญิงสนใจ เช่น ดูทีวีแต่รายการแฟชั่นโชว์ของผู้หญิง ไม่สนใจรายการที่ผู้ชายชอบดู วาดการ์ตูนรูปผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ สนใจแต่การเล่นของเล่นของเด็กผู้หญิง เช่น ตุ๊กตาผู้หญิง เล่นบ้าน เล่นขายของ ไปโรงเรียน แล้วก็ยังไปจับกลุ่มเล่นกับเด็กผู้หญิง ไม่เล่นกับเด็กผู้ชายวัยเดียวกัน

เด็กผู้ชายบางคนที่เริ่มมีการเบี่ยงเบนทางเพศจะแสดงความต้องการที่จะเป็นผู้หญิงด้วย เช่น บ่นว่าอยากเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ไม่ชอบที่เกิดมาเป็นผู้ชาย

เด็กบางคนก็จะแสดงการเบี่ยงเบนทางเพศออกเป็นพฤติกรรม เช่น มีท่าทางกระตุ้งกระติ้งแบบเด็กหญิง มีท่าทางกรีดกราย พูดจากระเดียดไปทางผู้หญิง เช่น ตกใจก็อาจจะร้องวีดว้าย หรือพูดจาแบบจีบปากจีบคอ

หมอคาดว่า ลูกของคุณนงนารถไม่น่าจะมีปัญหาเพราะปัญหาเบี่ยงเบนทางเพศ อาจจะเริ่มต้นจากใจของพ่อแม่ ว่ายอมรับลูกที่เกิดมาว่าเป็นลูกชายหรือลูกสาวหรือไม่ ถ้าพ่อแม่ยอมรับเพศของลูกตั้งแต่เกิดลูกก็จะได้รับการเลี้ยงดูตามเพศธรรมชาติที่เขาเกิดมา เช่น การพูดจากับลูก การซื้อของให้ลูกก็ตรงตามเพศของลูก เด็กทั่วไปจะตอบสนองตาม ความปรารถนาของพ่อแม่ตนอยู่แล้ว หมอเห็นว่าคุณนงนารถอยากให้ลูกเป็นผู้ชาย เมื่อเขาเกิดมาเป็นผู้ชายจึงเป็นการเริ่มต้นที่ดี ที่ถูกต้องแล้ว ตามประสบการณ์ที่พบมา พ่อแม่บางคนปฏิบัติไม่ถูกต้องกับลูก ทำให้ลูกมีปัญหาต่อมา เช่น มีลูกชายหลายคนแล้วและเฝ้ารอคอยลูกสาว แต่ลูกคนเล็กก็ยังเป็นผู้ชาย พ่อแม่เลยเลี้ยงลูกชายคนสุดท้องแบบเด็กผู้หญิง

หมอขอถือโอกาสแนะนำการเลี้ยงดูลูกชายของคุณนงนารถเพิ่มเติมจากจุดนี้ต่อไป เนื่องจากคุณพ่อไม่ค่อยมีโอกาสใกล้ชิดลูกชาย ดังนั้น ตอนคุณพ่อกลับมาทุกครั้ง อาจให้คุณพ่อให้เวลากับลูกชายมากสักหน่อย เช่น ทำอะไรด้วยกัน ไปไหนด้วยกัน เล่นกับลูกชาย พูดคุยกัน และระหว่างที่คุณพ่อทำงานอยู่ต่างจังหวัด น่าจะมีโอกาสพูดคุยกับคุณพ่อ ทางโทรศัพท์สม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกรู้สึกสนิทกับคุณพ่อ แม้คุณพ่อจะอยู่ไกลก็ตาม จากความรู้ถึงปัจจุบันยังพบว่า ปัจจัยที่จะป้องกันปัญหาการเบี่ยงเบนทางเพศที่ดีคือ การที่ลูกชายมีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นกับพ่อของเขา แต่ในสังคมไทย พ่อไม่ใช่ผู้ชายต้นแบบคนเดียวของลูก ลูกมักมีโอกาสพบเจอผู้ชายคนอื่นๆ ญาติๆ หรือที่โรงเรียนก็มีโอกาสเจอเด็กผู้ชายคนอื่นตั้งแต่อนุบาลแล้ว มีโอกาสเจอครูผู้ชาย ได้เห็นภาพผู้ชายอื่นๆ ในทีวีอีก

นอกเหนือจากการเลี้ยงลูกไม่ให้เบี่ยงเบนทางเพศแล้ว ในปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ควรเลี้ยงลูกให้ มีการพัฒนารอบด้าน ทั้งจิตใจ ร่างกายและทางสังคม ให้สนใจดนตรีกีฬา ศิลปวัฒนธรรม ควรหล่อหลอมให้ลูกมีบุคลิกภาพที่เหมาะสม เช่น เป็นคนมีความสุข เป็นคนอารมณ์ดี มีความเป็นตัวของตัวเอง เป็นต้น ลูกจะได้เป็นคนแกร่ง มีภูมิต้านทานต่อปัญหาชีวิตต่างๆ และสามารถแก้ปัญหาได้เมื่อพบปัญหาที่ต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดาของคนเรา เพราะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กกว่าคุณนงนารถและเป็นห่วงว่าลูกอาจพัฒนาแล้ว มีความเบี่ยงเบนทางเพศอาจป้องกันโดยหาความรู้ถึงวิธีเลี้ยงลูกเพื่อป้องกันไว้ก่อน โดยหาอ่านจากหนังสือแนะนำการเลี้ยงลูกไม่ให้ผิดเพศที่มีเขียนไว้มากมายหลายเล่ม หมอเองก็เขียนไว้บทหนึ่งชื่อ เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้ผิดเพศในหนังสือชื่อ เลี้ยงลูกถูกวิธี ชีวีเป็นสุข

ศ.พญ.นงพงา ลิ้มสุวรรณ
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น รพ.รามาธิบดี

(update วันที่ 22 กันยายน 2543)


[ที่มา.. life & family   ปีที่ 5 ฉบับที่ 53 สิงหาคม 2543 ]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600