วัยรุ่น เป็นวัยอยากลอง และหลงใหลอะไรง่าย ยิ่งเป็น "ความรัก" ด้วยแล้ว
วัยรุ่นแทบจะเอาชีวิตเข้าแลกได้เลย การเสียตัวในวัยรุ่นสมัยนี้เกิดขึ้นค่อนข้างง่าย หลายคนคิดว่า
ไม่เห็นมีอะไรเสียหายความคิดเช่นนี้นำพาไปสู่ความตายมาแล้ว
ปลายปี พ.ศ.2542 ข้าพเจ้ามีโอกาสทำคลอดบุตรให้กับสตรีวัยรุ่นอายุ 13 ปีคนหนึ่ง
เธอมีเพศสัมพันธ์มาหลายครั้ง ตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาวเมื่อราวต้นปี และมาแจ้งความดำเนินคดี "ถูกข่มขืน"
ตอนปลายเดือนสิงหาคม ขณะที่มานั้น เธอตั้งครรภ์ได้ 25 สัปดาห์แล้ว จากการตรวจร่างกาย
ช่องคลอดและเยื่อพรหมจารีไม่พบร่องรอยฉีกขาดใดๆ จากการตรวจดูด้วยอัลตราซาวนด์ พบว่า
ทารกปกติและมีขนาดเท่าอายุครรภ์
วัยรุ่นรายนี้ ได้รับการอธิบายเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และอันตรายที่เกิดจากการทำแท้งเป็นอย่างดี
ข้าพเจ้าบอกกับเธอว่า
" การทำแท้งหลังอายุครรภ์ 6 เดือน ถือว่าอันตรายเกินไปสำหรับสตรีผู้ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เสี่ยงมากต่อการตกเลือดและตัดมดลูก " ซึ่งทำให้พ่อแม่และวัยรุ่นรายนี้เลือกที่จะดำเนินการตั้งครรภ์ต่อไป
จากสถิติการตั้งครรภ์ของสตรีวัยรุ่นในต่างประเทศ พบว่า แต่ละปีมีวัยรุ่นตั้งครรภ์ร้อยละ 10
และคลอดบุตรร้อยละ 6 ของสตรีวัยรุ่นทั้งหมด สำหรับประเทศไทยยังไม่มีสถิติที่แน่นอน
แต่จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ในปี 2535 มีทารกกำเนิดถึง 1 แสน 2 หมื่นคน
(12.5% ของทั้งหมด) ที่เกิดจากมารดาอายุ 15-19 ปี นับว่าไม่น้อยเลย
เชื่อว่าอีกไม่นาน การตั้งครรภ์และการทำแท้งในสตรีวัยรุ่นจะมีมากขึ้น
เนื่องจากการหลั่งไหลของวัฒนธรรมตะวันตกอย่างบ้าคลั่ง และการยอมรับโดยไม่ไตร่ตรอง
ใคร่ครวญให้รอบคอบเสียก่อน
จากสถิติพบว่า วัยรุ่นมีอัตราการตั้งครรภ์มากถึง 1 ใน 5 ภายหลังมีเพศสัมพันธ์ได้เพียงเดือนเดียว
และครึ่งหนึ่งใน 6 เดือนแรกของการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งการตั้งครรภ์ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นการตั้งครรภ์
ที่ไม่ได้ตั้งใจทั้งสิ้น
นอกจากนั้นการวินิจฉัยว่ามีการตั้งครรภ์ยังทำได้ช้าอีกด้วย เนื่องจากวัยรุ่นไม่กล้าที่จะบอกกับผู้ปกครอง
หรือไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตั้งครรภ์โดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนแรก
เราจะแก้ไขอย่างไรดี ในเมื่อวัยรุ่นมักขาดความรับผิดชอบและไม่ยอมคุมกำเนิด
วัยรุ่นส่วนใหญ่ขาดความรู้เรื่องเพศศึกษาและการคุมกำเนิด โดยเฉพาะวัยรุ่นชายมักไม่นิยม
ใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์
จริงๆ แล้ว การคุมกำเนิดที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับวัยรุ่นคือ การใช้ "ถุงยางอนามัย" นั่นเอง
เพราะหาง่ายและปลอดภัยโดยเฉพาะป้องกันโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
ส่วนการกินยาเม็ดคุมกำเนิด จะส่งผลทำให้สตรีวัยรุ่นหยุดความสูงได้ ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเอสโตรเจน
ดังนั้นวัยรุ่นจึงควรจะหลีกเลี่ยงใช้ยาคุมชนิดนี้ ยกเว้นคนที่มีความสูงเพียงพอแล้ว
การกินยาคุมชั่วคราวหลังร่วมเพศ ให้ผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะทำให้ท่อนำไข่เคลื่อนไหวช้า
อันเป็นผลให้เกิดท้องนอกมดลูกตามมาได้ง่าย ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาคุมชนิดนี้ที่เหมาะสม
มีเพียงอย่างเดียว คือ ถูกข่มขืนภายใน 3 วัน
การใส่ห่วงอนามัย มองในแง่สุขภาพ ถือว่า ไม่ปลอดภัยสำหรับสตรีวัยรุ่นเช่นกัน
เนื่องจากวัยรุ่นมักติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์บ่อยๆ เชื้อโรคเหล่านี้แทนที่จะจำกัดอยู่เฉพาะที่
กลับลุกลามเข้าไปในอุ้งเชิงกรานได้ง่ายทางสายห่วง ข้อบ่งชี้ที่ควรใช้ คือ ถูกข่มขืนเกิน 3 วัน
แต่ไม่เกิน 7 วัน
การใช้ผ้ากรอสหรือแทมปอนผสมกับยาฆ่าเชื้ออสุจิ สอดใส่เข้าไปในช่อคลอดและทิ้งไว้นานๆ
หลายชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจทำให้สตรีวัยรุ่นผู้นั้นตายได้จากพิษของเชื้อโรค Stapphyllococcus
(Toxic Shock Syndrome)
การฉีดยาคุม ในสตรีวัยรุ่นมักทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ และเมื่อใช้ไปนานๆ
เกินกว่า 3 ปี มีโอกาสเกิดเยื่อบุโพรงมดลูกบางและภาวะมีลูกยากได้
การฝังยาคุม ก็ไม่เหมาะกับวัยรุ่นเช่นเดียวกัน เพราะออกฤทธิ์นานถึง 5 ปี
และอาจมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดบ่อย
สรุปรวมความ คือสำหรับการคุมกำเนิดในวัยรุ่นให้ใช้ถุงยางอนามัยดีที่สุด
การตั้งครรภ์ในสตรีวัยรุ่นทำไมจึงปัญหามากทั้งนี้เนื่องจากร่างกายของวัยรุ่นยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่
ส่วนจิตใจก็ยังไม่พร้อมเหมือนกับผู้ใหญ่ ทำให้เกิดปัญหาระหว่างตั้งครรภ์และคลอด
ระหว่างที่ตั้งครรภ์มักเกิดปัญหาภาวะความดันโลหิตสูงหรือครรภ์เป็นพิษ (Toxemia)
ซึ่งรุนแรงกว่าที่เกิดในสตรีวัยอื่นๆ
สำหรับการคลอดโดยวิธีธรรมชาติจะเกิดปัญหาภาวะคลอดยาก (Dystocia) เพราะหัวเด็กส่วนใหญ่
โตกว่าช่องเชิงกรานที่ยังไม่ขยายตัวดีพอและวัยรุ่นมักไม่ให้ความร่วมมือขณะคลอดอันเป็นผลมาจากความกลัว
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าผ่าตัดคลอดให้
วัยรุ่นรายนี้ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่ครั้งแรกที่มาตรวจ การตั้งครรภ์ดำเนินไปเรื่อยๆ
โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน จวบจนอายุครรภ์ครบกำหนดข้าพเจ้าจึงนัดมาผ่าตัดคลอด
การผ่าตัดคลอดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทารกที่ได้เป็นเพศหญิง แข็งแรงดี น่ารักมาก
น้ำหนักตัว 2,600 กรัม ทั้งแม่และลูกปลอดภัย ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสองกลับบ้านหลังจากนอนพัก
ในโรงพยาบาลเป็นเวลา 7 วัน
การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเกิดขึ้นได้เสมอ การทำแท้งเป็นเรื่องหนึ่งที่ผู้เกี่ยวข้องควรเข้าใจ
ถ้าอายุครรภ์ 12 สัปดาห์หรือน้อยกว่า การทำแท้งมักไม่เกิดปัญหา
ถ้าอายุครรภ์ระหว่าง 13-20 สัปดาห์ การทำแท้งต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการฝ่ายแพทย์
เสียก่อนเพราะเกิดภาวะแทรกซ้อนค่อนข้างมากคนไข้ไม่ควรไปทำแท้งเถื่อน มิฉะนั้นอาจต้องจบชีวิตลง
เพราะมีการติดเชื้อทั่วร่างกาย (Sepsis)
ถ้าอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ คงเป็นเรื่องยากที่สูติแพทย์จะทำแท้งให้
เพราะอันตรายต่อชีวิตของสตรีผู้ตั้งครรภ์มากเหลือเกิน ส่วนใหญ่พ่อแม่ผู้ปกครอง
และคนไข้จะได้รับคำแนะนำให้ตั้งครรภ์ต่อไปดังเช่นคนไข้รายนี้
ข้าพเจ้าหวังว่า ชีวิตของวัยรุ่นรายนี้จะเปลี่ยนไปกลายเป็นคนใหม่ที่มีความรับผิดชอบ
และไม่ปล่อยตัวปล่อยใจผิดซ้ำอีก สำหรับผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของเธอนั้น ได้หนีหายจากไปตั้งแต่รู้ว่า
เธอตั้งครรภ์ ถึงแม้จะตามตัวกลับมาได้ก็คงไม่มีประโยชน์เขาคงไม่ยอมอยู่เคียงข้างเป็นเพื่อนเธออีกต่อไป
เรื่องราวดังกล่าวข้างต้นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่มีสิ้นสุด และไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้
นอกจากตัวของวัยรุ่นเอง จิตใจของวัยรุ่นเหมือนกับน้ำในทะเลที่ไม่มีความแน่นอน
บางครั้งอ่อนไหวนุ่มนวล
ชวนให้เข้าใกล้ๆ บางครั้งบ้าคลั่งหลงใหลจนน่ากลัว ความอยากรู้อยากลองของแปลกใหม่
และการตามใจตัวเองโดยไม่ยั้งคิดซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะของวัยรุ่น
มักไม่เคยได้รับคำปรึกษาใดๆ จากผู้ใหญ่
ดังนั้น แนวทางที่พอจะแก้ไขไม่ให้เดินลงไปในทางผิด ก็คือมีเพื่อนที่ดี และหลีกให้ไกลห่างจากคนเลว
ถ้าเป็นไปได้ พ่อแม่ควรเร่งพัฒนาทางด้านอารมณ์จิตใจของวัยรุ่น โดยฝึกหัดให้เป็นคนรับผิดชอบ
และรักการศึกษา วัยรุ่นทุกคนควรพัฒนาความสามารถเฉพาะตัวให้โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ
จนกลายเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าคิด กล้าทำ และกล้าปฏิเสธ
ที่สำคัญ
ควรฝึกตนเป็นนักกีฬาเพื่อเรียนรู้การแพ้ชนะและให้อภัย
สำคัญที่สุด น่าจะเป็นความรักและความอบอุ่นจากครอบครัวที่พ่อแม่มอบให้
ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันภัยจากอบายมุขทั้งปวง
วัยรุ่นเป็นวัยที่วุ่นวายและสวยงามพร้อมๆ กัน วัยนี้มีพลังมากมาย และจิตนาการหลากหลาย
หากนำไปใช้ทางที่ดีย่อมเกิดแต่สิ่งสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ตรงกันข้าม หากนำไปใช้ในทางผิด
ย่อมเกิดความหายนะอย่างไม่รู้จบ
ความรักและความหลง เป็นสิ่งที่วัยรุ่นแยกแยะไม่ออก บอกอธิบายไม่ถูก คล้ายกับว่ามันเป็นสิ่งเดียวกัน
ซึ่งหากผิดพลาดอาจหมายถึงต้องกลายเป็นทาสและสังเวยชีวิตเพื่อเทิดบูชาแต่ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมาจริงๆ
ก็อย่าท้อใจ หนทางแก้ไขพอมี คือรีบกลับบ้านเพราะบ้าน คือ ความรักทั้งหมดในชีวิตของเรา
ไม่มีใครรักเราเท่าพ่อแม่
เมื่อเวลาล่วงผ่านเลยไปนานๆ อายุเจริญวัยสูงขึ้น ลองมองย้อนกลับมาดู จะรู้สึกเลยว่า
เราควรจะขอบพระคุณผู้ที่ให้บทเรียน "ความรัก" และ "ความเจ็บปวด" กับเรา เพราะนั่นทำให้เราเข้าใจ
ถึงความหมายของคำว่า "ความสุขจากครอบครัว" อย่างแท้จริง
พ.ต.ท.น.พ.เสรี ธีรพงษ์
|