ข่าวคุณแม่ท้องนอกมดลูกที่แพทย์สามารถให้มีการตั้งครรภ์ดำเนินจนเด็กทารกแก่วัย
สามารถเลี้ยงรอดได้รับการผ่าตัดคลอดออกมาทางหน้าท้องและแข็งแรงดีทั้งแม่และทารก
พร้อมกับคำถามว่า หมอสามารถจะทำให้ผู้ชายก็สามารถจะท้องได้ ?
เพราะไม่ต้องใช้มดลูกในขบวนการนี้เลย
ตอกย้ำด้วยข่าวโรงพยาบาลต่างจังหวัดใกล้กรุงเทพนี่เองคุณหมอผ่าตัดคลอดทารกแล้วพบว่า
ทารกเป็นทารกท้องนอกมดลูกเช่นกัน แต่ครั้งนี้เป็นการตั้งครรภ์ที่รังไข่ของแม่ทารกและแม่แข็งแรงดี
ยิ่งช่วยตอกย้ำว่า ความเป็นไปได้ที่คุณผู้ชายจะตั้งท้องเพิ่มขึ้น หรือจูเนียร์ (ภาพยนต์ที่คุณผู้ชายตั้งท้องได้)
จะเป็นเรื่องจริง
ในขบวนการตั้งครรภ์นั้นแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนสำคัญๆ
ขั้นตอนแรก คือการปฏิสนธิระหว่างไข่กับตัวอสุจิ ซึ่งเมื่อมีเพศสัมพันธ์แล้วน้ำเชื้อ
หรือน้ำอสุจิที่ฝ่ายชายหลั่งออกมาจะมีตัวอสุจิ 100 กว่าล้านตัว แต่จะมีอสุจิเพียงตัวเดียว
ที่จะไปปฏิสนธิหรือฝังตัวเข้าไปในไข่ที่ตกออกมาจากรังไข่ของคุณผู้หญิงตอนกลางของรอบเดือน
หรือประมาณ วันที่ 14 ของการมีระดู
เมื่อตกไข่ออกมาก็จะถูกดูดเข้าไปในท่อนำไข่ซึ่งจะมีเซลล์ที่มีขนคอยพัดให้ไข่
เดินทางเข้ามาในท่อนำไข่ประมาณตอนปลายท่อนำไข่ก็จะไปจ๊ะเอ๋กับตัวอสุจิที่มีลักษณะคล้ายลูกอ๊อด
หรือลูกกบ วิ่งมาชนฝังตัวเข้าไปในเนื้อเยื่อหุ้มไข่ ซึ่งตัวหน่วยพันธุกรรมที่หัวของอสุจิ
ซึ่งจะมีครึ่งหนึ่งของจำนวนเต็มจะไปรวมกับครึ่งหนึ่งของหน่วยพันธุกรรมในไข่ที่มาจากแม่
รวมกันก็จะเป็นจำนวนเต็ม
การผสมพันธุ์หรือปฏิสนธิต้องเกิดที่ในท่อนำไข่แล้วไข่ที่ถูกผสมก็จะแบ่งตัวไปเรื่อยๆ
ตามขบวนการพร้อมกับเคลื่อนตัวมาฝังในโพรงมดลูก โดยฝังเข้าไปในเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก
ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแหล่งอาหารให้ในช่วงแรกจนรกสร้างขึ้นมาสมบูรณ์ก็จะหมดหน้าที่
ถ้าไม่มีการปฏิสนธิเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกก็จะหลุดลอกออกมากลายเป็นรอบเดือน
ในการเกิดท้องนอกมดลูกการปฏิสนธิอาจจะเกิดในท่อนำไข่แล้วเกิดการเดินผิดทิศหรือย้อนศร
ไข่เดินออกมาในช่องท้องสะเปะสะปะหลุดลอยไปเกาะที่ต่างๆ หรืออาจจะเกิดจากมีการปฏิสนธินอกท่อนำไข่
อาจจะจากการที่ตัวอสุจิเดินทางเร็วกว่าปกติ หรือมีการบีบตัวของมดลูกหรือท่อนำไข่ผลักดันเอาตัวอสุจิ
เคลื่อนที่เร็วกว่าปกติ มาปฏิสนธิกับไข่ที่อาจจะยังไม่หลุดจากรังไข่ก็จะกลายเป็นท้องนอกมดลูกที่รังไข่ได้
เช่น กรณีหลัง
ขั้นตอนที่สอง ของการตั้งครรภ์คือ การยึดเกาะของรกซึ่งจะเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุด
ในการเจริญเติบโตของทารก รกทำหน้าที่เป็นห้องครัวของทารกจัดส่งอาหารและออกซิเจน
ลำเลียงมาให้กับทารกจึงมีขนาดใหญ่และมีระบบเส้นเลือดหล่อเลี้ยงแลกเปลี่ยนกับแม่มาก
ซึ่งมดลูกเป็นอวัยวะที่สร้างมาเพื่อการนี้
ในกรณีที่รกเกิดการเกาะผิดที่ รกก็จะชดเชยโดยการแพร่ขยายขนาดเพื่อเสาะหาอาหาร
มาให้ทารกให้เพียงพอ ลำไส้เป็นที่ๆ รกมักจะมาเกาะยึดไว้ ดังเช่นกรณีแรก
รกนอกจากจะทำหน้าที่หาอาหารแล้ว ยังทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนต่างๆ เพื่อเตรียมร่างกายคุณแม่
ให้พร้อมจะเอื้อต่อการเจริญเติบโตของทารก ฮอร์โมนเหล่านี้จะก่อให้ร่างกายคุณแม่เปลี่ยนแปลง เช่น
ทำให้มีการดึงน้ำตาลออกมาในกระแสโลหิตมากขึ้น เพิ่มการเผาผลาญของร่างกายจากการสร้างฮอร์โมน
คล้ายฮอร์โมนธัยรอยด์มากขึ้น สร้างฮอร์โมนเพศมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายมีการสะสมสารน้ำมากขึ้น
คุณแม่จึงมีน้ำหนักเพิ่มมาก ตัวบวมๆ ได้ง่าย แต่ก่อนที่รกจะทำหน้าที่เต็มที่ในขณะกำลังก่อร่างสร้างรกนั้น
จะต้องอาศัยฮอร์โมนจากรังไข่ทำหน้าที่เบื้องต้นซึ่งในผู้ชายไม่มีรังไข่ที่จะทำหน้าที่นี้
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่จะต้องมีการศึกษาวิธีการในการที่จะทำให้สรีระของผู้ชายคล้ายผู้หญิง
ต้องบริหารฮอร์โมนมากมายหลายชนิดและต้องได้ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งยังไม่ได้มีการศึกษาออกมา
อย่างเป็นรูปธรรม ผิดกับขั้นตอนที่หนึ่ง คือการปฏิสนธิซึ่งนักวิทยาศาสตร์สามารถที่จะเลียนแบบธรรมชาติได้
จนกระทั่งถึงการเลือกเพศบุตรและการเลือกเพื่อหลีกหนีความพิการในทารก ไม่เท่านั้นยังสามารถเลี้ยงทารก
ซึ่งยังเป็นระยะก่อนคัพพะ (Embryo) ได้
ความสำเร็จอันนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ "หมอสเตปโท" ซึ่งได้พยายามศึกษามานาน
กว่าจะคิดน้ำยาซึ่งมีลักษณะคล้ายของเหลวที่อยู่ในท่อนำไข่ที่จะเป็นสื่อในการปฏิสนธิ
และแบ่งตัวของไข่ที่ผสมแล้วเพื่อเข้าสู่ระยะคัพพะ หรือตัวอ่อนทารก
นักวิทยาศาสตร์มีขีดความสามารถเพียงเลี้ยงไข่ที่ปฏิสนธิให้เจริญแบ่งตัวถึง 16 หรือและ 32 เซลล์
(โดยเฉลี่ย) เท่านั้นก็ต้องนำกลับเข้าสู่โพรงมดลูกให้มีการฝังตัวในเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก
ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีลักษณะพิเศษมีลักษณะคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำ คือหยืดหยุ่นมีต่อมที่จะสร้างสารเหลว
และสารคัดหลั่งเพื่อหล่อเลี้ยงให้เซลล์ไข่ที่ปฏิสนธิแบ่งตัวและสร้างรก เนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกนั้น
นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถที่จะหากรรมวิธีมาสร้างเนื้อเยื่อเลียนแบบได้สำเร็จ
ในสภาวะการตั้งครรภ์ปกติเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกจะทำหน้าที่กว่ารกจะเจริญจนสามารถ
ดูแลทารกได้ประมาณ 3 เดือน เนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกนี้มีความยืดหยุ่นสูงเมื่อไม่มีการปฏิสนธิ
ส่วนที่อยู่ในโพรงมดลูกชั้นผิวก็จะหลุดออกกลายเป็นระดู ส่วนชั้นลึกก็จะเจริญเติบโตมาทำหน้าที่แทน
เนื้อเยื่อนี้อาจจะหลุดลอยไปอยู่ผิดที่ก่อให้เกิดโรคที่เรียกว่า "เอนโดเมทิโอลิส (Endometriosis)
คือปวดระดู ปวดท้อง เกิดพังพืดเพราะเนื้อเยื่อที่อยู่ผิดที่ก็จะเกิดการหลุดลอกเลือดออก
เช่นเดียวกับระดูในโพรงมดลูกและตัวเนื้อเยื่อที่คงอยู่ก็จะเจริญเติบโตขึ้นมาใหม่ได้
และเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่อยู่ผิดที่ในช่องท้องนี้อาจจะเป็นตัวชักนำให้ไข่ที่ปฏิสนธิ
และหลุดลอยออกมาในช่องท้องไปเกาะฝังตัวอาศัยเจริญเติบโตได้
ในคุณผู้ชายไม่มีเนื้อเยื่อส่วนนี้อยู่ในร่างกายเลย การที่จะเอาเนื้อเยื่อจากผู้อื่น
มาปลูกถ่ายให้เจริญในช่องท้องคุณผู้ชายไม่ใช่สิ่งที่ปฏิบัติได้ง่าย เพราะร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกัน
ที่จะคอยปฏิเสธเนื้อเยื่อที่ไม่ใช่ของตัวเอง คอยดูแลร่างกาย และจะเกิดปฏิกริยารุนแรงมาก
ถ้าพันธุกรรมของเนื้อเยื่อนั้นไม่เข้ากัน (Match) กัน
จะเห็นได้ในการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น เปลี่ยนไต เปลี่ยนหัวใจ คนไข้ที่ได้รับอวัยวะ
ต้องรอจนกว่าจะตรวจว่าเนื้อเยื่อเข้ากันได้ ซึ่งแม้จะตรวจว่าเข้ากันได้หลังมีการปลูกถ่ายอวัยวะแล้ว
ยังต้องให้ยากดภูมิต้านทานอยู่นาน เพื่อป้องกันปฏิกริยาปฏิเสธเนื้อเยื่อ (Reject) ขั้นตอนนี้ก็ยังรอการศึกษา
ซึ่งเนื่องจากขัดต่อจริยธรรมเลยไม่มีการสนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัยในมนุษย์
ในทางทฤษฎีแม้จะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ก็จะไปพบปัญหาที่จะเกิดขึ้นอีกเมื่อมีการตั้งครรภ์
ในช่องท้องเกิดขึ้นแล้ว เมื่อทารกอายุครรภ์มากขึ้นรกก็จะขยายขนาดมากขึ้นเพราะต้องพยายาม
แผ่กิ่งก้านสาขาให้มีพื้นที่สัมผัสกับเส้นเลือดแม่มาก ซึ่งมดลูกคุณสุภาพสตรีจะมีคุณสมบัติพิเศษ
ที่จะรองรับการเกาะของรกในขนาดกระทัดรัดได้เพราะเป็นอวัยวะที่ยืดหยุ่นสูงมาก
สามารถขยายขนาดได้มากหลายร้อยเท่าจากขนาดเดิม (ก่อนตั้งครรภ์เทียบเมื่อตั้งครรภ์ครบกำหนด)
และมดลูกจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการฉีกขาดของเนื้อเยื่อรกและเส้นเลือดที่มาเลี้ยงรก
แต่ในช่องท้องที่รกเกาะอยู่ไม่มีตัวคอยป้องกันอันตรายต่อรก ถ้าเกิดการกระแทก
หรือแม้แต่การเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงของลำไส้ก็อาจจะมีอันตรายต่อรก อาจจะฉีกขาด
เกิดการตกเลือดในช่องท้อง ซึ่งอันตรายถึงชีวิตทั้งแม่และทารก
ดังนั้นเมื่อให้การวินิจฉัยว่าท้องนอกมดลูกจึงมีข้อบ่งชี้ว่าจะต้องให้สิ้นสุดการตั้งครรภ์
เพราะผลแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นสูงมาก การแท้งในระยะทารกอายุครรภ์น้อยๆ มีอุบัติการสูงมาก
และจะก่อให้เกิดการตกเลือดในช่องท้อง โอกาสที่จะดำเนินการตั้งครรภ์ต่อจนทารกครบครรภ์
กำหนดต่ำมาก และต้องมีการดูแลอย่างเข้มงวด ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งหมอพยาบาลและตัวคนไข้เอง
จึงนับว่าทีมแพทย์ผู้ดูแลคนไข้นี้มีความพร้อมสูงภาษาชาวบ้านว่า "มือถึง" และที่สำคัญคือ "ใจถึง"
น.พ.วีระ สุรเศรณีวงศ์
|