ดร.วินัย ดะห์ลัน
เห็นคนเถียงกันอยู่บ่อยๆ เรื่องอ้วน เรื่องผอม หลายคนรูปร่างท้วม แต่ไม่ยอมรับว่าตนเองอ้วนเกินพอดี
ในขณะที่บางคนผอมแห้ง กลับไม่ยอมรับว่าตนเองผอม ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสาวหลายคนที่มักจะทึกทัก
เอาเองว่าตนเอง มี รูปร่างสวยพอดี ไม่อ้วนไม่ผอมจนเกินไป แม้นักโภชนาการจะทักเอาว่าเธอออกจะผอมไปบ้าง
ดูเหมือนเธอเองจะไม่ยอมรับ
เรื่องอ้วน เรื่องผอม ตามมาตรฐานทางโภชนาการกำหนดไว้อย่างไร ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบหรอกครับ
หลายคนเมื่อทราบแล้วยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าน้ำหนักต่อส่วนสูงที่ว่าได้มาตรฐานนั้น หมายถึงอะไร
จะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้ เมื่อไม่เข้าใจกันอยู่อย่างนี้ จึงทำให้เกิดการถกเถียงกันอยู่บ่อยๆ ไม่มีวันจบ
ก่อนอื่นคงต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า น้ำหนักพอดีหรือน้ำหนักมาตรฐานนั้น หมายถึงอะไร
และจะมีประโยชน์อย่างไรบ้างต่อสุขภาพ อันที่จริงน้ำหนักมาตรฐาน หรือบางครั้งเรียกว่าน้ำหนักในอุดมคตินั้น
มีความหมายว่าน้ำหนักตัวในส่วนที่สัมพันธ์กับส่วนสูงอยู่ในระดับที่จะมีผลทำให้อายุยืนยาวมากที่สุด
โดยมีสุขภาพดีที่สุด
ข้อมูลอย่างนี้เขาจะเก็บสะสมจากผู้คนจำนวนนับได้หลายหมื่น ทำการชั่งน้ำหนักตัวและวัดส่วนสูงไว้
เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ จากนั้นตามไปเก็บข้อมูลเป็นระยะเพื่อดูว่าแต่ละคนเสียชีวิตเมื่อไหร่
โดยพิจารณาการเสียชีวิตที่เป็นปกติตามธรรมชาติ ไม่นับการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เก็บข้อมูลนานหลายสิบปี
ทำให้ได้ข้อมูลว่าน้ำหนักตัวต่อส่วนสูงในระดับไหน จึงจะทำให้คนมีอายุยืนยาวที่สุดโดยมีสุขภาพดีที่สุด
คนท้วมหรืออ้วนเกินไป จะอายุสั้น รวมทั้งสุขภาพแย่กว่าคนน้ำหนักตัวเป็นปกติ ในขณะเดียวกัน
คนที่ผอมจนเกินไป สุขภาพก็แย่ รวมไปถึงอายุก็สั้นกว่าคนที่มีน้ำหนักตัวเป็นปกติ เช่นเดียวกัน
วัดกันตรงอายุยืนยาว สุขภาพดีนั่นแหละครับ ข้อมูลในลักษณะนี้ใช้การเก็บข้อมูล
ของบริษัทประกันชีวิตเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยนักวิจัยหลายๆ
กลุ่มที่ทำการศึกษาในคนหมู่มาก
นักวิชาการทั้งด้านโภชนาการและทางการแพทย์ มีข้อมูลที่ยืนยันต้องตรงกันว่า
คนที่มีน้ำหนักตัวพอดี ไม่อ้วนเกินไป ไม่ผอมเกินไป มีโอกาสที่จะมีสุขภาพดีที่สุด อายุยืนยาวที่สุด
ที่ว่ามีโอกาสนั้น หมายความว่า มันไม่แน่เสมอไปหรอกครับที่คนน้ำหนักตัวพอดีจะอายุยืนและสุขภาพดี
เอาเป็นว่า เรื่องอย่างนี้เขาถือตัวเลขค่าเฉลี่ยทางสถิติเป็นเกณฑ์ก็แล้วกัน
เมื่อเชื่อข้อมูลในลักษณะนี้แล้ว ลองมาดูกันดีกว่าว่าพวกเรามีน้ำหนักตัวพอดีกันหรือเปล่า
วิธีการวัดง่ายๆ
เขาให้ชั่งน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัมและวัดส่วนสูงคิดเป็นเมตรไว้ ได้ค่าเท่าไหร่แล้วให้นำเอาน้ำหนักตัว
หารด้วยส่วนสูงที่ยกกำลังสอง ค่าที่ได้เขาเรียกว่า "ดัชนีมวลกาย" หรือ Body Mass Index
มีตัวย่อในภาษาอังกฤษว่า BMI มีค่าเป็นกิโลกรัมต่อตารางเมตร
ยกตัวอย่าง เช่น นายโยธินมีส่วนสูง 175 เซนติเมตร ให้คำนวณเป็นเมตรจะได้ค่า 1.75 เมตร
นำไปยกกำลังสองจะได้ค่า 3.0625 ตารางเมตร หากมีน้ำหนักตัว 90 กิโลกรัม ค่า BMI ของนายโยธิน
จะมีค่าเท่ากับ 90 หารด้วย 3.0625 ได้ค่าเท่ากับ 29.39 กิโลกรัมต่อตารางเมตร เป็นต้น
น้ำหนักตัวปกติหมายถึงมีค่า BMI อยู่ระหว่าง 18.5 ถึง 24.9 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้ ดังนั้น การที่นายโยธินมีค่า BMI 29.39 ซึ่งมากกว่า 24.9 จึงนับว่าอ้วนมากเกินไป
ส่วนใครที่มีค่า BMI น้อยกว่า 18.5 ถือได้ว่ามีน้ำหนักตัวน้อยเกินไปหรือนับว่าผอม ใครมีค่า BMI
ตั้งแต่ 25-29.9 ถือได้ว่ามีน้ำหนักเกิน หากค่า BMI สูงกว่า 30 ต้องถือว่าอ้วนเกินไปแล้วสูงจนกระทั่งเป็นโรคอ้วน
นายโยธินอ้วนมากแม้จะยังไม่ถึงระดับที่เป็นโรคอ้วน แต่ก็เฉียดฉิวเหลือเกิน
นายโยธินเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาต่อสุขภาพได้หลายปัญหา ทั้งไขมันสูงในเลือด ฮอร์โมนอินสุลินสูงในเลือด
อาจเกิดภาวะเซลล์ดื้อต่อการทำงานของอินสุลินทำให้เกิดเบาหวานได้ง่าย จึงพบคนอ้วนเป็นเบาหวานได้บ่อยๆ
นอกจากนี้ยังอาจพบปัญหาโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง โรคไขข้ออักเสบ เก๊าท์
รวมทั้งอีกหลายปัญหา
คนอ้วนจึงเสี่ยงที่จะประสบปัญหาสุขภาพและเสียชีวิตได้เร็วกว่าคนที่มีน้ำหนักปกติ
ขณะเดียวกันคนที่มีน้ำหนักตัวผอมเกินไป ความเสี่ยงต่อโรคก็มีได้ไม่ต่างกัน เป็นต้นว่า
โรคขาดสารอาหาร โรคขาดโปรตีนและพลังงาน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะภูมิต้านทานลดลง
ติดโรคได้ง่าย จนกระทั่งบั่นทอนอายุขัยของตนเองให้ลดลง
ทีนี้คงจะเข้าใจแล้วนะครับว่าน้ำหนักที่ได้มาตรฐานจะช่วยยืดชีวิตให้ยืนยาวขึ้น สุขภาพแข็งแรงขึ้น
ผู้เขียนเองเคยเจอสาวรูปร่างสะโอดสะองจำนวนไม่น้อย เข้าใจเอาเองว่าตนเองมีรูปร่างที่ดีอยู่แล้ว
โดยพิจารณาตนเองจากความสวยงามของรูปร่างเป็นหลัก ซึ่งคำว่ารูปร่างสวยงามนั้น
มันไม่มีมาตรฐานในทางวิชาการหรอกครับ มันขึ้นกับยุคสมัย
คนยุโรปสมัยก่อนมองผู้หญิงท้วมว่ารูปร่างดี จะเห็นได้ว่าทั้งโมนาลิซ่าในภาพวาด
ทั้งภาพหญิงเปลือยของโมเน่ รวมไปถึงรูปแกะสลักหินอ่อนของวีนัสเดอไมโล ล้วนแล้วแต่มีรูปร่างท้วมทั้งสิ้น
แต่คนยุโรปยุคนั้นเขาถือว่าสาวเหล่านี้มีรูปร่างสวยงาม เป็นแฟชั่นของคนยุคโน้นว่างั้นเถอะ
คนยุคใหม่ชอบผู้หญิงผอมสูงเอวบางร่างน้อยเป็นรูปร่างของนางแบบที่กล่าวกันว่า
สวมเสื้อผ้าแล้วแลดูสวย เรื่องความสวยงามในลักษณะนี้จึงเป็นแฟชั่นเท่านั้น จะไปทึกทักเอาเองว่า
มีรูปร่างดีอยู่แล้ว น้ำหนักตัวปกติแล้ว ย่อมไม่ได้ เรื่องของน้ำหนักตัวเมื่อเทียบกับส่วนสูง
จึงต้องมีมาตรฐานทางโภชนาการเป็นตัววัด และค่าที่บอกไว้แต่แรกนั่นแหละครับที่ถือว่าปกติ
ดังนั้น ที่ว่าอ้วนเป็นฉันใด จึงขอให้พิจารณาจากค่า BMI ซึ่งคำนวณได้ไม่ยากนัก
เมื่อคำนวณได้แล้วก็ยอมรับเสียเถอะ อย่าไปเสียเวลาเถียงกับหมอเขาเลย
|