ความผิดปกติของการตั้งครรภ์อย่างหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าที่คุณแม่ต้องมีความกังวลใจมิใช่น้อย 
เอาล่ะ สาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกระหว่างการตั้งครรภ์นั้นมีอยู่มากมายหลายสาเหตุ แต่ที่สำคัญ 
สาเหตุหนึ่งก็คือเรื่องของ " รกเกาะต่ำ " 
 ในสมัยเก่าก่อนที่จะมีอัลตราซาวนด์ไว้ดูเด็กในครรภ์นั้น การวินิจฉัยว่ามีรกเกาะต่ำหรือไม่นั้น
ทำได้ค่อนข้างจะลำบาก แม้ว่าคุณแม่จะมีเลือดออกมาอย่างชัดเจนอย่างเก่งก็แค่บอกว่าน่าจะใช่รกเกาะต่ำ 
ไม่สามารถบอกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า เป็นการเกาะต่ำอย่างแน่นอน เพราะมองไม่เห็น ไม่เหมือนในสมัยนี้ 
เมื่อมีอัลตราซาวนด์ การวินิจฉัยรกเกาะต่ำดูเหมือนจะเป็นของง่ายดายเสียเหลือเกิน
ดังนั้นควรวางแผนให้ดีระหว่างการตั้งครรภ์เพื่อการป้องกันการตกเลือดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ถ้าหากไม่ได้ระมัดระวัง 
 " รกเกาะต่ำ " นั้นคืออะไร ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วนะครับว่า รกเกาะมันอยู่ในส่วนล่างของมดลูก
และจะมาเอี่ยวกับส่วนของปากมดลูกด้วยไม่มากก็น้อย เขาเรียกว่ารกเกาะต่ำ 
โดยปกติแล้วรกซึ่งมีลักษณะเหมือนใบบัว มีขนาดเท่าจานข้าวเห็นจะได้ 
มันมักจะเกาะบริเวณยอดมดลูกย้อยไปทางด้านหลังของมดลูกเป็นส่วนมาก ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น 
 อธิบายได้ดังนี้ครับว่า 
 ในช่วงของการตั้งครรภ์เมื่อมีการปฏิสนธิเกิดขึ้นบริเวณปลายท่อรังไข่ ซึ่งมีรูเปิดเข้าสู่โพรงมดลูก
อยู่บริเวณด้านข้างของยอดมดลูก ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะเดินทางจากปลายท่อรังไข่มาสู่โพรงมดลูก 
ใช้เวลาเดินทางนานประมาณ 5-7 วัน 
 ระหว่างการเดินทางนั้นไข่ก็จะมีการแบ่งตัวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมากถึงโพรงมดลูก
ก็พอดีกับวัยที่พร้อมจะฝังตัวกับโพรงมดลูกคือ วัย Blastocyst (บล๊าสโตซีส) ในเมื่อตัวอ่อนมันโผล่จากท่อรังไข่
เข้าสู่โพรงมดลูกตรงบริเวณยอดมดลูก ซึ่งก็คือตรงรูเปิดของท่อรังไข่นั่นเอง 
 พร้อมๆ กับความพร้อมที่จะมีการฝังตัวได้พอดี ตัวอ่อนจึงมักจะเกาะกับบริเวณยอดมดลูก
แล้วก็ฝังตัวกันบริเวณนั้น 
ส่วนที่เกาะกับผนังมดลูกก็จะกลายเป็นส่วนของรก และการเกาะของรกที่ปกติส่วนมาก
แล้วมันก็จะเกาะกับด้านบนของยอดมดลูก ไม่มาเกาะกันด้านล่างของมดลูกจนกลายเป็นปัญหา
รกเกาะต่ำในที่สุด 
 แล้วทำไมจึงเกิดเกาะต่ำขึ้นมาจนได้ นั่นก็เพราะว่า ตัวอ่อนมันผ่านบริเวณด้านบนของมดลูก
มาได้อย่างไร ทำไมมันไม่เกาะกันตั้งแต่ที่ตัวอ่อนโผล่เข้ามาในโพรงมดลูก 
บ้างก็อธิบายว่าคงเป็นเพราะบริเวณนั้นมันไม่สมบูรณ์เยื่อบุโพรงมดลูกมันไม่ดีพอ
ที่จะให้ตัวอ่อนเกาะฝังตัว ซึ่งเปรียบได้กับทุ่งนานั่นแหละครับ 
หากจะโปรยเมล็ดพืชลงไปในพื้นนา 
บริเวณที่ชุ่มฉ่ำสมบูรณ์ เมล็ดพืชก็จะงอกขึ้นมาได้ ขณะที่บริเวณแห้งแล้งคงจะไม่มีเมล็ดพืชที่ไหน
สามารถเจริญงอกงามขึ้นมาได้ 
 ทำนองเดียวกันแหละครับ ในเมื่อบริเวณยอดมดลูกที่ตัวอ่อนเดินทางผ่านมาแต่ไม่สามารถฝังตัวได้
ก็เลยเดินผ่านไป ผ่านไปไหน ก็ต้องผ่านลงไปด้านล่างตามแรงโน้มถ่วงของโลก 
ตัวอ่อนก็จะไหลจากยอดมดลูกลงมาข้างล่างมดลูก จนกระทั่งได้ที่เหมาะๆ ที่จะฝังตัว
และที่ตรงนั้นเกิดมาเป็นส่วนล่างของมดลูกหรือบริเวณใกล้ๆ กับคอมดลูก 
 ภาวะรกเกาะต่ำจึงเกิดขึ้นมาได้ด้วยประการฉะนี้ นั่นเป็นเพียงข้อสันนิษฐานตามความเป็นจริง
อาจจะมีสาเหตุอย่างอื่น แต่เอาล่ะในเมื่อมันเกิดเกาะต่ำขึ้นมาแล้วและสามารถตรวจรู้ล่วงหน้าได้แล้ว 
หมอหรือใครก็ตามคงจะไปทำอะไรไม่ได้
คงต้องรอไปเรื่อยๆ จนกว่าเด็กทารกจะโตพอที่จะออกมาอยู่ภายนอกท้องแม่ได้
หรืออาจะเกิดตกเลือดขึ้นมาเสียก่อนจนไม่สามารถให้การตั้งครรภ์อยู่ต่อไปได้ 
หากทารกพอจะสู้กับโลกภายนอกท้องแม่ได้ก็ดีไป แต่ถ้าสู้ไม่ไหวก็น่าเสียดาย แต่ทำไงได้ล่ะ 
ขืนปล่อยให้ตกเลือดไปเรื่อยๆ จะมิต้องแย่กันทั้งแม่และลูกหรือ ? 
 อย่างไรก็ดี การไม่มีเลือดออกเลยแม้แต่หยดเดียวเป็นดีที่สุด ดังนั้นคุณต้องระวังถ้าหากพบว่า
การตั้งครรภ์ของคุณมีรกเกาะต่ำคุณก็ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เลือดออกมาได้ 
 เมื่อเป็นที่ทราบว่าเลือดจะออกมาได้ก็ต่อเมื่อมีการแยกตัวของรกออกจากผนังของมดลูก
แยกมากเลือดออกมาก แยกน้อยเลือดออกน้อย ไม่แยกเลย เลือดก็ไม่ออกเลยเพราะเลือดที่ออกมานั้น
มักจะเกิดจากการฉีกขาดของหลอดเลือดของรก 
 แล้วคุณจะทำอย่างไรล่ะที่จะไม่ให้รกมันเกิดการแยกตัวจากผนังมดลูก การที่มันเกาะต่ำ
โอกาสที่มันจะแยกตัวมีมากเหลือเกินมีอะไรไปถูกไปต้องมันนิดหน่อยก็อาจทำให้เลือดอกมาได้ เช่น 
การมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น ฉะนั้นเมื่อทราบว่ารกเกาะต่ำคุณก็ต้องงดเว้นเพศสัมพันธ์อย่างเด็ดขาด 
การกระทบกระเทือนก็อาจจะมีส่วนได้ 
 ดังนั้น การที่คุณจะทำให้ตัวคุณเองพบกับการกระเทือนย่อมจะไม่ใช่สิ่งที่ดีนั่นหมายความว่า 
คุณไม่ควรเดินมาก ไม่ควรวิ่ง ไม่ควรไปเที่ยว ไม่ควรไปช้อปปิ้ง นอนเฉยๆ ให้มากเข้าไว้ว่างั้นเถอะ 
ไปทำงานได้มั้ย หากคุณอยากจะถาม ก็บอกว่าได้
ถ้างานนั่นเป็นงานนั่งโต๊ะไม่ใช่งานที่คุณต้องใช้กำลังกาย 
 สิ่งเหล่านี้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์แล้วพบว่ามีรกเกาะต่ำจำต้องใส่ใจอยู่เสมอเพื่อให้ครรภ์ดำเนินต่อไปได้
จนกระทั่งทารกน้อยในครรภ์แข็งแรงพอที่จะออกมาสู้โลกภายนอกได้โดยสวัสดิภาพ 
 หากได้ดีแล้วคุณๆ ควรพยายามเลี้ยงครรภ์ให้ดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งครบ 36 สัปดาห์ 
ต่อจากนั้นถือว่าเป็นกำไรของอายุครรภ์แล้วล่ะครับ
เพียงแต่อย่าไปกระทบกระเทือนกับรกในครรภ์เท่านั้นแหละทำได้หรือเปล่าครับ 
น.พ.พนิตย์ จิวะนันทประวัติ 
  |