ร้อนนี้อย่าวางใจ แดดเป็นภัยทุกฤดู หาทางป้องกันภัยผิวกันดีกว่า
ฤดูร้อนเช่นนี้ ไปพักผ่อนนอนเล่นริมทะเลคงช่วยคลายร้อนได้บ้าง แต่ต้องระวังผลเสียของแสงแดด
ทั้งต่อตัวคุณเองและลูกๆ ด้วย เพราะขณะนี้พบมะเร็งผิวหนังสูงขึ้นทั่วโลก และผลเสียสะสมของแสงแดดนั้น
ร้อยละ 80 อยู่ในช่วงวัยเด็ก
ในขณะนี้พบมะเร็งผิวหนังมากขึ้นทั่วโลกในอเมริกาพบผู้ป่วยใหม่ที่เป็นมะเร็งผิวหนังมากกว่าปีละ 5 แสนราย
ส่วนในไทยพบปีละหลายพันราย และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ โรคผิวหนังกว่า 40 ชนิดกำเริบเมื่อโดนแดดที่เห็นทันที
เช่น ผิวไหม้แดด ผิวคล้ำ ฝ้า กระ แพ้ยา SLE และเริม ที่เป็นผลสะสมระยะยาวเช่น ผิวเหี่ยวแก่ มะเร็งผิวหนัง
และตาเป็นต้อกระจก
ปริมาณแสงแดดที่ได้รับตลอดชีวิตนั้น ร้อยละ 80 ได้รับในช่วง 18 ปีแรกของชีวิต
และจากการได้เข้าร่วมประชุมสมาคมแพทย์ผิวหนังอังกฤษที่ผ่านมา มีงานวิจัยแสดงว่าเพียงร้อยละ 24
ของครูอังกฤษเท่านั้นที่เคยสอนให้เด็กนักเรียนระวังผลเสียของแสงแดด และร้อยละ 93 ของครูอังกฤษ
ไม่มีอุปกรณ์การสอนในเรื่องผลเสียของแสงแดดยังพบว่าครูอังกฤษร้อยละ 16 ไหม้แดดอย่างน้อย 1 ครั้ง
ในช่วงปีที่ผ่านมา ถึงจะยังไม่มีงานวิจัยถึงเรื่องทัศนคติในเรื่องผลเสียของแสงแดดในครูไทยแต่ก็พบว่า
โรงเรียนหลายแห่งนิยมจัดกิจกรรมกลางแจ้ง เช่นการเล่นกีฬา การฝึกพละ การเข้าค่ายลูกเสือกลางแดดจัด
โดยปราศจากคำแนะนำให้นักเรียนทราบถึงผลร้ายของแสงแดดและอาการแพ้แดดนั้นมีจริง
ไม่ใช่เด็กอ่อนแอหรือแกล้งทำเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรม
วิธีป้องกันผลเสียของแสงแดดได้แก่ การหลีกเลี่ยงแสงแดดช่วง 8.00-17.00 น. การสวมเสื้อผ้ามิดชิด หมวก
แว่นกันแดด กางร่ม และการใช้ยากันแดดที่มีค่า 15 ขึ้นไป ห้ามไปอาบแดดหรือฉายแสงให้ผิวมีสีแทน
ยากันแดดนั้นใช้ได้ตั้งแต่เด็ก ส่วนทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน ไม่ควรนำออกมาโดนแดดจัด
พบว่าวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ซึ่งแต่งกายเปิดเผยเนื้อตัวมากขึ้น ทั้งคนไทยบางส่วนหันมานิยมอาบแดด
ให้ผิวสีแทนการจราจรติดขัด บรรยากาศชั้นโอโซนที่ป้องกันแดดบางลง และคนมีอายุสูงขึ้นทำให้คนไทย
และคนทั่วโลกได้รับผลเสียของแสงแดดมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนั้นขอเตือนว่าชายทะเลไทยแทบทุกแห่งอุดมไปด้วยแมงกะพรุนไฟซึ่งเมื่อถูก
จะปวดแสบปวดร้อนเป็นแผล และเกิดแผลเรื้อรังตามมา แผลหายยากมาก บางคนเป็นแผลเรื้อรังนับ 10 ปี
เมื่อโดนแมงกะพรุน บางรายอาจคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว หมดสติ และจมน้ำตายได้ จึงต้องหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ
ตามหาดที่มีแมงกะพรุนชุกชุม โดยอาจสอบถามจากชาวบ้านก่อน ไม่ควรว่ายน้ำหลังพายุหรือฝนตก
หากต้องการดำน้ำต้องสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดและสวมถุงมือ หากไม่แน่ใจอาจว่ายน้ำในสระแทน
เมื่อโดนแมงกะพรุนไฟต้องรีบขึ้นจากน้ำ ไม่เคลื่อนไหวส่วนที่ถูก เพราะพิษจะยิ่งกระจาย ห้ามใช้น้ำเปล่า
น้ำเกลือหรือแอลกอฮอล์ทำความสะอาด
เพราะกระเปาะพิษจะยิ่งแตกตามหลักออสโมซิส ทำให้พิษยิ่งแพร่กระจาย อาจใช้น้ำทะเลล้างหรือใช้น้ำส้มสายชูราด
แล้วใช้ ATM Card หรือเปลือกหอยค่อยๆ ขูดกระเปาะพิษออกแล้วรีบไปพบแพทย์นะครับ
นพ.ประวิตร พิศาลบุตร
|