สมาชิกชมรมยี้ไขมัน ฟังแล้วอาจยิ้มย่องกับข่าว นี้กัน มีการศึกษาจากบอสตัน สหรัฐอเมริกาออกมาว่า หากก่อนตั้งครรภ์คุณแม่คนไหนกินอาหารที่มีไขมัน อิ่มตัว (เช่น ไขมันจากสัตว์) มาก มีความเสี่ยงสูงที่จะ อาเจียนออกมามากระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งจะทำให้เกิด การขาดน้ำ น้ำหนักลด (แม่อเมริกันเข้าโรงพยาบาล เพราะสาเหตุนี้กันปีละ 50,000 รายเชียวล่ะ) การศึกษาครั้งนี้ทำกับแม่ตั้งครรภ์ 87 คนที่รู้สึก คลื่นเหียน อาเจียนเพียงเล็กน้อยระหว่างตั้งครรภ์ และอีก 44 คนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะคลื่นเหียน อาเจียนมากเกินไป พบว่าแม่กลุ่มหลังนี้จะมีพฤติกรรม การกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงกว่า และหลังจากตัด เรื่องอายุออกไปแล้ว นักวิจัยพบว่าไขมันอิ่มตัว วันละ 15 กรัม ที่ผู้หญิงกินเข้าไปจะไปเพิ่มความเสี่ยง ของอาการดังกล่าวถึง 5 เท่าทีเดียว ข่าวดีก็คือ อาการเหล่านี้ไม่พบเมื่อมีการกินไขมัน ไม่อิ่มตัว (ซึ่งคือไขมันจากพืช) บอกแล้วไขมันยังไงก็ไม่ มัน (ส์) เอาใจใส่เรื่องอาหารการกินกันหน่อยค้า		หากสงสัยว่า น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นกว่า 10 กิโลกรัม นั้นมาจากไหน ขอเจาะลึกกันเลยค่ะ น้ำหนักตัวลูกน้อย 3,000 กรัม น้ำหนักรก 500-700 กรัม น้ำหนักน้ำคร่ำ 1,000 กรัม กล้ามเนื้อมดลูก 1,000 กรัม เต้านม 300-500 กรัม ปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้น 1,000 กรัม ปริมาณน้ำในร่างกายแม่ 1,500 กรัม ไขมันที่สะสมในตัวแม่ 3,000 กรัม ส่วนที่เหลือมากกว่านี้เหระจ๊ะ มันก็คือไขมันสะสม ที่จะกลายเป็นแม่พะโล้หรือแม่แกงบวดหลังคลอด น่ะสิตัวเอง
คุณแม่เคยสงสัยมั้ยค่ะว่า ทำไมการเจาะน้ำคร่ำ มาตรวจจึงบอกสภาพของลูกน้อยในท้องได้ ทั้งนี้เพราะน้ำคร่ำจะมีเซลล์ที่หลุดออกมา จากทารก รวมทั้งสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เช่น เชื้อโรค หรือแม้กระทั่งสารเคมีต่างๆ ก็หลุดมาด้วย การเจาะน้ำคร่ำมาตรวจก็จะทำให้ได้ข้อมูลของ ลูกน้อยในครรภ์ได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะทางพันธุกรรม สุขภาพของทารกหรือ พัฒนาการ ฯลฯ ซึ่งเป็นการตรวจสภาพทารก ในครรภ์ที่ได้ผลแน่นอนที่สุดค่ะ		มีประสบการณ์ของแม่คนหนึ่งค่ะ พอรู้จากใครๆ ว่าตอนท้องจะทำให้ปัสสาวะบ่อย เธอก็เลี่ยงปัญหา นี้ด้วยการดื่มน้ำน้อยมากและเธอก็สมหวัง เพราะเธอ ไม่ค่อยฉี่ โดยหารู้ไม่ว่าเธออาจสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมา นั่นคือร่างกายอาจขาดน้ำได้อย่าลืมว่าคุณต้องดื่ม เผื่อสองนะคะ รวมทั้งอาจจะทำให้เกิดภาวะติดเชื้อของ ทางเดินปัสสาวะส่วนล่างได้ เพราะฉะนั้น ไปห้องน้ำบ่อยๆ ดีกว่า