เมื่อฉบับก่อนๆ นั้นหมอพิมเคยเล่าถึงวิธีทำความสะอาดช่องปากให้ลูกตั้งแต่หลังคลอด
โดยวิธีเช็ดด้วยผ้าอย่างละเอียดมาแล้ว ฉบับนี้จะขอคุยถึงเด็กที่อายุมากกว่า 1 ขวบ
ซึ่งเราจำเป็นต้องเริ่มแปรงฟันให้แกแล้วล่ะค่ะ
การแปรงฟันนั้น ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่าเราแปรงอะไรออกจากฟัน บางคนอาจคิดว่า
แปรงเอาเศษอาหารพวกเนื้อ, ผัก, ข้าวออกไป ซึ่งจริงๆ แล้วจุดประสงค์หลักที่เราแปรงฟันคือ
จะแปรงเอา "แผ่นคราบจุลินทรีย์" หรือ Plaque ออกจากฟัน เพราะเจ้าแผ่นคราบจุลินทรีย์ต่างหาก
ที่เป็นตัวการในการทำให้ฟันผุ
เนื่องจากในแผ่นคราบจุลินทรีย์นี้จะมีเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุให้ฟันผุอาศัยอยู่
ถ้าปล่อยให้แผ่นคราบจุลินทรีย์ติดอยู่ที่ฟัน นั่นหมายถึงฟันจะผุได้ นอกจากนี้แผ่นคราบจุลินทรีย์
(หรือแผ่นคราบฟัน) ถ้าติดอยู่บนฟันนานๆ จะมีสารแคลเซียมและฟอสเฟตมาเกาะ
และจะกลายเป็นหินปูนในที่สุด
แผ่นคราบฟันนี้มีสีเหลืองๆ ขาวๆ เป็นคราบเหนียวเกาะอยู่บนฟัน ซึ่งถ้ามองด้วยตาเปล่า
อาจจะเห็นยากสักหน่อย แต่ถ้าย้อมด้วยสีย้อมแผ่นคราบฟันจะเห็นชัดเลยค่ะ โดยทั่วไปแล้ว
เราไม่ต้องถึงกับใช้สีย้อมทุกครั้งที่แปรงฟันหรอกนะคะ เพราะเจ้าแผ่นคราบฟันนี้ถูกแปรงออกได้ง่ายๆ
ถ้าเราแปรงฟันอย่างถูกวิธี และใช้เวลาในการแปรงอย่างถี่ถ้วนพอสมควร
หมอพิมขอแนะนำเรื่องการแปรฟัน โดยเน้นว่า ใช้ในเด็กเท่านั้น เพราะวิธีแปรงฟันของเด็ก
จะต่างจากผู้ใหญ่มากและจะเหมาะกับเด็กที่สุด
เรามาเริ่มจากการเลือกซื้อแปรงสีฟันให้ลูกเลยนะคะ แปรงของเด็กควรมีหัวแปรงที่เล็ก
เล็กขนาดไหนก็ดูง่ายๆ ว่าความยาวของหัวแปรงควรจะขนาดประมาณฟัน 3 ซี่ของลูก
ส่วนด้ามแปรงควรจะใหญ่จับถนัดมือ และขนแปรงต้องอ่อนนุ่ม
ปัจจุบันหมอพิมพบว่ามีการผลิตแปรงสีฟันสำหรับเด็กขึ้นจำหน่ายมากมายหลายรูปแบบ
เพื่อจูงใจเด็ก แถมบางยี่ห้อยังกำหนดอายุของเด็กที่จะใช้แปรงขนาดโตไว้อย่างชัดเจน
ซึ่งก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่สะดวกขึ้นในการเลือกแปรงสีฟันให้ลูก อย่างไรก็ตามการให้ลูกมีส่วน
ช่วยเลือกซื้อแปรงสีฟันของตัวเอง มีส่วนทำให้ลูกเต็มใจอยากแปรงฟันโดยสมัครใจด้วย
แล้วก็เทคนิคของคุณพ่อคุณแม่แต่ละรายค่ะ
คราวนี้ก็เริ่มปรงฟันโดยบีบยาสีฟันเพียงเล็กน้อยขนาดประมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียวก็พอ
ส่วนท่าทางในการจะแปรงฟันให้ลูกก็คือ ให้ลูกนอนกับพื้นศีรษะหนุนบนตักคุณพ่อคุณแม่
โดยหันหน้าไปทางเดียวกันทั้งผู้แปรงและเด็ก ถ้าแปรงที่ฟันบนก็ให้เด็กเงยหน้ามากหน่อย
ส่วนวิธีการขยับมือในการแปรงคือให้ขยับแปรงไปมาสั้นๆ ในแนวนอนโดยให้ขนแปรง
ตั้งฉากกับผิวฟันขยับมือไปมาประมาณ 20 ครั้งต่อฟันทุก 3 ซี่
ทีนี้การแปรงฟันถ้าจะให้ทั่วถึงควรทำเป็นระบบคือเริ่มจากแปรงที่ด้านที่ติดแก้มก่อน
โดยให้เด็กกัดฟันไว้เพื่อที่มืออีกข้างของคุณพ่อหรือคุณแม่ที่ไม่ได้ถือแปรงจะได้ใช้ดันแก้ม
ออกไปให้พ้นไม่ให้แปรงไปกระแทก เริ่มแปรงด้านติดแก้มโดยไล่มาตั้งแต่ฟันบนด้านหลังสุด
วนมาข้างหน้าจนไปสิ้นสุดที่ฟันหลังอีกข้างหนึ่ง แล้วจึงแปรงด้านติดแก้มของฟันล่างในลักษณะเดียวกัน
ต่อมาจึงแปรงด้านติดลิ้นให้ลูกอ้าปากกว้างๆ ด้านติดลิ้นจะแปรงยากสักหน่อย ถ้าเป็นฟันกรามด้านใน
หากขยับแปรงไปมาไม่สะดวกอาจใช้วิธีวางแปรงโดยให้ขนแปรงสัมผัสฟันในแนวตั้ง
แล้วดึงออกในทิศทางจากคอฟันไปปลายฟัน ถ้าเป็นฟันหน้าด้านติดลิ้นนี้ก็ให้ใช้วิธีลากแปรงออกจากปาก
โดยถูจากคอฟันไปยังปลายฟันเช่นกัน ส่วนการแปรงก็ควรเริ่มจากฟันบนแล้ววนไปฟันล่างเช่นกัน
เพื่อกันการหลงลืม
ต่อมาจึงแปรงที่ด้านบดเคี้ยว โดยให้ขนแปรงตั้งฉากกับหน้าตัดของฟัน ขยับมือไปมาสั้นๆ เช่นกัน
เมื่อแปรงฟันเสร็จจึงให้เด็กบ้วนปากให้สะอาดจริงๆ แล้วถ้าจะให้สมบูรณ์แบบที่สุด
ควรตามด้วยการใช้เส้นใยขัดฟัน (ไหมขัดฟันหรือ Dental Floss) ซึ่งวิธีการใช้ก็คือดึงเส้นใยมา 1 ฟุต
แล้วผูกเป็นวงกลมโดยเอาปลาย 2 ข้างมาผูกปมตายเข้าด้วยกันแล้วจึงค่อยๆ สอดเข้าไปในด้านที่ฟัน 2 ซี่
มาประชิดกันเข้าไปจนผ่านขอบเหงือกลงไปเล็กน้อย โอบรอบฟันศี่หนึ่งพร้อมทั้งขยับเส้นใยขึ้นไป
บนด้านบดเคี้ยวแล้วทำซ้ำที่เดิม แต่โอบฟันอีกซี่หนึ่งที่ชิดกัน
ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการทำความสะอาดฟันให้ลูกซึ่งการอธิบายวิธีการนี้อ่านดูอาจไม่เข้าใจแจ่มแจ้ง
เหมือนการสาธิตให้ดู ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่มีข้อสงสัยก็ขอให้ไปรับคำแนะนำจากทันตแพทย์อีกทีนะคะ
หมอพิมขอเน้นอีกทีว่า คุณพ่อคุณแม่ต้องแปรงฟันให้ลูกเอง หรือแปรงตามหลังจากที่ลูกแปรงเสมอ
เด็กจะพร้อมที่จะแปรงเองให้สะอาดได้ก็เมื่อแกอายุ 7 ปีขึ้นไป ซึ่งเราก็ยังต้องตรวจเป็นระยะว่า
ลูกแปรงสะอาดหรือไม่
เรื่องแปรงฟันลูกนี่พลาดไม่ได้นะคะ เพราะถ้าฟันของลูกสะอาดแล้วล่ะก็
เรื่องจะผุจะปวดให้ทรมานนั้นไม่มีค่ะ
ท.ญ.วิริยา ออประยูร
|