มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



มารู้จักฟลูออไรด์ กันเถอะ


ถ้าพูดถึงฟลูออไรด์ หมอพิมว่า คุณๆ คงจะร้องอ๋อ กันทุกคนและสิ่งที่นึกถึงต่อไปก็คือ ยาสีฟันเกือบทุกชนิดโฆษณาว่ามีฟลูออไรด์เป็นส่วนประกอบ ใช่แล้วค่ะ…วันนี้หมอพิมขอเล่าถึง เจ้าฟลูออไรด์นี้สักนิด จริงๆ แล้วเราสามารถจะรับสารฟลูออไรด์ได้หลายทาง ไม่เฉพาะแต่จากยาสีฟันเท่านั้น มีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟลูออไรด์มากมายเรามาคุยกันสบายๆ ถึงเจ้าฟลูออไรด์สารที่ดีต่อฟัน แบบสุดสุดตัวนี้สักหน่อย

ก่อนอื่นคงจะต้องพูดถึงประโยชน์ของฟลูออไรด์ซะก่อนว่า ในทางมทันตกรรมแล้วสารตัวนี้ จะช่วยให้ฟันของคนเราแข็งแรงได้ดีที่สุดเลย มีการทดลองมากมายที่พบว่าหากฟันได้รับสารตัวนี้เข้าไป ทั้งจากการรับประทานหรือจากการสัมผัสกับฟันโดยตรง จะพบว่าช่วยทำให้ฟันแข็งแรง ไม่ผุง่าย จึงได้มีการรณรงค์ให้ใช้สารตัวนี้กันมาก

ดังนั้น ทางหนึ่งที่จะช่วยให้ฟันของลูกแข็งแรง ก็คือการให้ลูกได้รับฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง ถ้างั้นเราควรจะให้ฟลูออไรด์กับลูกด้วยวิธีใดบ้าง ?
วิธีแรก ก็คงเป็นการให้ลูกรับประทานยาเม็ดฟลูออไรด์ ซึ่งในข้อนี้ หมอพิมไม่ขอกล่าวละเอียดนัก คุณต้องให้ทันตแพทย์ที่อยู่ในท้องถิ่นเป็นผู้แนะนำว่า ลูกอายุเท่านี้ต้องได้รับฟลูออไรด์เท่าไรจึงจะเหมาะสม ห้ามรับประทานเอง โดยไม่ได้ปรึกษาทันตแพทย์นะคะ
เพราะฟลูออไรด์นี้ ถ้าเด็กได้รับมากไปจะมีผลเสีย ซึ่งคุณอาจจะเสียใจไปตลอดนั่นคือ ลูกอาจมีฟันที่เป็นสีขาวขุ่นๆ ทั่วตัวฟันหรืออาจเป็นสีเหลืองๆ ปนขาวดูน่าเกลียดมาก ถึงฟันแกจะแข็งแรง แต่เราก็คงอยากให้ดูสวยด้วยไม่ใช่แข็งแรงไม่ผุ แต่รูปร่างน่าเกลียด

วิธีที่สอง คือให้ลูกใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ผสมอยู่ซึ่งข้อนี้คุณๆ คงจะทำได้อยู่แล้ว ปัจจุบันยาสีฟันสำหรับเด็กส่วนใหญ่จะมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ แต่คุณควรจะระมัดระวัง อย่าให้ลูกกลืนยาสีฟัน และควรให้ลูกใช้ยาสีฟันครั้งละเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กะขนาดปริมาณง่ายๆ คือ บีบยาสีฟันเท่าเมล็ดถั่วเขียวก็พอค่ะ พอลูกโตมากขึ้นจึงค่อยๆ เพิ่มในภายหลัง

วิธีที่สาม คือ พาลูกไปเคลือบฟลูออไรด์โดยทันตแพทย์ การเคลือบฟลูออไรด์นี้ควรทำทุก 6 เดือน ทันตแพทย์จะเริ่มต้นจากการขัดฟันให้เด็ก โดยใช้หัวขัดที่เป็นยาง ขัดฟันด้วยผงขัดฟันจนทั่ว เสร็จแล้วจึงใส่วุ้นฟลูออไรด์ลงในถาด ซึ่งมีรูปร่างตามการเรียงตัวของฟัน คือ เป็นรูปโค้งเกือกม้า ใส่ถาดนี้ลงในปากของเด็ก ครอบลงบนฟันบนและฟันล่าง แล้วจับเวลารอจนครบตามเวลา ซึ่งแต่ละยี่ห้ออาจใช้เวลาต่างกัน เช่น ชนิดที่ไม่เร่งรีบก็ต้องใช้เวลาหลายนาที ใช้กับเด็กที่ให้ความร่วมมือดี ส่วนชนิดรวดเร็วจะใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็เรียบร้อย เหมาะสำหรับเด็กที่ไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร และอาเจียนง่าย
ส่วนเทคนิคการหลอกล่อ ก็แล้วแต่คุณหมอแต่ละคน

สรุปแล้วเมื่อเสร็จขบวนการเด็กจะได้รับการเคลือบฟลูออไรด์เข้มข้นบนฟันทุกซี่ ฟลูออไรด์จะไปจับที่ผิวเคลือบฟันทำให้ฟันแข็งแรง
แต่ก็มีสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระมัดระวังเมื่อพาลูกไปเคลือบฟลูออไรด์ คือ หลังจากเคลือบฟลูออไรด์ แล้วครึ่งชั่วโมงไม่ควรให้เด็กรับประทานอาหารในครึ่งชั่วโมงนี้เพื่อจะได้ผลเต็มที่

และข้อสำคัญอีกอย่างคือ ขณะเคลือบฟลูออไรด์ให้เด็ก ถ้าคุณหมออนุญาตให้คุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วย ก็พยายามไม่ต้องปลอบเด็กมากเกินไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณหมอ ทั้งนี้พบว่า คุณพ่อคุณแม่บางคน เล่นถามนำทำให้ลูกเสียกระบวน เช่น ขณะที่อมฟลูออไรด์อยู่ในปากคุณแม่อาจพูดว่า "ลูกคนเก่ง อย่าอ้วกนะจ๊ะลูก… นิดเดียวเท่านั้นเดี๋ยวก็เสร็จ" ลูกอาจจะคิดว่าจริงๆ แล้วคงจะน่าอ้วกก็เลยอ้วกจริงซะเลย

จริงอยู่ค่ะ ที่ว่าฟลูออไรด์ชนิดที่ใช้เคลือบฟันนี้จะถูกปรุงแต่งกลิ่น-รส ให้ดูดีที่สุดสำหรับเด็ก แต่ยังไงก็คงไม่อร่อยเหมือนขนมจึงมีรสแปลกๆ บ้าง แต่เด็กส่วนใหญ่ทนได้และเกือบทุกคนจะชอบ ถ้าแกไม่กลัวเกินไปจนไม่ยอมร่วมมือ

ดังนั้น ขอให้คุณพ่อคุณแม่อย่ากังวลเกินไปนะคะ เพราะการเคลือบฟลูออไรด์นี้ เป็นการทำฟันที่ง่ายมากสำหรับเด็ก

อีกประการหนึ่งที่พึงระวัง คือ ลูกของคุณควรจะบังคับตัวเองไม่ให้กลืนได้จึงจะพาไปให้คุณหมอ เคลือบฟลูออไรด์ได้ เพราะการกลืนฟลูออไรด์ชนิดเข้มข้นเข้าไปมากๆ ก็มีผลเสียเช่นกัน

การให้ฟลูออไรด์แก่เด็กยังมีอีกวิธีที่ซับซ้อนและทำเป็นบางรายซึ่งคงให้เป็นหน้าที่ของทันตแพทย์ พิจารณาให้นะคะ อย่างไรก็ตาม หมอพิมอยากให้ท่านผู้อ่านได้ตระหนักถึงประโยชน์ของฟลูออไรด์ และให้เด็กได้รับฟลูออไรด์ตามความเหมาะสมอย่างน้อยก็ช่วยให้ลูกๆ ของคุณไม่ต้องทรมานจากฟันผุ ปวดฟัน แต่ข้อสำคัญถึงจะได้ฟลูออไรด์มากเพียงใดหากฟันสกปรกมากๆ ก็ยังผุได้แน่นอนค่ะ

ดังนั้น การทำความสะอาดฟันจึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลทิ้งกันไม่ได้เชียวค่ะ

ทญ.วิริยา ออประยูร

(update 20 พฤศจิกายน 2000)


[ ที่มา... นิตยสารแม่และเด็ก   ปีที่ 23 ฉบับที่ 340 มิถุนายน 2543 ]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600