มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



ความรักของพ่อแก่แม่เฒ่า


ความห่วงใยเป็นรูปแบบหนึ่งของความรัก น่าเสียดายว่าหนุ่มสาวบางคนยังไม่สามารถเข้าใจ
วิถีทางของความรักแบบนี้ได้ ตีความไปว่า พ่อแม่ปู่ย่า ตายาย ยุ่งไม่เข้าเรื่อง


กราบอาจารย์ที่เคารพรัก

หนูได้รับจดหมายอาจารย์หลายวันแล้ว กราบขออภัยด้วยที่ตอบช้า เพราะเป็นระยะที่มีกิจกรรมวันสงกรานต์ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรม คือ รดน้ำดำหัวท่านนายอำเภอและหัวหน้าส่วนราชการ

นึกไม่ถึงค่ะ ว่าอาจารย์จะเขียนจดหมายถึงหนู อาจารย์อยู่อีกระดับหนึ่ง สูงทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ และชาติวุฒิ ส่วนหนูเป็นคนบ้านนอกชนบท ได้เรียนหนังสือบ้างเท่านั้นเอง หนูอ่านจดหมายอาจารย์เป็น 10 รอบ หนูขอแสดงความเสียใจด้วยที่อาจารย์สูญเสียคุณลุง (ขออนุญาตเรียก) ความดีใจที่หนูได้รับจดหมาย แต่พออ่านหลายรอบ ใจที่ฟองฟูกลับค่อยๆ ยุบลงเพราะหนูรู้สึกว่าอาจารย์คงกำลังเหงา หนูสงสารอาจารย์ หนูเคยอยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อเสียเมื่อปี 2530 อายุได้ 80 ปี แม่เสียเมื่อปี 2536 อายุได้ 85 ปี หนูค่อนข้างจะเข้าใจคนอายุมากกว่าต้องการอยู่กับลูกหลาน ต้องการมีเพื่อนคุย

พ่อแม่หนูท่านคลายเหงาโดยการอ่านหนังสือ ดูทีวี ฟังวิทยุ บางครั้งท่านก็คุยกับหนังสือ กับวิทยุ กับทีวี หนูยังเคยคิดว่า พ่อปกติดีหรือเปล่า ก็แอบฟังค่ะ ปรากฏว่าท่านวิจารณ์ในสิ่งที่ท่านดูท่านฟัง หนูก็เลยหัวเราะพ่อว่าเข้าใจหาเพื่อนที่ไม่มีตัวตน

หนูกับพ่อจะสนิทกันมาก คุยกันได้ทุกเรื่อง ถ้าทำผิดพ่อก็จะทำโทษแบบสุด…สุด ชนิดไม่กล้าทำผิดอีก

แม่หนูไม่รู้หนังสือ แต่ดูทีวีรู้เรื่อง ทั้งพ่อแม่เป็นคนขยัน เมื่อท่านอายุมาก หนูให้ท่านหยุดทำงานทุกอย่าง แต่แม่ยังแย่งเด็กทำงานบ้าน เมื่อหนูรับราชการอยู่ในเมือง ระยะที่พ่อเสียแล้ว แม่น่าสงสาร กลางวันอยู่กับเด็กคงเหงามาก ท่านจะคอยหนูกลับบ้านตอนเย็น โดยดูจากแสงแดดที่ส่องเข้ามาหน้าประตูบ้าน เพราะท่านดูนาฬิกาไม่เป็น เด็กเล่าให้ฟังว่า พอแสงแดดมาถึงตรงประตู คุณยายจะมานั่งเฝ้าดู หนูถามแม่ว่า มาดูแสงแดดทำไม แม่บอกว่าถ้าแดดมาถึงตรงนี้หนูจะกลับมาถึงบ้าน แม่ก็หมดห่วง ความรักของแม่ยิ่งใหญ่ จนหนูต้องรีบกลับบ้านหลังเลิกงาน เพราะสงสารใจแม่ที่รอคอย

ถ้าอาจารย์ไม่รำคาญที่จะอ่านจดหมาย หนูจะเขียนมาคุยอีกค่ะ หนูยินดีที่จะเป็นเพื่อนทางไกล ถ้าจะช่วยให้อาจารย์คลายเหงาได้บ้าง

ด้วยความเคารพรัก
ฝอยทอง


"สุดแต่จิตพิศวาส ก็นับว่าเป็นญาติกันได้" จำข้อความนี้มาตั้งแต่เด็ก จำมาจากไหนลืมไปแล้ว แต่ยึดถือเรื่อยมา เปลี่ยนคำว่า ญาติ เป็น มิตร สนิทใจ

ใครอีกก็ไม่รู้ว่า มิตรภาพไม่มีพรมแดน ความหมายคล้ายคลึงกัน คือ มิตรภาพไม่จำกัดเพศ วัย ฐานะ เชื้อชาติ ศาสนา และสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ทุกคนเป็นเพื่อนกันได้ ยิ่งไม่เคยเห็นหน้ารู้จักตัวยิ่งดี เราจะคิดคำนึงให้เพื่อนเป็นไปตามใจชอบอย่างไรก็ได้ ไม่มีความจริงของสายตาเข้ามาจำกัด

นานๆ จะมีคนมาบอกเล่าเรื่องคนอายุมากจากประสบการณ์จริง คนส่วนใหญ่ไม่ใคร่ได้ใช้เวลา สังเกตพฤติกรรมของคนแก่ ได้แต่เชื่อๆ ตามที่เล่า ลืมไปว่าคนแก่แค่ไหนก็ตาม ยังคงมีความเป็นตัวเองเหลืออยู่ จนกว่าจะหมดลมหายใจ หลงๆ ลืมๆ อาจเป็นพฤติกรรมพื้นฐานของคนแก่ แต่รายละเอียดอาจแตกต่างกันได้มาก

พฤติกรรมที่น่าจะยกให้เป็นธรรมดาของคนแก่ น่าจะเป็นความต้องการมีใครสักคน หรืออะไรสักอย่างที่จะรับฟังตนพูด

บนเตียงของคนแก่วัย 84 คนหนึ่ง มีตุ๊กตาหมีตัวโตนั่งอยู่ เจ้าของบอกว่า ได้เจ้าตัวนี้แหละเป็นคนฟัง เป็นเพื่อนคุยที่ดีเพราะเขาฟังท่าเดียว เขาพูดได้เหมือนกันนะ แต่ฉันต้องพูดแทนเขา

ความจริง เพื่อนที่ดีที่สุดของทุกคนคือ ตัวเอง แต่คนด้วยกันไม่ยอมให้คนพูดกับตัวเองดังๆ หาว่าผิดปกติ คนปกติเลยต้องรั้งสติไว้แค่พูดในหัวสมอง ไม่ให้ความคิดล่วงเลยออกมาปรากฏเป็นคำพูด สบายใจจะร้องเพลงโปรดออกมา คนก็จะคิดว่าควบคุมสติไม่ได้เสียแล้ว

เพื่อนคนแก่อีกคนหนึ่งพูดกับปลาที่หลานเลี้ยงไว้ในตู้ รู้ด้วยว่าปลาพูดตอบไม่ได้ การพูดกับปลาจึงแค่ทักทายว่ากินอิ่มไหม สบายดีหรือ

ความปกติอย่างนี้ของคนแก่ มีแต่คนที่อยู่ด้วยกันเท่านั้นที่รู้ เพราะคนแก่ยังมีสติสัมปชัญญะ พอที่จะรู้สึกได้ว่า ผู้อื่นคิดอย่างไรกับตน เมื่อเห็นตนพูดกับตัวเอง คนส่วนใหญ่คิดว่าคนแก่บ้าบ่น ไม่ควรแก่ความใส่ใจ เมื่อไม่ใส่ใจก็ไม่รู้ว่า คนแก่บ่นหรือพูดอย่างมีความหมาย

นานๆ จะพบว่า พ่อกับลูกสาวสนิทกันมากจนคุยกันได้ทุกเรื่อง ต้องยกเครดิตให้แก่พ่อว่าเป็นพ่อไม่ธรรมดา พ่อส่วนมากไม่สามารถในการเป็นพ่อได้ขนาดนั้น พ่อหลายคนห่างเหินกับลูกเสียจนลูกไม่เข้าใกล้ ในขณะที่พ่อบางคนก็หย่อนวินัยแก่ลูกเสียจนลูกเลิกเกรงพ่อ คิดตามประสาคนเป็นแม่ ที่ไม่ได้ลำบากยากเย็นอะไรนักหนาที่จะเลี้ยงลูก เพราะลูกมีพ่อช่วยแม่เลี้ยงลูก ก็ว่าความเป็นพ่อที่ดี น่าจะลำบากกว่าความเป็นแม่ที่ดี เพราะอาจต้องเปลี่ยนบทบาทจากพ่อสมัยโบราณ มาเป็นพ่อยุคไฮเทค ซึ่งทำให้พ่อต้องมีภาระในการเลี้ยงลูกมากขึ้นกว่าเดิม แบ่งงานจากแม่มาเป็นของพ่อ ถ้ามองในแง่นี้ ต้องว่าแม่สบายขึ้น พ่อทำหน้าที่พ่อหนักขึ้น เมื่อใดพ่อกับแม่รับภาระเสมอกันจนเกิดความเป็นปกติ เมื่อนั้นก็พูดได้ว่า ครอบครัวเป็นปกติสุข

ว่าถึงการแสดงความรักของพ่อแม่กับลูก คิดว่าแม่มีเรื่องให้ลูกนึกถึงได้มากกว่าพ่อ ไม่ใช่แค่แสดงความรักแบบจูบจอมถนอมเกล้า แต่เป็นการแสดงออกด้วยวิธีต่างๆ ในจดหมาย แม่เฝ้าคอยการกลับบ้านของลูก ลูกไปทำงานทั้งวัน แม่ก็คิดถึงลูกทั้งวันเหมือนกัน ด้วยความเป็นห่วง ลูกอยู่ไกลตัว แม่เป็นห่วงทั้งนั้น

พ่อของผู้เขียนมีลูกสาวคนเล็กที่สุดเป็นแพทย์ ขับรถเองออกจากบ้านแต่เช้ามืดกว่าจะกลับถึงบ้านก็เย็นค่ำ พ่อกินข้าวมื้อเย็นแล้ว ออกไปเดินเตร่คอยอยู่หน้าบ้าน เห็นลูกขับรถกลับบ้านแล้ว พ่อก็กลับเข้าบ้าน พ่อไม่ได้บอกว่าคอยลูก แต่ใครๆ รวมทั้งตัวลูกด้วยก็รู้ แต่ไม่มีใครเอ่ยปากเพียงแต่เข้าใจเงียบๆ ในความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก

เมื่อครั้งหลานสาวเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่รังสิต เขาอยู่หอพัก วันเสาร์-อาทิตย์ กลับมานอนบ้านปู่ย่า หัวค่ำวันศุกร์ปู่ย่าไม่เป็นอันทำอะไร ออกไปยืนคอยหลานหน้าปากซอย หลานมารถเมล์แล้วจะต้องเดินเข้าซอยอีกนิดหนึ่ง ความจริงซอยไม่เปลี่ยว ผู้คนพลุกพล่าน แต่ปู่ย่าก็ยังห่วง การแสดงความห่วงคือการแสดงออกซึ่งความรัก ความจริงข้อนี้ผู้เยาว์นึกไม่ถึง ตีความว่าพ่อแม่ปู่ย่าตายายยุ่งไม่เข้าเรื่อง ลูกหลานโตแล้วยังไม่ปล่อยวางให้เขาดูแลตัวเอง ตามสมัยไม่ทัน กว่าลูกหลานจะเข้าใจในพฤติกรรมที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายแสดงออก บาทีก็สายเกินการ ที่เป็นธรรมดาคือ ลูกหลานมีลูกของตัวเองแล้วจึงเข้าใจ ลูกในจดหมายโชคดีที่มีโอกาสได้ตอบแทน ความรักของแม่ด้วยการบังคับตัวเองให้กลับบ้านแต่วัน เพื่อแม่จะไม่ต้องเป็นกังวลห่วงใย

การแสดงความรักของพ่อแม่มีหลากหลายไม่สิ้นสุด การตอบแทนของลูกก็ไม่ควรจะสิ้นสุดเช่นเดียวกัน เป็นแต่ว่า ช่วงเวลาที่ลูกจะตอบแทนมีน้อยกว่าที่พ่อแม่ได้เลี้ยงดูลูกมา การเฝ้าคอยว่าเมื่อไหร่ลูกจะกลับบ้าน เป็นแค่เหตุการณ์หนึ่งที่ลูกรู้ได้ มีอีกหลายเรื่องนักที่ลูกไม่รู้ หรือแต่ลืมไปแล้ว เพราะคิดว่าไม่สำคัญควรแก่การจดจำ

สำหรับพ่อแม่ ทุกอย่างที่ให้แก่ลูก พ่อแม่จำได้ทั้งนั้น ถามพ่อแม่คนไหนดูก็ได้

อ.สมศรี สุกุมลนันทน์

(update วันที่ 23 กันยายน 2543)


[ที่มา.. life & family   ปีที่ 5 ฉบับที่ 53 สิงหาคม 2543]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600