มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



 กันไว้ดีกว่าแก้ วิธีป้องกันการหย่าร้างก่อนการแต่งงาน


ปานฤดีเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ เธอมีการศึกษาระดับปริญญา มีหน้าที่การงานที่ดี มีกลุ่มเพื่อนที่รู้ใจ เธอออกกำลังกายรักษาร่างกายอย่างสม่ำเสมอ และพยายามรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ในช่วงก่อนแต่งงาน เธอมีเพื่อนชายหลายคน แต่ในที่สุดเธอก็ตกลงใจเลือก อวยชัย เพราะดูเขามีบุคลิกดี มีอะไรหลายอย่างที่เข้ากับเธอได้ แต่ก็ปรากฏว่า เมื่อแต่งไปได้สัก 4-5 ปี อวยชัยกลับแสดงนิสัยอยู่ไม่ติดบ้าน เล่นการพนัน และไม่สนใจที่จะทำหน้าที่พ่อบ้านให้แก่เธอและลูกเลย
ปานฤดีรู้สึกผิดหวังในชีวิตคู่และกำลังคิดจะแยกทางกับเขา

เรื่องของปานฤดีอาจเป็นเรื่องที่เราคงเคยได้ยินมาบ้างไม่มากก็น้อย แม้จะไม่เหมือนทีเดียว แต่ก็ใกล้เคียงในแง่ที่ผู้หญิงและชาย เมื่อแต่งงานไปได้สักระยะหนึ่ง เกิดความรู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้เสียแล้ว และเมื่อความอดทนได้หมดสิ้นไป เขาและเธอก็จูงมือกันขึ้นอำเภอหย่าร้างกัน ทำให้อัตราการหย่าร้าง ของสังคมไทยเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ

ทำไมคนเราจึงหย่าร้างกัน ?
จะมีทางไหนที่จะป้องกันการหย่าร้างก่อนการแต่งงานหรือไม่ ?
นักจิตวิทยาเชื่อว่า การหย่าร้างเกิดขึ้นเมื่อคู่สมรสมองเห็นว่า ปัญหาที่เป็นความขัดแย้ง ระหว่างเธอกับเขานั้น ไม่มีทางออกอื่นแล้วและทั้งคู่ก็คิดว่า คงจะมีความสุขถ้าแยกกันอยู่ มากกว่าที่จะทนกันอยู่ต่อไป การหย่าร้างจึงเกิดขึ้น

ถ้าจะถามต่อไปว่าจะมีแนวทางอะไรที่คู่รักหรือคู่สมรสจะใช้พิจารณาก่อนการตัดสินใจแต่งงานหรือไม่ ?
คำตอบคือ มีแน่นอน และคุณผู้หญิงทุกคนก็ควรที่จะคำนึงถึงแนวทางเหล่านั้นก่อนการปักใจรัก หรือถลำใจกายไปให้ใคร

คุณต้องยึดหลัก "กันไว้ดีกว่าแก้" อย่าปักใจแต่งงานไปกับเขาและพอเกิดปัญหา ก็มานั่งคิดเจ็บใจตนเองว่า ทำไมดวงตาไม่เห็นธรรมเสียก่อนที่จะลุกขึ้นมาแต่งกับเขาก็ไม่รู้

ดังนั้นก่อนรักใคร่จริงจังกับใคร คุณควรจะพิจารณาตัวเขา และตัวคุณในแง่มุมต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. สำรวจความคาดหมายของตัวคุณเองและของเขา

ผู้ชายผู้หญิงแต่ละคน เมื่อตกหลุมรักและตกลงใจแต่งงานกันนั้น โดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม คนทั้งคู่ จะมีความคาดหมายบางสิ่งบางประการในคู่ครองของตนเสมอ เช่น เขาอาจจะคาดหมายให้คุณเป็นแม่บ้าน อยู่บ้านเลี้ยงลูก ส่วนคุณอาจจะคาดหมายให้เขาเป็นพ่อบ้านที่ดี ไม่นอกใจ รักลูกเมีย ไม่ดื่มเหล้า เที่ยวผู้หญิง เป็นต้น

นอกจากนี้ ความคาดหมายยังรวมไปถึงทุกเรื่องในชีวิต เช่น การใช้เวลาร่วมกัน การใช้จ่ายเงินทอง ความสนใจ การคบเพื่อนฝูง ตลอดจนเรื่องการเลี้ยงลูก ฯลฯ
คุณเชื่อหรือไม่ว่า เรื่องความหมายเหล่านี้ คู่รักน้อยคู่นักที่จะมานั่งจับเข่าพูดกันอย่างชัดเจน ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้ค้างคาอยู่ในหัวใจและเมื่อมาแต่งงานอยู่กินกันจริงๆ จึงรู้ว่าความแตกต่าง ทางความคาดหมายเหล่านี้ มีผลกระทบถึงทุกข์สุขในชีวิตคู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สมมุติว่า เขาให้ความสำคัญกับเพื่อนฝูงของเขามาก ตอนรักกันใหม่ๆ คุณก็คิดว่า มันช่างเป็นคนมีเสน่ห์ เพื่อนฝูงรักใคร่มากมาย แต่ที่ไหนได้ เมื่อแต่งงานกันไป คุณกลับพบว่า เขามีเวลาให้คุณและลูก น้อยกว่าเวลาที่เขามีให้ เพื่อนฝูงของเขา พอคุณพูดขึ้น เขากลับบอกคุณว่า ก็คุณก็รู้ตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วว่า เขามีเพื่อนฝูงมาก (ซึ่งก็จริงของเขา) แต่เมื่อคุณและเขาไม่เคยคุยกันถึงเรื่องนี้เลย พอมาถึงช่วงนี้ คุณคงพูดไม่ออก นั่งนึกเซ็งในหัวใจคนเดียว

ดังนั้น หนทางป้องกันความคาดหมายที่ก่อให้เกิดทุกข์ภายหลังและอจนำไปสู่การหย่าร้างก็คือ ถามตัวเองว่า "คุณต้องการอะไรจากคู่รักของคุณ เมื่อคุณแต่งงานกับเขา"
พยายามตอบคำถามเหล่านี้ให้ละเอียดในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับบทบาทของการเป็นสามี การจับจ่ายใช้สอย การเลี้ยงลูก การใช้เวลาร่วมกัน ฯลฯ

คุณต้องพยายามตอบทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น ลองคิดว่า เมื่อคุณแต่งงานไปกับเขานานๆ คุณต้องการเห็นการใช้ชีวิตในวัยกลางคน วัยชรา กับเขาอย่างไร ข้อสำคัญอย่าหลอกตัวเอง คุณจะต้องรู้ว่า คุณต้องการอะไร และคาดหวังให้ชีวิตคู่เป็นอย่างไร

การกระทำเช่นนี้ แม้จะเสียเวลาไปบ้างแต่ก็จำเป็น การเสียเวลาเล็กน้อยก่อนการตัดสินใจใหญ่ เป็นสิ่งควรทำ ถ้าคุณอยากป้องกันการหย่าร้าง ที่อาจจะต้องทำให้คุณสูญเสียเวลาไปตลอดชีวิต

2. ให้ความสนใจในเรื่องค่านิยมพื้นฐาน

ความแตกต่างที่มักทำให้สามีภรรยาหย่าร้างกัน ส่วนใหญ่เกิดจากความแตกต่างกันทางค่านิยม ความเชื่อของคนทั้งสอง

ค่านิยม หมายถึง ความเชื่อที่เป็นพื้นฐานของชีวิต ค่านิยมมักจะครอบคลุมไปทุกเรื่อง เช่น ค่านิยมทางศาสนา ถ้าคุณเป็นคนธรรมะธัมโมคุณย่อมอึดอัดกับคู่สมรสที่ไม่เชื่อในเรื่องบาปบุญคุณโทษ ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
หรือค่านิยมทางความสำเร็จ ถ้าคุณอยากให้สามีสนับสนุนคุณในด้านที่การงาน อยากทำงานประสบความสำเร็จสูงๆ คุณก็คงทนไม่ได้ถ้าสามีอยากให้อยู่กับบ้านเลี้ยงลูก
หรือค่านิยมทางการช่วยเหลือผู้อื่น ถาคุณชอบช่วยเหลือผู้อื่นและสามีเป็นคนที่จะทำอะไรสักอย่าง ถ้าไม่ได้เงินจะไม่ทำ คุณก็อยู่กับเขาไม่ได้นาน เป็นต้น

ดังนั้นแนวทางป้องกันในเรื่องนี้ก็คือ
คุณจะต้องถามตัวเองอีกเหมือนกันว่า ค่านิยมอะไรที่สำคัญสำหรับคุณมากๆ
ถ้ามีหลายข้อ คุณอาจจะใส่หมายเลขเรียงลงมาจากที่สำคัญที่สุดถึงสำคัญน้อยที่สุด ทั้งนี้เพื่อสะดวกในการนำมาพิจารณาร่วมกันกับเขา ถ้าข้อใดเป็นข้อที่สำคัญสำหรับคุณจริงๆ แต่สำหรับเขาแล้ว เขาไม่ถือว่ามันสำคัญเลย นี่ก็แสดงถึงลางแห่งความยุ่งยากในชีวิตสมรสของคุณแล้ว

การคุยกันถึงเรื่องของค่านิยมที่สำคัญ นอกจากจะทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้จุดยืนของกันและกันแล้ว ยังเป็นเครื่องช่วยป้องกันการหย่าร้างในอนาคตอีกด้วย

3. รู้จักพูดจาสื่อข้อความกับเขา

การหย่าร้าง มักเกิดจากความขัดข้องหมองใจเล็กๆ น้อยๆ ที่คน 2 คนมีต่อกัน และไม่มีการพูดปรับความเข้าใจกัน ทำให้เรื่องเล็กๆ ที่สะสม กลายเป็นเรื่องที่ไม่เล็ก และเมื่อถึงจุดที่บุคคลทนกันไม่ได้ เรื่องอะไรที่ไม่เป็นเรื่องมากระทบเพียงเล็กน้อย ก็เสมือนไฟมาจุดชนวนของเชื้อเพลิงที่ก่อตัวมาเป็นเวลานานแล้วนั่นเอง

นักจิตวิทยาเชื่อว่า การพูดจาสื่อข้อความออกไป จะช่วยทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่าย เรื่อยเจื้อยของเราคนเดียว แต่เป็นการพูดแสดงความรู้สึกของคุณ มากกว่าการกล่าวหาโจมตีตัวเขา เช่น คุณอาจจะบอกว่า คุณไม่ชอบการที่เขานัดแล้วผิดถนัดบ่อยๆ และคุณอยากให้เขาโทรฯมาบอก ถ้าเขาจะผิดนัด สิ่งเหล่านี้ถ้าคุณไม่พูดออกไป เขาย่อมไม่มีทางทราบได้เลยว่า การผิดนัดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ การพูดออกไปจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้เขารู้เข้าใจได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าไม่พูดและเก็บกดเอาไว้ ย่อมเป็นการสะสมความโกรธและเมื่อคุณเหลืออดขึ้นมา ย่อมเป็นของแน่นอนว่าคุณอาจระเบิดเอากับเขา ได้อย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตาม การกระทำทุกอย่างต้องมีการ "เสี่ยง" การพูดกับเขาก็เช่นกัน คุณอาจจะต้องเสี่ยง ต่อการที่เขาจะโกรธ ยิ่งถ้าคุณรักเขามากมายเพียงไร คุณอาจมีความรู้สึกกลัวว่า ถ้าพูดไปแล้ว ดีไม่ดีเขาอาจเลิกราไปกับคุณ ทำให้คุณไม่อยากพูด แต่ถ้ายิ่งไม่ดูด คุณเองนั่นแหละที่จะหงุดหงิด และเมื่อถึงวันหนึ่งที่คุณทนไม่ได้ ต่อให้รักแทบตาย คุณก็อาจจะต้องเลิกรากับเขาไปได้เช่นกัน

ทางที่ดี ถ้าทั้งคุณและเขารู้สึกว่าเรายังมีอะไรที่จะต้องปรับเข้าหากัน คุณควรจะมีการสื่ออย่างจริงใจออกไป แม้จะต้องเสี่ยงต่อการที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะเจ็บอยู่บ้าง ก็ควรทำ เพราะมันจะช่วยให้คนทั้งคู่ เรียนรู้ที่จะสื่อสารและปรับตัวเข้าหากันในโอกาสต่อไป

4. อย่าร้องเพลง "ขอให้เหมือนเดิม"

ผู้หญิงหลายคน อยากให้คนรักเราเหมือนเดิม และมักจะบ่นว่า เขาเปลี่ยนไปหลังแต่งงานแล้ว คุณรู้ไหมว่าผู้ชายผู้หญิงที่พูดประโยคนี้ คือ คนที่ยังไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เพียงพอ ของทุกอย่างในโลกนี้ ย่อมเปลี่ยนไปตามกฎแห่งอนิจจัง คนที่เคยรักอาจกลายเป็นเกลียด หรือคนที่เกลียดอาจเป็นรัก ความสัมพันธ์ในชีวิตไม่มีอะไรที่คงที่

ในชีวิตสมรส สิ่งที่เราอยากเห็นก็คือ การที่สามีภรรยา ค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่เติบโตไปพร้อมๆ กันจนแก่จนเฒ่า การที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ไม่ยอมเปลี่ยน แต่ถ้าคู่สมรสเกิดเปลี่ยนขึ้นมา ก็ย่อมเกิดปัญหาแน่นอน ดังนั้น ขอให้คุณเปิดใจยอมรับในความเปลี่ยนแปลงทั้งจากตัวเขาและตัวของคุณเอง

5. อย่าลืมให้ความสำคัญเรื่องเพศ

ผู้ชายหลายคนเลิกราจากผู้หญิง "ดีๆ" ไปอยู่กับผู้หญิง "ไม่ดี" เพราะสาเหตุหลายประการที่สำคัญ และไม่ควรมองข้ามไปคือเรื่อง SEX

สามีภรรยานั้น ต่อให้โกรธแสนโกรธ หงุดหงิดกันหลายเรื่อง แต่ถ้าเรื่องเพศไปกันได้ ก็มักจะทำให้เรื่องอื่นๆ บรรเทาเบาบางลงไปได้ แต่ในทางกลับกัน หากเรื่องอื่นพอไปกันได้ แต่เรื่องเพศสัมพันธ์ไม่ดี ก็อาจเป็นสาเหตุให้คุณพ่อบ้าน มีข้ออ้างที่จะออกไปหา "ความสุข" นอกบ้านและมีผลเสียต่อชีวิตสมรสให้ต้องเลิกราต่อกันง่ายเข้า โดยเฉพาะเมื่อมี "นังนั่น" หรือ "เจ้านั่น" เข้ามาแทรกแซงในชีวิตคู่

คำแนะนำของเราก็คือ
คุณต้องเข้าใจว่า เรื่อง SEX เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ชาย ดังนั้นแม้คุณจะรู้สึกเบื่อ หรือรำคาญขึ้นมาบ้างก็ขอให้ทำใจ และพยายามมองว่า เรื่องเพศที่ดีจะช่วยรักษาชีวิตคู่ของคุณ ให้ยืนยาวต่อไป คุณจะได้ทำใจให้เพลิดเพลิน และตอบสนองคู่สมรสของคุณได้ง่ายขึ้น

ในเรื่องเพศนั้น คุณอาจจะทำได้ 2 ทางคือ
ก. วางแผนโดยตั้งใจ เช่นตกลงกับคู่สมรสของคุณว่า คุณจะมีเพศสัมพันธ์ในช่วงใด และเมื่อถึงเวลาก็จะต้องปฏิบัติตาม และจะไม่มีข้ออ้างใดๆ
ข. ไม่วางแผน แต่ให้เกิดขึ้นเอง วิธีการนี้ จะทำให้การมีเพศสัมพันธ์ดูตื่นเต้น คล้ายเด็กๆ ที่ชอบลองของแปลกๆ ใหม่ๆ
ถ้าคุณทำใจได้เช่นนี้รับรองว่า SEX จะช่วยรักษาชีวิตสมรสของคุณให้ยืนยาวอย่างไม่น่าเชื่อ

เท่าที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นเพียงข้อเตือนใจ เป็นคำแนะนำที่มุ่งการ "กันไว้ก่อนแก้" อย่ารอคอยจนความแตกร้าวมาถึงแล้วจึงหาทางแก้ไข เพราะมันอาจจะสายเกินไปก็ได้

การป้องกันเสียก่อนการแต่งจะทำให้คุณมีความมั่นใจในชีวิตสมรสของคุณมากขึ้น สาวๆ ทั้งหลายจึงไม่ควรมองข้ามข้อคิดเห็นเหล่านี้ เพราะมันอาจจะช่วยให้คุณไม่ต้องมานั่งเสียใจ เสียดายในสิ่งที่อาจเกิดกับชีวิตคุณนั่นเอง

โดยนวลศิริ เปาโรหิตย์

(update 19 ธันวาคม 2000)


[ ที่มา...หนังสือ รักให้เป็น โดยนวลศิริ เปาโรหิตย์ ]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600