ผู้จัดการออนไลน์ -
สาหร่ายเกลียวทอง ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่มากนักสำหรับหลายคน
เพราะมันเป็นแค่สาหร่ายชนิดหนึ่ง ที่ทุกคนคงเคยได้ยิน แต่ใครจะรู้บ้างว่า เจ้าสาหร่ายสีเขียวชนิดนี้
เหมือนยาวิเศษขนานแท้ ที่สามารถรักษาได้สารพัดโรค เปรียบเป็นอาหารโอสถทิพย์ชั้นดี
ที่แม้แต่คนร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงยังถามหา
 |
|
มารู้จักกันให้ดีๆก่อนดีกว่าว่า สาหร่ายเกลียวทองคืออะไร
สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินขนาดเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
คือ คำจำกัดความของเจ้าสาหร่ายน้อยชนิดนี้ ที่ผ่านมาสาหร่ายเกลียวทอง
ได้รับการทดลองเป็นอย่างดีในด้านการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ที่ประเทศ
ญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติที่มนุษย์นำมาใช้เป็นอาหาร
อย่างปลอดภัยมานานนับพันปีมาแล้ว |
ด้วยปริมาณโปรตีนที่มากกว่า 60 % และสูงกว่าเนื้อวัวและไข่ถึง 3 เท่าของสาหร่ายเกลียวทอง
ทำให้เห็นได้ว่า สาหร่ายชนิดนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว นี่ยังไม่รวมถึงสารพัดวิตามิน ที่มีคุณค่าต่อร่างกาย
อย่าง บี 1,2,3และ 12 วิตามิน C วิตามิน E และเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 20-25 เท่าของที่มีอยู่ในแครอท
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่มีอยู่มากมายนี้เอง ทำให้นักวิทยาศาสตร์ และวงการแพทย์นำสาหร่ายชนิดนี้
มาพัฒนาให้สามารถรักษาโรคร้ายหลายโรคที่ในขณะนี้ยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้
ตอนนี้สาหร่ายเกลียวทองได้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของพืชผักชนิดหนึ่ง เป็นเหมือนอาหารที่รับประทานกันทั่วไป
แต่ไม่ได้รับความสนใจมากนัก เพราะน้อยคนที่จะรู้ว่า อาหารชนิดนี้เปรียบเสมือนเป็นยาวิเศษ
แหล่งอาหารสมองชั้นเลิศ รู้มั้ยว่า สาหร่ายเกลียวทองเป็นแหล่งสำคัญของ
กรดกลูมาติก ซึ่งมีความสำคัญในขบวนการเผาผลาญอาหารให้สมอง
การที่รับกรดกลูมาติกเข้าไปมากๆ จะทำให้เกิดสมดุลทั้งในร่างกายและระบบประสาท
ทำให้รู้สึกเป็นหนุ่มเป็นสาวและทำให้สุขภาพของสมองและบุคลิกภาพดีขึ้น
แมงกานิส เป็นส่วนประกอบอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญและช่วยเข้าไปเสริม
การทำงานของประสาทสมอง
ไอโซลิวซีน ในสาหร่ายเกลียวทองช่วยป้องกันความเสื่อมของระบบประสาท
ในขณะที่ ลิวซีน ไปกระตุ้นสมองส่วนบนช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและกระฉับกระเฉง
นอกจากนี้แล้ว เส้นประสาทของเรายังต้องการ ทริพโตโฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนอีกชนิดหนึ่ง
และแวลีน(ตัวหนา) ก็จะช่วยให้คนหนุ่มสาวทั้งหลายมีความคิดที่สุขมขึ้นด้วย
เบต้าแคโรทีน มีอยู่ในสาหร่ายเกลียวทองมากที่สุดเท่าที่
มีการค้นพบมา และเจ้าเบต้าแคโรทีนนี่แหละที่เป็นสารต่อต้านมะเร็ง
ทุกชนิด เบต้าแคโรทีนเป็นแหล่งวิตามินเอของมนุษย์เรามีการทดลอง
กับสัตว์มากกว่า 100 ตัว พบว่าวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนช่วยยับยั้ง
|
|
 |
การเจริญเติบโตของเนื้องอกและมะเร็งหลายชนิดได้ผลชะงัดนักเชียว และขณะนี้มีการยอมรับกัน
อย่างแพร่หลายมากขึ้นว่า เมื่อนำมาใช้กับคนต้องได้ผลแน่นอน
แลคโตบาซิลลัส ในลำไส้สร้างประโยชน์ถึง 3 ทางคือ ทำให้การย่อยและการดูดซึมดีขึ้น
ป้องกันการติดเชื้อ และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และแน่นอนว่า สาหร่ายเกลียวทอง สามารถเสริมสร้าง
แลคโตบาซิลลัสในลำไส้ได้ แล้วรู้มั้ยว่า การที่ลำไส้ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีล่ะก็
จะสามารถทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่องได้ และนั่นก็หมายถึงโรคเอดส์นั่นเอง
ตอนนี้ สาหร่ายเกลียวทองถูกนำมาใช้เป็นอาหารเสริมมากขึ้น และได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
และสำหรับผู้ที่ขาดสารอาหาร สาหร่ายเกลียวทองก็สามารถทดแทนและทำให้ฟื้นตัวได้ในเวลาอันรวดเร็ว
โดยเฉพาะอย่างเด็กเล็กๆ เคยมีการทดลองโดยแพทย์สั่งจ่ายสาหร่ายเกลียวทองให้เด็ก
เพื่อเป็นอาหารเสริมร่วมกับต้นอ่อนของข้าวบาร์เลย์อบ ผลปรากฎว่า เด็กๆ ฟื้นตัวเร็วจากอาการไม่อยากอาหาร
ปัสสาวะรดที่นอน ท้องร่วงและ ท้องผูก
 |
|
สำหรับสาวๆ ที่รักสวยรักงามอ่านถึงตรงนี้แล้ว อาจต้องสนใจ
กันเป็นพิเศษสักนิดเพราะสาหร่ายเกลียวทองนอกจากเป็นอาหารเสริม
บำรุงร่างกายแล้วยังสามารถใช้ลดน้ำหนักและบำรุงรักษาผิวพรรณ
ลบรอยแผลเป็นต่างๆ ได้อีกด้วย ยาที่ผสมสาหร่ายเกลียวทอง
จะช่วยกระตุ้นให้รอยแผลเป็นแห้งและจางหายเร็วขึ้น ทั้งจากการ |
ใช้สาหร่ายเกลียวทองล้วนๆ ใช้น้ำคั้นจากสาหร่ายและ ใช้สารที่สกัดจากสาหร่ายเกลียวทอง
ในรูปแบบของยาทั้งแบบครีม ยาทา และยาน้ำ
ยิ่งถ้าเป็นเครื่องสำอางที่ผสมสาหร่ายเกลียวทองด้วยแล้วล่ะ ก็ ผิวพรรณจะทั้งสวย ใส
และยังช่วยลดริ้วรอยอีกด้วย เพราะสาหร่ายเกลียวทองจะช่วยยับยั้งการเจริญของแบคทีเรีย
ยีสต์และเชื้อราได้
หลังจากที่รู้จักมักจี่กับสาหร่ายเกลียวทอง กันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ทำให้รู้ว่า
สรรพคุณของสาหร่ายชนิดนี้มีมากกว่าแค่สาหร่ายธรรมดาๆ ชนิดหนึ่ง ยังมีโรคอีกมากมาย
ที่สาหร่ายเกลียวทองสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตและบางโรคก็สามารถรักษาให้หายขาดได้อย่าง
โรคเบาหวาน โรคตับอักเสบ โรคตา โลหิตจาง
ที่ดูจะเป็นข่าวดีที่สุดก็คงเป็นเรื่องของการทดลองสกัดสารจากสาหร่ายเกลียวทองและพบว่า
คือ ซัลโฟไลปิด ที่เป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของสาหร่ายนั้น มีผลต่อการยับยั้งไวรัสเอดส์
และเชื่อว่าต่อไปจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากขึ้น ถ้าหากมีการพัฒนาสารชนิดนี้ แล้วนำมาสกัด
เป็นยารักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดส์ได้ เพราะทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรเกินความสามารถของมนุษย์
อย่างเราไปได้แน่นอน
|