เช้านี้คุณแม่ทำงานได้หลายอย่างก่อนที่ลูกจะตื่น ลูกยังคงหลับสนิทอยู่อีกไม่นานคงจะตื่น
นอนเกือบครบ 12 ชั่วโมงแล้ว คงจะเหนื่อยเพลียเมื่อวานเล่นมากเหลือเกิน กลางวันก็นอนชั่วโมงกว่าๆ
จริงๆ แล้วในวัย 2-2 ปี 6 เดือน ควรจะนอนกลางวัน 1-3 ชั่วโมง กลางคืน 10-12 ชั่วโมง
จึงจะเพียงพอกับการพักผ่อนกล้ามเนื้อ สมอง ร่างกายและจิตใจ พักการใช้พลังงานเพื่อให้ร่างกายพัฒนาต่อไป
ได้อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ถ้าหักโหมทำงานมากเกินไป อดหลับอดนอน ร่างกายก็ทรุดโทรมอ่อนแอ
ผอมแห้งแรงน้อยเป็นโรคได้ง่าย ทำงานหรือเล่นมากๆ เหนื่อยๆ บางครั้งก็รับประทานอาหารไม่ลง
ยิ่งถ้าเป็นเด็กห่วงเล่นหรืออาหารไม่ถูกปาก ไม่อยากรับประทานก็จะยิ่งทำให้ลูกผอมลง
ปล่อยลูกรับประทานตามใจชอบ เช่น พวกขนมหวาน ลูกอม ขนมอบกรอบ ลูกอิ่มโดยได้อาหารไม่ครบหมู่
ตามหลักโภชนาการ จะทำให้ลูกมีสมองที่ไม่เฉียบแหลม ต่อไปการเล่นจะไม่เก่งนะคะ
ถึงแม้คุณพ่อคุณแม่จะเชียร์หรือใช้วิธีฉลาดเล่นอย่างไร ลูกก็จะไม่พัฒนาเท่าที่ควรค่ะ
คุณพ่อคุณแม่มีปัญหาไหมคะกับการเอาลูกเข้านอน
ประการแรกต้องกำหนดไว้เลยว่าเข้านอนตรงเวลา "อ้าว! ได้เวลาเข้านอนแล้วค่ะไปเข้าห้องน้ำ
เตรียมตัวให้พร้อม" ลูกกำลังเล่นสนุก คุณพ่อคุณแม่ไปขัดจังหวะบอกให้ไปนอน ลูกไม่ยอมแน่
ควรต้องมีวิธีค่อยเป็นค่อยไป
การจะเอาลูกนอนได้ ต้องได้รับความยินยอม พร้อมใจของลูกด้วย
ก่อนเวลานอนอย่าให้ลูกเล่นอะไรมากที่จะทำให้เหนื่อย เพลียหรือตื่นเต้นสุดๆ เพราะการจะเริ่มหลับได้
ร่างกายทุกส่วนและจิตใจต้องผ่อนคลายสมองที่คิดมากความตื่นเต้นยังค้างอยู่หลับไม่ลงค่ะ
ลูกมีความกลัวหรือเปล่าที่จะเข้าไปในห้องนอน เช่น กลัวความมืด กลัวเสียงเปิดปิดประตู กลัวผี
เพราะได้ฟังนิทานหรือคำบอกเล่ามา
พาลูกเข้านอนให้ความอบอุ่น กอด หอมลูก ห่มผ้าให้ลูก ถ้าลูกอยากเอาตุ๊กตาหรือของเล่นบางอย่าง
เข้านอนด้วยก็ยอม แต่ต้องตกลงว่าเป็นของเล่นบางชนิดเท่านั้น ไม่ใช่เอาทุกอย่าง ซึ่งจะทำให้จิตใจฟุ้งซ่านอีก
จุดประสงคือ ให้เอาเข้าไปนอนเป็นเพื่อนอบอุ่นใจเท่านั้น
อย่าลืมเล่านิทานให้ลูกฟัง เอาชนิดมีสาระบ้างและไม่ทำให้ลูกตื่นเต้น เดี๋ยวนอนไม่หลับ เห็นไหมคะว่า
การจะฉลาดเล่น ต้องรู้เวลาเล่นด้วยคะ
ได้เวลาลูกตื่นพาลูกเข้าห้องน้ำ ประตูห้องน้ำเปิดง่าย ลูกเปิดเองได้ เครื่องใช้ในห้องน้ำต้องสะดวกสำหรับลูก
ให้ลูกถอดเสื้อผ้าเอง ทำความสะอาดร่างกาย คุณพ่อคุณแม่อยู่คอยช่วยเหลือในสิ่งที่ลูกยังทำไม่ได้ พูดกับลูกว่า
กำลังทำอะไร ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ของใช้มีชื่ออะไร มีจำนวนเท่าไร ให้ลูกพูดตามแทนที่จะใช้วิธีชี้เอา
เมื่อลูกได้ฟังบ่อยๆ หัดพูดบ่อยๆ ก็จะมีความจำดีมั่นใจว่าถูกต้อง
วิธีการหัดนี้ก็ทำได้เช่นเดียวกันเมื่ออยู่ในสถานที่อื่น เช่น ขณะรับประทานอาหารซึ่งขยายไปถึงวิธีการเล่น
เช่น หาสมุดติดรูปภาพให้ลูก คุณพ่อคุณแม่หาภาพใหม่ๆ ให้ลูกทุกวัน เอาไปติดในสมุดเพื่อเพิ่มคำศัพท์
หรือบอกให้ลูกเปิดสมุดภาพดูซิว่า แมวอยู่ตรงไหน ฝึกหัดให้ลูกทบทวนความจำ เล่นเปิดสมุดภาพทบทวนความจำ
ทายกันวันละ 15-20 นาที รับรองลูกเก่งแน่
ลูกควรทำอะไรได้เก่งบ้างในวัย 2-2 ปี 6 เดือน
เก่ง หมายถึงคล่องแคล่วเลยนะคะ คือ วิ่ง กระโดดอยู่กับที่ เดินขึ้นบันไดทีละขั้นยังไม่สลับเท้า ขี่สามล้อ
ขวางลูกบอลเหนือศีรษะ ต่อยอดบล็อกได้สูงเกิน 4 ชั้น และถ้าเราได้ฝึกหัด เพิ่มความแข็งแรง
และการทรงตัวของขาและลำตัวมากกว่านี้ ลูกก็จะขึ้นลงบันไดทีละขั้นสลับเท้ากันได้ ยืนขาเดียวได้
กระโดดเท้าเดียวได้ ปีนป่ายได้คล่อง นั่งชิงช้า ม้าโยกได้
อุปกรณ์ของเล่นในวัยนี้จึงเน้นหนักในสนามเด็กเล่น ให้ลูกได้ไปเตะบอลในที่กว้างๆ จะได้วิ่งไล่ตามลูกบอล
ปีนป่ายเครื่องเล่นหลายชนิดที่จะไม่เบื่อและยังได้เล่นกับเพื่อน เข้าสังคม ได้รู้จักปรับตัวเอง
ส่วนของเล่นอื่นที่จะใช้กับการฝึกหัด มือ แขน และความทรงจำ ได้แก่
- ดินสอสีสดใส ใช้ระบายสี ซึ่งมีอยู่แล้ว
- สีที่ใช้มือละเลง แล้วทาบนกระดาษใหญ่ๆ ได้
- ดินน้ำมันหัดปั้นเป็นรูปทรงต่างๆ
- ทำบ่อทรายให้ลูกเล่นซิคะ แล้วหาชุดเล่นทรายชายหาดให้ด้วย มีถังน้ำไว้ใกล้ๆ ปล่อยลูกเล่นตามใจชอบ
การที่ลูกได้ลุกขึ้นยืน นั่งลง ก้มๆ เงยๆ เล่นตักทราย ตักน้ำ เป็นการฝึกหัดกำลังมือ แขน ขา
และลำตัวให้แข็งแรง การทรงตัวก็ดีขึ้นเพราะขณะก้มตัวมาข้างหน้า หรือเอียงตัวไปยกของ
จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายจะออกนอกเท้า กล้ามเนื้อของร่างกายจะต้องทำงานหนักเพื่อรั้งตัวไว้ไม่ให้ล้ม
การทรงตัวจะดีขึ้นเรื่อยๆ
ของเล่นที่ต้องมาต่อกันเป็นรูปร่างก็เป็นที่น่าสนใจของลูกวัยนี้ แต่ต้องเป็นชิ้นใหญ่ๆ ต่อง่าย ไม่ยุ่งยาก
เช่น รถทำด้วยไม้
ลูกวัยนี้มีความคิดประดิษฐ์สร้าง-สรรค์ อย่าลืมชื่นชมให้กำลังใจลูกด้วยนะคะกับความสำเร็จ
หรือความพยายามของลูก
คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะว่า อะไรที่จะดึงดูดความสนใจในการเล่นของเล่นของลูกไปหมด ทีวีค่ะ
ลูกยังฟังไม่เข้าใจแต่ลูกจะสนุกสนานกับเสียงจังหวะและเสียงเพลง ความสามารถในการพัฒนาทักษะต่างๆ
คงต้องลดลงแน่ถ้ายังไม่ได้จัดสรรเวลาให้เหมาะสม
สุมนา ตัณฑเศรษฐี
|