มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



 อาหารชีวจิตกับคุณแม่ตั้งครรภ์


ดิฉันมีปัญหาข้อสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง อยากจะเรียนปรึกษาคุณหมอ คือ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ได้เรียนรู้เรื่องอาหารชีวจิตและคิดว่าตัวเองน่าจะได้ทานอาหารชีวจิต เพื่อประโยชน์กับร่างกายตลอดไป ทีนี้ดิฉันไม่แน่ใจว่าจะเหมาะสมหรือเปล่า เพราะกำลังตั้งครรภ์ จึงอยากจะทราบว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ ทานอาหารชีวจิตได้หรือไม่คะ และสำหรับเด็ก ทานได้หรือไม่ และที่เหมาะสมควรจะให้ทานตอนอายุเท่าไหร่ดีคะ ถึงจะเป็นประโยชน์สูงสุด ขอบพระคุณค่ะ

กัลยา นันทโพธิ์เดช/ จ.หนองคาย


ตอบ คุณกัลยา

จากการทบทวนบทความอาหารชีวจิต ซึ่งเป็นอาหารใกล้ธรรมชาติ ประกอบด้วย
1. อาหารประเภทแป้งไม่ขัดขาว 50%
2. ผักต้มและผักสด 25%
3. ถั่วหรือโปรตีนจากพืช 15%
4. ผลไม้ไม่หวานจัด งา เมล็ดธัญพืช 10%

งดอาหารประเภท
  • เนื้อสัตว์ เช่น หมู่ เนื้อ ไก่
  • น้ำตาลขาวทุกชนิด
  • อาหารมันที่ใช้น้ำมัน นม เนย กะทิ
  • แป้งขาว เช่น ข้าวขาว ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ขนมปัง
หลักโภชนาการสำหรับคนไทย

กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลายเพื่อจะได้สารอาหารครบจากอาหารต่างๆ และในปริมาณที่พอเพียงกับความต้องการของร่างกายตามอายุและสภาพของบุคคลในแต่ละวัน
อาหารแต่ละชนิดควรประกอบด้วยสารอาหารหลายประเภท ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แร่ธาตุ วิตามิน น้ำ และสารอื่นๆ อีก เช่น ใยอาหาร (FIBER) เพื่อประโยชน์ช่วยในการขับถ่าย

หมู่ที่ 1 โปรตีน ได้แก่ นม ไข่ เนื้อสัตว์ต่างๆ เมล็ดถั่วแห้ง งา ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว แป้ง เผือก มัน น้ำตาล ให้พลังงานแก่ร่างกาย การกินข้าวกล้องคือ ข้าวที่สีเอาแต่เปลือกออก ไม่ต้องขัดสีทำให้มีจมูกข้าวติดอยู่มีประโยชน์ให้ทั้งวิตามิน และเป็นใยอาหารด้วย

หมู่ที่ 3 พืชผักต่างๆ เพื่อเสริมสร้างการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ หมู่นี้เป็นใยอาหาร ช่วยในการขับถ่ายให้วิตามิน เกลือแร่ธาตุต่างๆ

หมู่ที่ 4 ผักผลไม้ต่างๆ ให้ประโยชน์เช่นเดียวกับหมู่ที่ 3

หมู่ที่ 5 น้ำมันและไขมันจากพืชและสัตว์ ซึ่งให้พลังงานและความอบอุ่นและน้ำ ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นของร่างกาย ทำให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกายตามความต้องการ ของแต่ละบุคคลทำให้เกิด "ภาวะโภชนาการดี"
ดื่มนมเป็นประจำตามวัยของแต่ละบุคคล นมเป็นอาหารเหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ธรรมชาติสร้างน้ำนมมาให้กับสตรีเลี้ยงลูกด้วยนม เด็กแรกคลอดจึงควรเลี้ยงด้วยนมแม่ เพราะเป็นอาหารธรรมชาติพร้อมดื่มสำหรับทารกแรกคลอด นมแม่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ
1. พร้อมเสมอสำหรับทารกแรกคลอด
2. สะอาด (ควรทำความสะอาดก่อนให้เด็กดูดนม)
3. มีสารสร้างภูมิให้กับทารก ป้องกันการติดเชื้อโรคได้ง่าย
4. ทำให้มีสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกเพิ่มขึ้น เวลาให้นมลูก
5. ชะลอการมีลูกคนต่อไป
6. ป้องกันหูอักเสบจากการใช้นมขวด ซึ่งเกิดหูอักเสบบ่อยครั้ง
จากหนังสือ "ข้อปฏิบัติการกินอาหารของคนไทย" จัดทำโดย คณะทำงานจัดทำข้อปฏิบัติการกินอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย โดยกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

กล่าวถึงข้อปฏิบัติการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย (เด็กและผู้ใหญ่)

1. กินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลายและหมั่นดูแลน้ำหนักตัว อย่างสม่ำเสมอในทุกอายุ
2. กินข้าวเป็นหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ
3. กินพืชผักให้มากและกินผลไม้เป็นประจำ
4. กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย
6. กินอาหารที่มีแต่ไขมันพอควร
7. หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด
8. กินอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อนจากสารเคมี เชื้อโรค
9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
จากบทความต่างๆ ที่เป็นแนวทางในการกินอาหาร คุณกัลยาควรพิจารณาดูว่า ควรกินอาหารตามข้อปฏิบัติการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย หญิงตั้งครรภ์ควรได้อาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะนม เพื่อเป็นตัวสร้างกระดูกและฟันของลูกในครรภ์ รวมทั้งโปรตีนที่มาจากแหล่งต่างๆ และเกลือแร่ เช่น ธาตุเหล็กและอื่นๆ ที่จะสร้างเลือดเนื้อเป็นอวัยวะที่สำคัญ เช่น สมอง หัวใจ ปอด ตับ ไต และอื่นๆ ในจำนวนที่เพียงพอเพื่อการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของอวัยวะเหล่านี้

ถ้าคุณให้นมแม่แก่ลูกก็ควรกินอาหารให้เพียงพอ เพื่อให้มีน้ำนมที่มีคุณภาพเพื่อเลี้ยงลูก เมื่อเลี้ยงโตแล้วเด็กก็ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ต่อเพื่อการเจริญเติบโตของร่างกาย เพราะอาหารชีวิจิตอาจจะไม่ให้สารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการค่ะ

สำหรับเด็กที่ต้องการอาหารให้พอในการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในแต่ละช่วงอายุในครรภ์ ขอให้ดูตารางกายเจริญเติบโตของทารก ซึ่งเมื่ออายุ 2 เดือน หนักประมาณ 1 กรัม จนถึงคลอด น้ำหนักถึงประมาณ 3,000 กรัม และความยาวของทารกในครรภ์อายุ 3 เดือนประมาณ 3 ซม. จนถึงอายุ 9 เดือนใกล้คลอดมีความยาว 48 ซม. ทั้งน้ำหนักและความยาวของทารกจาก 2 เดือนจนถึงคลอด เจริญเติบโตเร็วมาก


ตารางสรุปการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์

อายุ รูปร่างลักษณะและการเปลี่ยนแปลง
1 เดือน
เป็นตัวอ่อนมีรูปร่างคล้ายลูกน้ำ ถูกหุ้มอยู่ในถุงเล็กๆ
2 เดือน
ตัวอ่อนยาวประมาณ 3 ซม. หนักประมาณ 1-2 กรัม เริ่มมีลักษณะคล้ายมนุษย์ มีแขน ขา ปรากฏขึ้น
3 เดือน
ตัวอ่อนยาวประมาณ 8-9 ซม. หนักประมาณ 20-30 กรัม แขนขาจะเป็นรูปร่างมากขึ้น มีเล็บเกือบทุกนิ้ว ตาเจริญเติบโตเต็มที่ แต่ยังปิดสนิท กระดูกเริ่มแข็ง เริ่มมีสมอง หัวใจ และลำไส้
4 เดือน
มีความยาวประมาณ 10-17 ซม. หนัก 120-150 กรัม มีหู ตา จมูก ดูเป็นตัวคนชัดเจน หัวใจเต้นเร็วขึ้น มีอวัยวะภายในต่างๆ เช่น กระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะ สามารถบอกเพศได้ เริ่มมีการเคลื่อนไหว
5 เดือน
มีความยาวประมาณ 18-27 ซม. หนัก 250-280 กรัม เริ่มมีขนอ่อนขึ้นตามตัว ผิวหนังแดงขุ่น มีไขมันเกาะ มีผมขึ้น นิ้วมือนิ้วเท้าแยกกันออกชัดเจน
6 เดือน
มีความยาวประมาณ 28-34 ซม. หนัก 650-700 กรัม เริ่มมีขนตาขึ้น หนังตาแยกออกจากกัน ผิวหนังมีไขมันเกาะมากขึ้น
7 เดือน
ร่างกายเจริญเต็มที่ ทารกจะมีขนาดยาวประมาณ 35-38 ซม. หนัก 1,500-1,800 กรัม ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ จะดีขึ้น และมีการเคลื่อนไหวได้ดี ถ้าคลอดในระยะนี้อาจเลี้ยงให้รอดได้
8 เดือน
มีขนาดยาวประมาณ 40-43 ซม. หนักประมาณ 2,000 กรัม อวัยวะต่างๆ จะสมบูรณ์ ผิวหนังเริ่มเกลี้ยง
9 เดือน
ตัวยาวประมาณ 46-48 ซม. หนักประมาณ 2,500-3,000 กรัม ผิวหนังซีดลง ร่างกายอ้วนขึ้น
10 เดือน
ครบกำหนดคลอด ทารกจะเติบโตเต็มที่ ผิวหนังเป็นสีแดงเรื่อๆ มีขนอ่อนขึ้นเต็มตัว


จากตารางการเจริญเติบโตของทารก แสดงว่า อาหารที่มีประโยชน์แต่ละชนิดคือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต พืชผัก ผลไม้ น้ำมัน ไขมัน เป็นแหล่งของสิ่งที่ร่างกายต้องการให้เนื้อเยื่อเจริญเติบโตทำงานแบ่งเซลล์ และเจริญอย่างปกติครบถ้วน ไม่ให้เกิดการหยุดเจริญ หรือขาดตอนในการเจริญ เพราะเวลาที่ผ่านไปแต่ละวันจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในมารดาที่ตั้งครรภ์ แพทย์พยายามไม่ให้กินยาหรือสิ่งใดๆ ที่จะหยุดหรือเปลี่ยนแปลงการทำงานตามปกติของเซลล์ต่างๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความพิการกับทารกในครรภ์ การใช้ยาทุกชนิดควรปรึกษาแพทย์ค่ะ

ขอให้คุณกัลยาเลือกอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมทั้งสารอาหารน้ำด้วย เพื่อให้การ ตั้งครรภ์เป็นปกติสมบูรณ์แข็งแรงทั้งแม่และลูกค่ะ

พ.ต.อ.พ.ญ.นพมาศ ชูวรเวช
กุมารแพทย์ ร.พ.เทพธารินทร์

(update วันที่ 25 กันยายน 2543)


[ ที่มา... นิตยสารแม่และเด็ก   ปีที่ 23 ฉบับที่ 332 ตุลาคม 2542 ]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600