มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



ลูกคลอดก่อนกำหนดและเติบโตช้าในครรภ์


คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มักมีความกังวลห่วงกลัวว่า ลูกน้อยจะไม่สมบูรณ์แข็งแรง หรือคลอดก่อนกำหนด เรื่องไม่สมบูรณ์แข็งแรงก็พอจะอุ่นใจได้ ถ้ารู้จักเลือกรับประทานอาหารที่บำรุงครรภ์ แต่คลอดก่อนกำหนดนี่สิใครจะไปรู้

เด็กที่คลอดก่อนกำหนด หมายถึงเด็กที่คลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ส่วนทารกที่น้ำหนักแรกคลอดเท่ากับหรือน้อยกว่า 2,500 กรัม ถือว่าเป็นเด็กที่มีน้ำหนักตัวน้อย ซึ่งอาจเป็นเพราะคลอดก่อนกำหนดหรือเติบโตช้าในครรภ์ก็ได้

ที่น่าเป็นห่วงก็คือ เด็กคลอดก่อนกำหนด หรือเติบโตช้าในครรภ์จะมีความผิดปกติ และอัตราการตายมากกว่าเด็กที่มีน้ำหนักตัวปกติ

สาเหตุที่ทำให้เด็กคลอดก่อนกำหนด
  • การที่รกลอกตัวก่อนกำหนด
  • น้ำคร่ำอักเสบติดเชื้อ
  • เด็กผิดปกติแต่กำเนิด
  • เลือดแม่และลูกไม่เข้ากัน
  • เกิดจากการกระทำของแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ เช่น ผ่าตัดเด็กออกทางหน้าท้องโดยที่ยังตั้งครรภ์ไม่ครบกำหนด ซึ่งอาจเกิดจากมารดาจำวันที่ประจำเดือนมาเป็นครั้งสุดท้ายผิดพลาด ฯลฯ
  • ปากมดลูกปิดไม่สนิท
  • รกเกาะผิดที่
  • มีน้ำคร่ำมากเกินไป
  • แม่เป็นโรคครรภ์พิษ
  • ถุงน้ำแตกก่อนกำหนด
  • มารดาเจ็บป่วยร้ายแรง
  • เด็กแฝด
  • การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  • หรืออาจเกิดคลอดก่อนกำหนดโดยไม่ทราบสาเหตุก็ได้
สาเหตุที่ทำให้เด็กเติบโตช้าในครรภ์ ได้แก่
  • ตัวเด็กผิดปกติ เช่น มีโครโมโซมผิดปกติ
    - มีการติดเชื้อในเด็กระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ติดเชื้อหัดเยอรมัน ซิฟิลิส
    - เด็กได้รับรังสีมากเกินไประหว่างอยู่ในครรภ์
    - ครรภ์แฝด

  • ความผิดปกติที่ตัวรก ได้แก่
    - รกมีน้ำหนักน้อยและมีขนาดเล็ก
    - มีการติดเชื้อที่รก
    - รกบางส่วนเสียไปเนื่องจากขาดเลือดมาหล่อเลี้ยง
    - มีเนื้องอกของรก
    - ครรภ์แฝด เด็กคนหนึ่งอาจถ่ายเลือดไปให้เด็กอีกคนหนึ่งทำให้เด็กคนหนึ่งตัวเล็ก อีกคนหนึ่งตัวใหญ่

  • ความผิดปกติของแม่ เช่น แม่ครรภ์เป็นพิษ
    - มีความดันโลหิตสูงหรือมีโรคไต
    - แม่ขาดออกซิเจนจากทารกอยู่ใน Altiude ที่สูง
    - แม่ขาดออกซิเจนจากการเป็นโรคหัวใจหรือโรคปอด
    - แม่ขาดอาหารหรือมีโรคเรื้อรัง
    - แม่เป็นโรคโลหิตจาง
    - แม่ได้รับสารบางชนิด เช่น ยานอนหลับ แอลกอฮอล์ บุหรี่ และยาบางอย่าง
นอกจากนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐฐานะของครอบครัว ในครอบครัวที่ยากจนแม่มักจะขาดอาหาร ซีด เจ็บป่วย ไม่ได้รับการดูแลขณะตั้งครรภ์และแม่มีประวัติแท้ง เด็กตายก่อนคลอด
และอาจเกี่ยวกับปัจจัยอื่น เช่น การตั้งครรภ์ตั้งแต่เป็นวัยรุ่น การตั้งครรภ์ที่ถี่เกินไป และแม่ที่มีลูกเกิน 4 คน เด็กที่คลอดก่อนกำหนดหรือมีน้ำหนักตัวน้อยจะมีปัญหาต่างๆ ได้มากกว่าเด็กที่น้ำหนักตัวปกติ

สาเหตุของการเสียชีวิตของเด็กคลอดก่อนกำหนดคือ การขาดออกซิเจน อันตรายจากการคลอดโดยเฉพาะต่อสมอง ความผิดปกติแต่กำเนิด การที่ปอดยังไม่สามารถทำงานได้ดี การติดเชื้อและการมีเลือดออกในสมอง

ปัญหาที่พบมากในเด็กคลอดก่อนกำหนด ได้แก่
  • การที่ปอดทำงานยังไม่สมบูรณ์
  • การที่เด็กหยุดหายใจเป็นพักๆ
  • การที่น้ำตาลในเลือดเด็กต่ำ
  • การที่แคลเซียมในเด็กต่ำ
  • ตัวเหลือง
  • ซีด
  • บวม
  • ตัวเย็น
  • ติดเชื้อ
นอกจากนี้เด็กคลอดก่อนกำหนดจะกินไม่ได้ดี น้ำหนักขึ้นช้า หยุดหายใจ ซีด มีเลือดออก ฯลฯ

ส่วนเด็กที่คลอดครบกำหนดแต่มีน้ำหนักตัวน้อย

จะไม่ค่อยมีปัญหาด้านปอดเพราะปอดจะสมบูรณ์และทำงานได้ดีแล้ว แต่จะมีปัญหาเรื่อง
การขาดออกซิเจน
น้ำตาลในเลือดต่ำ
ตัวเย็น
สำลักน้ำคร่ำ
เลือดออกในปอด
ลำไส้อักเสบ
ติดเชื้อ
และปัญหาที่เกิดจากการที่เด็กผิดปกติแต่กำเนิด
การที่เด็กคลอดก่อนกำหนดมีอัตราตายสูงกว่าเด็กปกติ เนื่องจากอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเด็กยังทำงานเองไม่ได้เต็มที่ ทำให้ไม่สามารถมีชีวิตนอกครรภ์มารดาได้ ระบบการทำงานที่ผิดปกติเหล่านี้ได้แก่ ระบบการควบคุมอุณหภูมิ การทำงานของปอด ระบบขับของเสียออกจากร่างกาย ระบบป้องกันโรค ระบบการทำลายสารพิษ ฯลฯ

การดูแล

เมื่อคลอดออกมาใหม่ๆ สิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องทำให้เด็ก คือ ทำให้ทางเดินหายใจโล่ง เช่น ช่วยดูดเสมหะและน้ำ ฯลฯ จากทางเดินหายใจเด็กและกระตุ้นให้เด็กหายใจ การผูกสายสะดือ และใส่ยาหยอดตาฆ่าเชื้อจะทำเหมือนเด็กคลอดครบกำหนด

สิ่งที่ต้องการเป็นพิเศษ คือ
1. ตู้อบเด็กคลอดก่อนกำหนดและต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
2. ต้องการออกซิเจนเพิ่ม
3. ต้องการการป้อนอาหารที่ถูกต้อง อาจต้องป้อนอาหารทางสายยาง
4. ต้องระวังการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด
และที่สำคัญ ระหว่างที่เด็กอยู่ ร.พ.คุณพ่อคุณแม่ต้องมีส่วนในการดูแลลูกด้วย และการเรียนรู้วิธีการเลี้ยงดูลูกกลับบ้าน
เด็กที่คลอดก่อนกำหนดและต้องอยู่ ร.พ.นานอาจมีปัญหาความผูกพัน ระหว่างแม่กับลูกได้ เด็กกลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่อการถูกทอดทิ้ง ถูกทำร้ายร่างกาย และมีอาการของการขาดความรัก เช่น เบื่ออาหาร ฯลฯ มากกว่า

ตู้อบ จะช่วยปรับอุณหภูมิและความชื้นให้เด็กขณะเดียวกันจะช่วยให้ออกซิเจนแก่เด็ก นอกจากนี้ในตู้อบยังมีสิ่งแวดล้อมที่สะอาดเพราะต้องเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้ออยู่เสมอๆ
เด็กจะมีโอกาสรอดได้มากกว่าถ้าเด็กอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม คือประมาณ 30.5-37.5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่แพทย์จะตั้งให้เด็กขึ้นอยู่กับขนาดและความสมบูรณ์ของเด็ก การให้ออกซิเจนก็ต้องปรับให้พอเหมาะ เพราะถ้าให้มากไปก็จะมีอันตรายต่อตาเด็ก ทำให้ตาเสียได้ แต่ถ้าให้น้อยไปเด็กจะขาดออกซิเจน เด็กที่หายใจไม่ดี อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์ที่ดูแลเด็กจะต้องเจาะเลือดเด็กบ่อยๆ เพื่อดูว่าออกซิเจนในเลือดของเด็กเพียงพอหรือไม่

การให้อาหารเด็กคลอดก่อนกำหนดจะต้องระวังเรื่องการที่เด็กสำลักมากเป็นพิเศษ ถ้าเด็กยังหายใจไม่ดีจะต้องให้น้ำเกลือก่อน
เด็กคลอดก่อนกำหนดที่โตหน่อยจะดูดนมจากขวดและนมแม่ได้ แต่เนื่องจากเด็กดูดไม่แรงพอ จึงทำให้การเลี้ยงดูด้วยนมแม่ไม่ค่อยสำเร็จ คุณแม่จึงอาจต้องปั๊มนมแม่ใส่ขวดให้ลูกกินแทน

การใช้ขวดนมต้องใช้จุกนมชนิดพิเศษคือ ใช้หัวนมขนาดเล็ก นิ่มและมีรูใหญ่หน่อย
การที่เด็กจะกลืนได้ดีและไม่สำลักมักจะต้องมีอายุครรภ์เกิน 34 สัปดาห์
เด็กที่ตัวเล็กมากอาจต้องป้อนทางสายยางโดยใส่เข้าทางจมูกจนถึงกระเพาะ สายยางเหล่านี้แพทย์จะเปลี่ยนให้ทุก 3-7 วัน

ในเด็กน้ำหนักตัวที่ไม่มีความผิดปกติแต่กำเนิดหรือความผิดปกติอื่นๆ (เช่น มีความพิการทางสมอง) จะเติบโตทันเด็กปกติในระหว่างปีที่ 2 แต่เด็กที่น้ำหนักน้อยมากอาจโตไม่ทันเด็กปกติ โดยเฉพาะถ้าเด็กต้องเจ็บป่วยเรื้อรัง ขาดอาหารหรือได้รับการดูแลที่ไม่ดีพอ

เด็กที่คลอดก่อนกำหนดมากจะน้ำหนักน้อยมาก พวกนี้จะมีโอกาสเกิดความผิดปกติทางสมองได้มากขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่หัวเล็ก เด็กที่น้ำหนักตัวน้อยมาก (น้ำหนักแรกเกิดน้อยว่า 1,500 กรัม) จะมีโอกาสสมองพิการ 10-20%

ความผิดปกติทางพฤติกรรมและบุคลิกภาพจะพบบ่อยในเด็กที่คลอดก่อนกำหนด มากกว่าเด็กที่คลอดครบกำหนด เนื่องจากการที่ต้องแยกเด็กอยู่ ร.พ.ในช่วงแรกคลอด จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกไม่ดี และการที่พ่อแม่วิตกกังวล หรือปกป้องลูกมากเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาทางอารมณ์ในเด็กได้

อย่างไรก็ตามแพทย์ต้องพยายามอย่าให้เด็กอยู่ ร.พ.นานเกินไปและต้องกระตุ้นให้พ่อแม่ มาเยี่ยมลูกบ่อยๆ รวมทั้งให้มีส่วนในการดูแลลูกขณะอยู่ ร.พ.ก็อาจช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้บ้าง

แพทย์จะให้เด็กออกจาก ร.พ.ต่อเมื่อเด็กดูดนมได้เอง น้ำหนักดีขึ้นคือประมาณ 10-30 กรัมต่อวัน อุณหภูมิคงที่แม้จะไม่ได้อยู่ในตู้อบ เด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด ที่เคยได้รับออกซิเจนจะต้องได้รับการตรวจตราเป็นระยะๆ อาจต้องตรวจเลือด เพื่อดูว่าซีดหรือไม่ ถ้าปัญหาทางการแพทย์หายแล้วและทางบ้านเตรียมพร้อมแล้ว แพทย์จะให้เด็กกลับบ้านเมื่อมีน้ำหนักประมาณ 2,000-2,200 กรัม

คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ขณะนี้ อย่าเพิ่งวิตกกังวลจนเกินเหตุนะคะ แต่หากมีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น ต้องรีบปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์โดยด่วน จะได้ป้องกันแก้ไขเสียแต่เนิ่นๆ นะคะ

พ.ญ.ลำดวน นำศิริกุล

(update 12 มกราคม 2001)


[ ที่มา... นิตยสารแม่และเด็ก   ปีที่ 23 ฉบับที่ 341 กรกฎาคม 2543]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600