มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



หนูไม่สบายจริงๆ นะ (2)


คราวที่แล้วคุณหมอเล่าให้ฟังถึงโรคทางกายที่เกิดจากจิตใจแปรปรวนพร้อมตัวอย่างเด็กๆ ที่ประสบปัญหาเหล่านี้ แต่ยังไม่หมดค่ะยังมีอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยเอาใจใส่ สังเกตอีกมากมาย

อย่างอาการของโรคหอบหืดและปวดท้อง นี่ก็พบได้บ่อยในเด็กที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต บ้างก็รุนแรงต่อเนื่อง บ้างก็กำเริบเป็นระยะ เรามารู้จักสาเหตุและวิธีแก้ไขโรคเหล่านี้กันดีกว่าค่ะ

หอบหืด

น้องหญิงเป็นเด็กอายุ 6 ปี เป็นบุตรคนโต มีน้องชายอายุ 2 ปี น้องหญิงเป็นโรคหอบหืดมา 3 ปี แต่ 1 ปีที่ผ่านมามีอาการหอบมากขึ้นต้องมารพ.บ่อยๆ เพื่อให้ออกซิเจนและฉีดยา น้องหญิงต้องเข้าไปนอน รพ.บ่อยๆ พอเข้ามาพักรพ.ไม่นานก็หาย แต่พอกลับบ้านไม่นานก็หอบอีก

ในระยะ 1 ปีที่ผ่านมาน้องหญิงดื้อมากขึ้น เริ่มเป็นตั้งแต่น้องชายเริ่มโต ร้องชายจะเก่งกว่า ช่วยหยิบของได้และช่วยตัวเองได้หลายอย่างแต่น้องหญิงกลับไม่ยอมทำอะไรเองเลย

น้องหญิงเป็นต้นเหตุให้แม่โมโหบ่อยๆ ทุกเช้าจะเป็นต้นเหตุให้ทุกคนไปทำงานสาย ไปโรงเรียนสายกันหมดในระยะหลังนี้ น้องหญิงเรียกร้องความสนใจมากขึ้น ต้องให้แม่ป้อนข้าวให้ ติดแม่มาก ดื้อ พูดจากระด้าง อิจฉาน้อง รังแกน้อง แม่ต้องอารมณ์เสียกับทุกเรื่อง เช่น กินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน แต่แม่ก็สังเกตว่าถ้าพูดกับน้องหญิงดีๆ น้องหญิงจะช่วยเหลือแม่ได้และทำตัวน่ารัก แต่ถ้าดุกลับจะทำหูทวนลมและทำอะไรให้แม่โมโหบ่อยๆ

ระยะ 10 เดือนที่ผ่านมา พ่อต้องไปทำงานพิเศษเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวจึงต้องกลับบ้านดึก ไม่มีเวลาช่วยแม่เลี้ยงลูกดังแต่ก่อนทำให้แม่เหนื่อยมากเพราะต้องรับภาระเรื่องลูกเรื่องงานทั้งหมด

อาการหอบของน้องหญิงมักเป็นช่วงกลางคืนที่พ่อไม่อยู่บ้าน ยิ่งเวลาถูกขัดใจ น้องหญิงจะยิ่งตะเบ็งเสียงดังและจะตามมาด้วยอาการหอบทุกครั้ง พ่อแม่ก็ยิ่งกังวล ห้ามน้องหญิงส่งเสียงดังและวิ่งเล่นเพราะถ้าร้องมากๆ หรือเล่นเหนื่อยเกินไปก็จะกระตุ้นให้หอบ

น้องหญิงเป็นลูกคนเดียวมาตลอด เป็นโรคหอบหืดมาแต่เล็กน้องหญิงได้รับความรัก การเอาใจใส่อย่างดีจนไม่ได้หัดการช่วยเหลือตนเองมาเลย เพิ่งมาหัดทำเมื่อมีน้อง ในช่วงแรกการมีน้องไม่ทำให้มีปัญหากับน้องหญิงนัก แต่เมื่อพ่อต้องไปทำงานพิเศษเพิ่ม ทำให้แม่ต้องรับภาระเรื่องลูกทั้งหมด น้องชายก็กำลังซนมากแม่ต้องหันมาดูแลน้องมากขึ้น ทำให้มีเวลาให้น้องหญิงและแม่ยังต้องการให้น้องหญิงช่วยตัวเองมากขึ้น และบางครั้งน้องหญิง จำเป็นต้องยอมน้องด้วย ภาระทั้งหมดนี้น้องหญิงยังไม่พร้อมจะรับเพราะไม่ได้เตรียมหัดมาก่อน

น้องหญิงจึงเริ่มมีพฤติกรรมถดถอยและต้องการเป็นเด็กเล็ก แต่พฤติกรรมเหล่านี้ กลับทำให้พ่อแม่ไม่พอใจจึงมีการตำหนิบ้าง ดุบ้าง ทำให้น้องหญิงเริ่มมีความทุกข์ ความกังวลมากขึ้น และแสดงออกในลักษณะเรียกร้องความสนใจและทำตัวเป็นเด็กเล็กมากขึ้น

ถ้าพ่อแม่โกรธหรือดุว่าน้องหญิง น้องหญิงก็จะยิ่งเอาชนะด้วยการทำทุกอย่างที่จะให้หอบได้ เช่น ร้องตะเบ็งเสียงดังทำให้เหนื่อยโดยร้องไห้มากๆ พ่อแม่เองก็สังเกตว่าเวลาพูดดีๆ กับน้องหญิง น้องหญิงก็จะทำตามและทำตัวน่ารักได้ แต่แม่ก็ยอมรับว่าความเหนื่อยของตนมีมากจนทำให้ไม่มีอารมณ์ และไม่มีความอดทนพอที่จะพูดดีๆ กับน้องหญิง ระยะหลังพ่อแม่ก็มองดูน้องหญิงในทางลบมากขึ้น และมีเรื่องขัดใจกันบ่อย ซึ่งพ่อแม่ก็สังเกตว่าอาการหอบนั้นมาจากเรื่องที่น้องหญิงถูกขัดใจ

ครอบครัวนี้มีลูกที่เจ็บป่วยเรื้อรัง และมีแม่ซึ่งขาดผู้ช่วยเหลือทำให้เหนื่อยเกินไปและเครียด ซึ่งอารมณ์ของแม่จะไปลงที่ลูกทำให้ลูกเครียดกังวลและรู้สึกไม่สบายใจที่ทำให้พ่อแม่โกรธ ขณะเดียวกันก็รู้ว่าอาการเหล่านี้ทำให้พ่อแม่ต้องเอาใจใส่ตน เด็กก็ยิ่งเรียกร้องยิ่งกังวล ยิ่งไม่สบายใจอาการก็เพิ่มมากขึ้นเป็นวงจรขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้นจึงต้องให้พ่อปลีกเวลามารับภาระจากแม่บ้าง ให้ยายเข้ามาช่วยดูแลน้องบ้าง หรือหาลูกจ้างมาช่วยแบ่งเบางานของแม่บ้าง เพื่อให้แม่พอจะมีเวลาผ่อนคลายกับลูกได้

ภายหลังที่พ่อแม่เริ่มปฏิบัติต่อลูกด้วยดี ไม่เป็นอารมณ์ต่อกันพูดกับลูกด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจ ให้ลูกมองเห็นว่าพ่อแม่ภูมิใจที่เขาเป็นเด็กโตและทำอะไรได้เองให้เขามีส่วนช่วยดูแลน้อง ซึ่งน้องหญิงภูมิใจมากเวลาแม่ดุน้อง พอพี่ปลอบน้องก็เชื่อและทำตามพี่ น้องหญิงก็รักน้องมากขึ้น

เมื่อแม่เริ่มมีอารมณ์ดีกับน้องหญิง น้องหญิงก็ช่วยงานบ้านได้หลายอย่างซึ่งแม่ปล่อยให้ทำ และไม่ไปจุกจิกว่าน้องหญิงทำไม่เรียบร้อย น้องหญิงก็ยิ่งมีความตั้งใจทำมากขึ้นและภูมิใจที่ได้อยู่ใกล้ชิดแม่ และทำให้แม่พอใจได้ น้องหญิงจึงเริ่มช่วยตัวเองและไม่ดื้ออย่างแต่ก่อน เตรียมตัวไปร.ร.เอง แม่ก็ยิ่งชมและบอกลูกว่า แม่ชอบเด็กโตๆ ที่ช่วยตัวเองได้และช่วยแม่ได้หลายอย่าง ทำให้น้องหญิงยิ่งมีความตั้งใจที่จะช่วยแม่มากขึ้น

หลังจากที่พ่อแม่ปฏิบัติต่อน้องหญิงด้วยดี น้องหญิงก็หอบน้อยลงมากจนในที่สุดแทบไม่หอบเลย จะหอบช่วงเป็นหวัดเท่านั้น

ปวดท้อง

น้องเอ๋เป็นเด็กหญิงอายุ 10 ปี มีอาการปวดท้องและอาเจียนบ่อยๆ มาหลายปี ไปตรวจอย่างละเอียด ที่รพ.ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ ยกเว้นว่าเวลาปวดท้องจะมีการบีบตัวของลำไส้มากกว่าปกติ

น้องเอ๋เป็นลูกสาวคนเดียวและยังมีอาการปวดท้องเรื้อรังทำให้แม่สงสารและให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ งานบ้านไม่ต้องทำเลยแม่ทำให้หมด น้องเอ๋เข้าโรงเรียนตั้งแต่อายุน้อยมาก ฉะนั้นอายุ 10 ขวบ น้องเอ๋อยู่ชั้นป. 6 แล้วแทนที่จะอยู่แค่ชั้นป.4 น้องเอ๋จึงเป็นนักเรียนที่อายุน้อยที่สุดในชั้น

การเรียนจะเรียนหนักมาก เพราะโรงเรียนมีนโยบายเน้นการเรียน และให้การบ้านมากๆ ปกติต้องนั่งทำการบ้านวันละไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ถ้าวันไหนทำการบ้านมากวันรุ่งขึ้นน้องเอ๋ก็จะปวดท้อง พอพ่อให้หยุดเรียนอาการก็จะหายเป็นปกติ น้องเอ๋ไม่มีปัญหากับครูและเพื่อน ครอบครัวก็รักกันดี

รายนี้คุณหมอได้ตรวจซ้ำหลายครั้งแล้วว่าไม่มีโรคทางกาย แต่อาการปวดท้อง เนื่องจากความเครียดจากการเรียน หรือมีหน้าที่รับผิดชอบที่มากเกินวัย น้องเอ๋ต้องใช้ความพยายาม มากกว่าเด็กนักเรียนคนอื่นในห้องเดียวกัน เนื่องจากอายุน้อย ความรู้สึกเครียดดังกล่าว ทำให้มีอาการผิดปกติทางกายได้ เช่น คนเครียดจะรู้สึกตกใจ หน้าซีด ใจสั่นหรือเป็นลมได้

อาการทางกายที่แสดงออกเพราะความเครียดของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แล้วแต่ว่าใครมีจุดอ่อนที่ไหน เช่น บางคนปวดศีรษะ บางคนท้องเดิน แต่สำหรับน้องเอ๋เป็นคนปวดท้องง่าย อาเจียนง่ายจึงแสดงออกด้วยอาการดังกล่าว

การแก้ไขเรื่องความเครียดของน้องเอ๋ต้องแก้ที่สาเหตุ คือแจ้งให้ผู้บริหารโรงเรียนทราบ ถึงความไม่เหมาะสมของการให้การบ้านเด็กมากเกินไป จนทำให้เครียดมากซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ความพอดีน่าจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย

ถ้าผู้บริหารโรงเรียนไม่ยอมเข้าใจปัญหาก็ให้น้องเอ๋ย้ายโรงเรียนช่วงที่รอย้ายโรงเรียน ถ้าปวดท้องมากก็ให้ยาแก้ปวดท้องและยาแก้เครียด อาการก็จะดีขึ้น เมื่อน้องเอ๋ได้ย้ายไปโรงเรียน ที่ไม่เน้นเรื่องเรียนมากเกินไป อาการปวดท้องก็ทุเลา

เป็นอย่างไรบ้างคะ คุณพ่อคุณแม่อ่านแล้วรู้สึกว่ามีตัวอย่างอาการของโรคใดที่เกิดขึ้นกับลูกน้อย ของคุณพ่อคุณแม่บ้างหรือไม่ ถ้ามีก็ลองนำคำแนะนำและวิธีแก้ไขของคุณหมอไปปฏิบัติดูนะคะ
และอยากให้คุณพ่อคุณแม่ตระหนักไว้เสมอว่า ไม่มียาวิเศษขนานใดจะรักษาลูกได้ดีเท่าความรัก และความเข้าใจหรอกนะคะ

พ.ญ.ลำดวน นำศิริกุล

(update 8 มกราคม 2001)


[ ที่มา... นิตยสารแม่และเด็ก   ปีที่ 23 ฉบับที่ 339 พฤษภาคม 2543]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600