มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



 สมุดเฟรนด์ชิป มิตรภาพและการลาจาก

ฟิตนี่


"แม้พรุ่งนี้เราต้องห่างไกล แต่หัวใจยังอยู่
นานแค่ไหนขอให้เธอรู้ เพื่อนยังอยู่ในใจเสมอ"

เพลงนี้หลายคนคุ้นเคยกันมาบ้าง เป็นความรู้สึกระหว่างเพื่อนถึงเพื่อน ที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้นได้ ถึงต้องแยกย้ายไปศึกษาต่อที่อื่น แต่เขาและเธอก็มีวิธีเก็บความทรงจำที่ดีเหล่านี้ไว้ด้วยการถ่ายทอดลงใน สมุดเฟรนด์ชิป เคยตั้งคำถามมั้ยว่า สมุดเฟรนด์ชิปมีเข้ามาในบ้านเราตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างไร

คุณเอนก นาวิกมูล นักบันทึกเรื่องราวในอดีต บอกว่า "เท่าที่จำได้ ผมเริ่มเขียนสมัยอยู่ ป.4 (พ.ศ.2506) ก่อนหน้านั้นพี่สาวผมก็เขียนกันแล้วนะครับ ผมคิดว่าเป็นวัฒนธรรมทางตะวันตก จะเข้ามา พ.ศ.ไหนนี่ไม่แน่ใจครับ
"สมัยนั้นเขามีสมุดเฟรนด์ชิปขายนะครับ เป็นเล่มๆ คล้ายสมุดเช็ก ขนาดความยาวเท่าฝ่ามือ หน้าปกเขียนว่า สมุดเฟรนด์ชิป แต่ผมไม่ได้ซื้อหรอกครับ ทำขึ้นมาเองเพราะอยากทำตามที่ตัวเองอยากได้ ผมไปซื้อกระดาษสีๆ มาตัดตามยาว แล้วเย็บเล่มเอง ก็รู้สึกภูมิใจดีไม่เหมือนใคร
"ข้อความที่เขียนหรือ จะเกี่ยวกับความรัก ความอาลัย แล้วลงชื่อ ที่อยู่พร้อมกับแลกรูปภาพ ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่สนิทสนมกันเท่านั้น แล้วนำมาติดลงในสมุด ตรงหัวมุมรูปทั้งสี่ด้านจะติดด้วยเฟรมติดขอบรูป มีให้เลือกทั้งสีแดง เขียว หรือไม่ก็เก็บใส่อัลบั้มต่างหาก"
"ผมเห็นด้วย และสนับสนุนให้มีการเขียนเฟรนด์ชิปตลอดไป เพราะเป็นการสร้างความผูกพัน เตือนถึงมิตรภาพดีๆ ที่มีต่อกันระหว่างเพื่อน จากกันไปเป็นสิบๆ ปี หยิบขึ้นมาอ่านครั้งใดก็ให้ความรู้สึกดีๆ เช่นเคย"

แล้วเราก็มาได้คำตอบจากคุณแม่ท่านหนึ่ง วัย 60 เล่าถึงที่มาของการเขียนสมุดเฟรนด์ชิบในบ้านเราว่า "เริ่มมีการเขียนประมาณหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มันเข้ามาพร้อมกับแฟชั่นยุคซิกซตี้ สมัยที่ดิฉันเรียนหนังสืออยู่ม.ศ.4 ก็เขียนแล้ว การเขียนเฟรนด์ชิปสมัยนั้น รู้สึกไม่ค่อยหวือหวาเหมือนกับเด็กๆ ยุคนี้ที่เขาเขียนกัน เป็นอะไรที่เรียบๆ เหมือนภาพถ่าย ขาว-ดำ และเป็นปรัชญาชีวิตแบบจริงใจและจริงจัง"

นับแต่นั้นมา การเขียนเฟรนด์ชิปก็กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ตกทอดมาจนทุกวันนี้…

สมุดเฟรนด์ชิปปี 1999 นี้หลากหลายทั้งรูปแบบและสีสัน ออกมาเอาใจขาโจ๋วัยจ๊าบ ไม่ว่าจะปกสีแดง ดำ บางเล่มก็คิขุอาโนเนะ สีหวานแหวว อย่างชมพู เหลือง ฟ้า สำหรับสาวน้อยสาวใหญ่ที่ยังมีความหวาน หรือจะเป็น "อภิมหาเฟรนด์ชิป แผ่นเดียวเขียนได้ทั้งห้อง สะใจวัยมัน ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า อีกแบบที่ขายดีไม่แพ้กันคือ เฟรนด์ชิปมือถือ พกพาง่ายในตลับ

เทปคาสเซ็ต บรรจุกระดาษขนาด 9.5x5.5 ซม. 30 แผ่น สำหรับไว้เขียนข้อความทั่วไป และที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก
การเขียนเฟรนด์ชิป หญิงจะเขียนคำ ที่หวานซึ้ง แต่ชายเป็นคำพูดห้าวๆ แข็งๆ บางคนถึงกับใช้ภาษาสมัยพ่อขุนรามแล้ว เด็กชายไม่ค่อยนิยมเขียนลงในสมุดบันทึก เท่าไหร่ จะเขียนลงบนเสื้อนักเรียนแทน ประมาณว่า …เท่กว่ากันเยอะ

ถึงเวลาเปิดสมุดเฟรนด์ชิปของเขา และเธอกันแล้ว ว่ามีข้อความอะไรบ้าง นะนอกจากชื่อ ชื่อแก๊ง ที่อยู่ หรือจดหมาย เปิดผนึกบรรยายความรู้สึกที่มีต่อเพื่อน คนนั้นที่คบกันมา 3 ปี…
นายแน่มาก…ตูน
แอบรักเธออยู่ในใจ…ยิ้ม
สระอิอยู่บนควายน้อย ดอเด็กตัวจ้อยถือถุงตามมา สระอึอยู่บน ฟากฟ้า งองูมาช้าเลยอยู่ห่างแถว…ผึ้ง
เก็บไว้ทุก-ทุกเรื่องราว รอยยิ้มที่เราเคยมี เก็บไว้รวมกันเป็นภาพที่ดี สิ่งเหล่านี้ คือ "ความทรงจำตลอดไป" …ฝน
แค่ความเป็นเพื่อนที่ดี ที่มีน้ำใจห่วงใยกันบ้างเป็นเวลา แค่ความเป็นเพื่อนที่ดี ที่เธอให้มา ก็มีคุณค่ามากมายอยู่แล้ว…พีท
ไม่อยากจะไป ไม่อยากจะลา แต่ใครจะหมุนเวลา ให้กลับมาเหมือนเดิม… โอ๋
วันสุดท้ายนั้นคือวันแห่งการจาก จำต้องพรากจากเพื่อนแสนคิดถึง วันสัมพันธ์เก่าก่อนเฝ้าคำนึง มีสารถึงกันบ้างอย่าร้างลา…วรรณ
ใจหายแว้บเมื่อถึงเวลาต้องไป ไปเพื่ออนาคต เพื่อฝันที่ยิ่งใหญ่ ขอให้เพื่อนโชคดี เจอแต่สิ่งดีงามใช่ไหม ไม่เอาหล่อ เอาสวย รวย รวย สาธุ…ชลธิชา
ฯลฯ
นี้เป็นความรู้สึกเพียงส่วนหนึ่ง คราวนี้ถึงคิวของ เขาและเธอ ตัวจริง เสียงจริงมาบอกเล่าความรู้สึก การเขียน การเลือกสมุดให้ฟัง

...ตุ๊ก วัย 19...

เขียนมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ละครั้งแตกต่างกัน
"ครั้งแรกที่เขียนตอนม.3 ครับ สมัยนั้นยังห้าว ครับ ให้เพื่อนๆ เขียนใส่เสื้อแทน
"พอม.6ดีกรีความห้าวลดลงแล้ว ก็ให้เขียนลง ในสมุดแทน เลือกสมุดดูโดยราคาต้องไม่แพงเกินไป ลวดลายก็ไม่ต้องมาก ดูแบบเรียบๆ แค่พอเขียนได้ เพราะเราแค่ต้องการถ้อยคำจากเพื่อนเท่านั้น ไม่ได้ให้ ความสำคัญกับตัวสมุดสักเท่าไหร่
"ส่วนใหญ่เพื่อนจะเขียนบรรยายความรู้สึกที่คบ กันมา 3 ปี ไม่ชอบผมอย่างไรบ้าง หรือเหตุการณ์ที่ประทับ ใจระหว่างเรา พร้อมกับอวยพรให้เอ็นทรานซ์ติดคณะที่ หวัง
"นี่จะเป็นกาสรเขียนของเพื่อน ผู้หญิงนะครับ ออกหวานนิดๆ แต่เพื่อนผู้ชายประมาณเข้มๆ ไร้สาระ นิดหน่อย เขียนให้สนุกไม่เศร้าหรือซึ้ง แล้วก็เขียนสั้นๆ เท่านั้น อย่าง…ขอให้โชคดีนะ จากเพื่อนแท้
"การเขียนทั้งสองครั้งของผมนี่จะต่างกันนะ ในเรื่องของความคิด หรือจุดมุ่งหมายของแต่ละช่วง ชีวิตมันต่าง
"ตอน ม.3 เขียนแบบเราต้องการจะเป็นอะไรใน อนาคต ม.6 นี่อวยพรให้สมหวังกับสิ่งที่คิด และบอก ความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง
"เขียนเฟรนด์ชิปเพื่ออะไร สำหรับผมหลาย อย่างครับ ทั้งเป็นธรรมเนียมที่ต้องเขียนก่อนจะจากกัน ประมาณว่าเราคิดถึงเพื่อน และอยากให้เพื่อนอยู่กับ เราเหมือนเดิม ก็กถ่ายทอดความรู้สึกที่ดีๆ เหล่านั้น ลงในสมุดแทน
"ตัวผมเองก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีนะ เหมือนเพื่อน ไม่ได้จากเราไป ทุกคนยังอยู่พร้อมหน้า คิดถึงก็เปิด สมุดอ่านยังได้ความรู้สึกเดิมๆ"


...มด วัย 15...

กำลังจบชั้น ม.3 เขียนเฟรนด์ชิปเป็น ครั้งแรก
"เริ่มเขียนมาได้ 2-3 เดือนแล้วค่ะ ก็ทยอยๆ ให้เพื่อนเขียน ตอนนี้เกือบครบ ทุกคนแล้ว
"สมุดที่มดใช้จะเป็นสมุดเป็นเล่มๆ คล้าย สมุดสะสมสติ๊กเกอร์ที่สามารถซื้อกระดาษเติมได้ อีกถ้าเขียนไม่พอ
"ส่วนใหญ่เพื่อนจะไม่ค่อยเขียนอะไรมาก แค่ให้ชื่อ ที่อยู่เท่านั้น บางคนก็มีแต่งกลอนให้บ้าง แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือรูปถ่าย ที่ต้องแลกกัน จะเป็น รูปถ่ายสติ๊กเกอร์เยอะมา ก็ช่วงนี้เขา ฮิตกันนี่คะ แล้วมดว่าสะดวก ทันสมัยด้วย
"มดว่าการเขียนเฟรนด์ชิป ทำให้ได้รู้เรื่อง ราวว่าเพื่อนแต่ละคนเขาคิดอย่างไรกันบ้าง บางคน ก็มีเรื่องตลกๆ เขียนเล่าให้ฟัง หรือเรา คิดถึงเพื่อนก็หยิบขึ้นมาอ่าน เป็นความรู้สึกที่ดีๆ นะที่มีให้กัน เหมือนกับเพลงที่ว่า "เพื่อนไม่เคย ไม่เคยทิ้งกัน ไม่ว่าความฝันนั้นจะไกลสักเท่าไหร่ จะหกล้มซมซานเมื่อใด เพื่อนคอยปลอบใจ"

...จุ๊บ วัย 17...

เขียนตามเพื่อน
"เคยเขียนเฟรนด์ชิปค่ะ ตอนม.3 ที่เขียน เพราะเขียนตามเพื่อน พอดีเพื่อนสนิทชวนไปซื้อ สมุดเฟรนด์ชิปจุ๊บก็ไปด้วยแล้วเห็นสมุดลายน่ารักดี เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นสีหวานๆ เลยซื้อมา 1 เล่ม ราคา ประมาณ 80 กว่าบาทนะ ก็มาให้เพื่อนที่สนิทๆ กัน เท่านั้นเขียน ไม่ได้เขียนทุกคน
"เวลาจุ๊บเขียนให้เพื่อนนี่ จะเป็นประเภท กลอนมากกว่า ไม่ได้แต่งเองหรอกค่ะ ลอกใน หนังสือกลอนมาอีกทีเพราะไม่มีเวลาแต่ง แล้วก็ จะมีอาวุธประจำในการเขียนสมุดเฟรนด์ชิป โดยเฉพาะ มีปากการ็อตติ้งสีดำไว้สำหรับเขียน ข้อความ สีไม้ 3 สี ชมพู ฟ้า เหลือง ไว้ตกแต่ง
"บางครั้งก็จะวาดเป็นรูปพระอาทิตย์ยิ้ม ร้องไห้ สลับกันไปบ้าง ก็ไปจำเขามาอีกนั่นแหละคะ (ยิ้ม) เห็นแบบว่าน่ารักดี เพราะที่เห็นเพื่อนๆ คนอื่น เขาเขียนกันธรรมดามาก ไม่ค่อยเล่นลวดลาย เท่าไหร่ เราเป็นคนแรกก็รู้สึกปลื้มนิดๆ"

แล้วคุณล่ะ เก็บความรู้สึกดีๆ เดิมๆ แบบนี้ไว้บ้างหรือเปล่า

(update วันที่ 22 สิงหาคม 2543)


[ที่มา.. life & family   ปีที่ 3 ฉบับที่ 36 มีนาคม 2542 ]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600