โลกเราทุกวันนี้ มีข่าวของการหลอกลวง ชักจูงไปในทางไม่ดีอยู่เรื่อย
บางแห่งมีการหลอกให้ไปหลงเลื่อมใสลัทธิแปลกๆ และถูกผู้นำหลอกไปสังหารหมู่ก็มี
บ้านเราเองก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำมิได้ขาด ตั้งแต่หลอกให้ลุ่มหลงในลัทธิศาสนา
และไสยศาสตร์ จนถึงการต้มตุ๋นหลอกเอาเงินทองไปครั้งละมากๆ แทบไม่น่าเชื่อว่ายุคนี้ยังมีแชร์ลูกโซ่เกิดขึ้น
และยังมีคนหลงเอาเงินไปให้เขาอีก พวกมิจฉาชีพที่ตกทองเอาของปลอมไปแลกของจริงก็ยังหากินอยู่ได้
สิ่งที่มีอิทธิพลในการโน้มน้าวชักจูง ให้คนเชื่อในทิศทางที่อาจไม่ตรงความเป็นจริงนัก
ได้แก่การโฆษณา ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก
การโฆษณาสินค้า มีอิทธิพลต่อความเชื่อของคน ให้เกิดการซึมซาบเข้าไปในจิตไร้สำนึก
ว่าสินค้าที่โฆษณานั้นมีคุณสมบัติดีจริง ใช้แล้วจะโก้เก๋ หรือมีคุณลักษณะเหมือนนายแบบนางแบบ
ที่เขาจ้างมาเป็นผู้นำเสนอนั้น
ความจริงแล้ว บุคคลที่รับจ้างโฆษณานั้น บางทีมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือใช้สินค้าชนิดนั้นแต่อย่างใด
บางคนไปโฆษณาสุราทั้งที่ไม่เคยดื่มสุราเลยก็มี นางแบบที่โฆษณายาสระผม บางทีก็ไม่เคยใช้ยาสระผม
ชนิดนั้นเลย และเส้นผมของเขาก็ไม่ได้สวยงามดำเป็นมันอย่างที่เห็นในหนังโฆษณา
นายแบบที่เคยโฆษณาบุหรี่ให้ดูว่าสูบแล้วโก้เก๋เป็นพระเอก ก็เป็นมะเร็งตายเสียแล้ว
หลังจากทำให้คนหลงเอาอย่างมาเสียหลายปี
นางงามที่กองประกวดพยายามสร้างภาพให้เข้าใจว่าสวยที่สุดในประเทศ สวยที่สุดในโลก
หรือสวยที่สุดในจักรวาลนั้น ความจริงแล้วมิได้สวยไปกว่าผู้หญิงอื่นอีกเป็นจำนวนมาก
ที่ไม่ได้เข้าประกวด แต่การสร้างภาพก็ได้ผลในการล่อจระเข้หนุ่มจระเข้เฒ่าทั้งหลายให้หลงใหล
น้ำลายสอ จนต้องทุ่มเทกันอย่างสุดเหวี่ยง
นักการเมืองที่หาโอกาสแต่จะไปถ่ายรูปปะหน้าผลงานคนอื่นและตู่มาเป็นผลงานตน
ก็สร้างภาพให้คนส่วนหนึ่งเชื่อว่าเขามีผลงานจริง
นักฉวยโอกาสบางคนพยายามเสนอตัวให้ปรากฏในสื่อมวลชนทุกแขนง สร้างภาพให้คนส่วนหนึ่ง
หลงเชื่อว่าเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถจริง บางคนไม่ได้เป็นแพทย์ก็ทำให้คนหลงเชื่อว่าเป็นแพทย์
หลอกเอาเงินประชาชนไปมิใช่น้อย คนไข้โรคจิตบางรายถึงกับหยุดกินยาที่แพทย์สั่งไว้
จนเกิดอาการคลุ้มคลั่งเพราะมีประสาทหลอนและกระโดดตึกตายไปก็มี
ผลของการโฆษณาและการสร้างภาพ ทำให้พฤติกรรมในการบริโภคของคนในสังคม
เป็นไปในทิศทางที่เขาพยายามโน้มน้าวให้เป็น
สินค้าหลายชนิดขายดิบขายดีเพราะอิทธิพลของการโฆษณา นาฬิกาข้อมือถูกเปลี่ยนไปเป็น
เครื่องประดับแทนที่จะเป็นเครื่องบอกเวลา จึงต้องซื้อหากันในราคาแพงเกินจำเป็น
รถยนต์ถูกใช้เป็นเครื่องบ่งบอกฐานะหรือชนชั้น แทนที่จะใช้เป็นยานพาหนะ
จึงทำให้ยอดขายรถยนต์ราคาแพงไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมากนัก
รถชนิดขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นที่นิยมกันมากในประเทศเรา เพราะเชื่อกันว่า
เป็นของดีที่ใครๆ ก็ใช้กัน และเป็นสมัยนิยม พอซื้อมาแล้วก็ขับกันอยู่แต่ในเมือง
ไม่เคยได้ใช้ประโยชน์จากการขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ต้องจ่ายเงินไปเลยกลายเป็นความสูญเปล่าทางเศรษฐกิจ
สาเหตุที่ทำให้คนเราถูกชักนำให้เชื่อและมีพฤติกรรมตามความเชื่อนั้น
เกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่างทั้งภายในและภายนอกบุคคลนั้น ตัวอย่างเช่น
1. บุคลิกภาพ ผู้ที่มีบุคลิกภาพอ่อนแอ ขาดความมั่นคง ไม่เป็นตัวของตัวเอง
มีความต้องการพึ่งพิงผู้อื่นสูง มีโอกาสถูกชักจูงได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
2. การขาดเอกลักษณ์แห่งตน (identity) ผู้ที่ขาดเอกลักษณ์ไม่มีจุดยืน ไม่มีเป้าหมายในชีวิต
ขาดหลักการ ไม่สามารถใช้เหตุผล มีแนวโน้มจะถูกชักจูงให้ทำตามหรือลอกเลียนแบบผู้อื่น
ได้ง่ายกว่าคนที่มีเอกลักษณ์
3. วัย วัยเด็กเป็นวัยที่มีโอกาสถูกชักจูงโน้มน้าวให้เชื่อและทำตามบุคคลที่ใกล้ชิด
หรือมีความสำคัญในชีวิตได้ง่ายกว่าวัยผู้ใหญ่ ส่วนวัยรุ่นมักได้รับอิทธิพลจากเพื่อนมากที่สุด
เพราะมีความต้องการการยอมรับจากกลุ่มเพื่อนมากกว่าวัยอื่น
4. การขาดความรู้และขาดประสบการณ์ ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา หรือผู้มีโอกาส
แต่ขาดความสนใจในการแสวงหาความรู้ ย่อมมีโอกาสถูกชักนำให้หลงผิดได้ง่ายกว่า
คนมีความรู้และประสบการณ์ บางทีถูกชักจูงให้หลงผิดเลือกผู้ร้ายเข้าสภาก็มี
5. กิเลส ความโลภบางครั้งทำให้คนถูกหลอกได้ง่ายขึ้น พวกมิจฉาชีพจึงสามารถใช้อุบาย
ตกทองหากินมาได้จนถึงปัจจุบัน แชร์ลูกโซ่ก็ไม่มีวันหมดไปจากประเทศนี้
6. ความเอนเอียงที่จะเชื่อในสิ่งนั้น คนที่อยากได้ผู้วิเศษมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ไว้
เป็นที่พึ่งกราบไหว้บูชา มีแนวโน้มจะถูกผู้อวดอ้างว่ามีคุณสมบัติดังกล่าวหลอกได้ง่าย บางที่ลึกๆ ก็รู้ว่า
เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก
7. สถานการณ์และสิ่งแวดล้อม ในภาวะที่บ้านเมืองมีเหตุการณ์ไม่สงบ
จิตใจของประชาชนระส่ำระสาย การเชื่อถือข่าวลือมักเกิดขึ้นได้ง่าย ปัจจัยนี้เคยถูกนำไปใช้
ในทางการเมืองมาแล้วหลายครั้ง อย่างเช่น กรณีตะโกนปล่อยข่าวใส่ร้ายคุณปรีดีพนมยงค์
ในโรงภาพยนต์ การให้ร้ายป้ายสีนักศึกษาว่าเป็นคอมมิวนิสต์หรือเป็นคนญวน
ในกรณี 6 ตุลาคม 2519 และการชักนำให้ทหารหลงเชื่อว่าผู้ชุมนุมเป็นผู้คิดร้ายต่อบ้านเมือง
จนเกิดการเข่นฆ่าในกรณีพฤษภาคม 2535
การป้องกันแก้ไข
ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงหรือชักนำไปในทางที่ผิด ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การเลี้ยงดูเด็ก
ให้มีพัฒนาการทางบุคลิกภาพที่ถูกต้องเหมาะสม
เด็กควรได้รับการส่งเสริมให้มีพัฒนาการทางความคิดที่เป็นอิสระ มีการใช้เหตุผล รู้จักไตร่ตรอง
มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่พึ่งพาผู้อื่นมากเกินไป มีเอกลักษณ์ของตนเอง มีจุดยืนที่มั่นคง
และมีเป้าหมายในชีวิตที่สมเหตุผล
สิ่งเหล่านี้ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ตั้งแต่เล็กจนใหญ่ อย่างสม่ำเสมอ มิใช่สามารถสร้างได้
ในระยะเวลาอันสั้น จะมาเข้ารับการอบรมหลักสูตรพัฒนาบุคลิกภาพตอนโต ก็ไม่ค่อยได้ผล
ไม่เหมือนสร้างมาตั้งแต่เล็กๆ
การรณรงค์ให้เด็กและวัยรุ่นไม่ถูกชักนำจากเพื่อนหรือบุคคลอื่นให้ตกเป็นทาสยาเสพติด
เขาจึงใช้คำขวัญว่า "Just say no" เป็นการสอนให้รู้จักปฏิเสธและเป็นตัวของตัวเองไม่ต้องไปตามอย่างใคร
หรือเกรงใจใครในเรื่องที่ไม่สมควร
ประชาชนทั่วไปควรพัฒนาตนเองให้มีความรอบรู้ ด้วยการอ่านหนังสือที่มีประโยชน์
ติดตามข่าวสารบ้านเมืองที่มีสาระ อย่าสนใจแต่เพียงความบันเทิง การมีข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง
ร่วมกับการใช้สติปัญญาไตร่ตรองในเรื่องต่างๆ ช่วยให้ไม่ถูกชักนำไปในทางงมงาย
หรือตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ดีต่อเรา
หากพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ด้วยเหตุผล ก็จะเกิดความระมัดระวังและรอบคอบในการเชื่อสิ่งต่างๆ
ไม่หลงเชื่อคำโฆษณาหรือการหลอกลวงผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งการติดต่อทางตรง
ถ้าใช้วิจารณญาณให้ดี อาจคิดได้ว่า สินค้าที่โฆษณามากๆ นั้น ผู้บริโภคต้องแบกรับภาระ
ค่าโฆษณาไว้ในต้นทุนด้วย หน่วยงานราชการที่โฆษณาตัวเองมากๆ ราวกับเป็นบริษัทเอกชนนั้น
กำลังใช้งบประมาณจากภาษีอากรไปในทางที่ไม่เหมาะสม แทนที่จะใช้เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง
นักการเมืองที่สร้างภาพเก่งๆ อาจไม่ได้ใช้เวลาทำงานในหน้าที่อย่างจริงจัง หรือทำอะไรไม่เป็นเลยก็ได้
อันที่จริงพระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนไว้เป็นอย่างดีแล้วว่าอะไรไม่ควรเชื่อ และอะไรควรเชื่อ
แต่คนส่วนใหญ่ยังนับถือศาสนาแบบงมงาย คือ แทนที่จะนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาพิจารณาไตร่ตองพิสูจน์
แล้วปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ กลับไปนับถือกราบไหว้วัตถุแบบไสยศาสตร์ หวังเพียงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่พึ่ง
บ้านเมืองจึงด้อยพัฒนา และประชาชนมัวเมาอยู่ในอบายมุขทุกชนิด
การปฏิบัติตามธรรมของศาสนาที่ใช้ปัญญาและสติเป็นที่ตั้งย่อมเป็นหนทางไปสู่การดับทุกข์
ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับการสร้างเสริมสุขภาพจิต
บทความนี้ผู้อ่านไม่ควรเชื่อจนกว่าจะได้นำไปพิสูจน์ และไตร่ตรองพิจารณา
ด้วยเหตุผลให้ถ่องแท้เสียก่อน
นพ.เกษม ตันติผลาชีวะ
|