สิม(โบสถ์ในภาษาอีสาน)
สิมในอีสานแบ่งออกเป็นสองอย่างคือสิมน้ำกับสิมบกตามคติเก่านั้นการบวชต้องทำกันในสิมที่มีพัทธสีมาเป็นเขต
หรือหาไม่ต้องไปบวชกันกลางน้ำใช้น้ำและขอบเขตของน้ำเป็นที่ประกอบพิธีหรืออาจสร้างสิมชั่วคราวขึ้นมากลางน้ำก็ได้
เพราะถือว่าน้ำนั้นเป็นสิ่งบริสุทธิ์
สิมน้ำ
จึงเป็นอาคารที่สร้างขึ้นชั่วคราวในบึงหรือสระจะตั้งไว้ที่ไหนก็แล้วแต่ชุมชนไหนสะดวกอย่างไรส่วนใหญ่ก็จะทำกัน
ใกล้วัด
ถ้าจะให้ถูกต้องดีงามชาวบ้านก็จะสร้างสิมให้ห่างจากฝั่งเพียงระยะวักน้ำด้วยแรงคนไม่ถึงมีสะพานทอดเข้าหาสิมเมื่อเข้า
ไปทำพิธีกรรมก็ชักสะพานออกเพิ่ไม่ให้มีอะไรเชื่อมต่อกับแผ่นดินสิมน้ำจึงเป็นสิมที่บริสุทธิ์เป็นลัทธิความเชื่อของ
พุทธศาสนาลังกาวงศ์ยังมีหลักฐานปรากฏให้เห็นอยู่ที่วัดกัลยาณีประเทศศรีลังกาลักษณะโดยทั่วไปของสิมน้ำจะพบทั้ง
แบบที่มีฝาและไม่มีฝาหลังคาก็จะเป็นแบบแป้นไม้คล้ายกับกระเบื้องแต่ทำด้วยไม้เป็นแผ่นๆ
สิมบก
ต่างจากสิมน้ำตรงที่เป็นอาคารถาวรมีปรากฏโดยทั่วไปในชุมชนอีสานและสิมบกยังมีรูปแบบแตกต่างกันออกไปสองสาม
แบบคือ สิมไม้ สิมโถง และสิมก่อผนัง
สิมไม้ เข้าใจว่าเป็นที่ต่อเนื่องมาจากสิมน้ำและจะพบมากในแถบอีสานใต้
จังหวัดสุรินทร์
ศรีสะเกษและอุบลราชธานีที่หลงเหลือให้ได้เห็นส่วนใหญ่ก็ไม่เก่าไปกว่า พ.ศ.2500
สิมไม้มักสร้างโดยชาวบ้านที่เป็นช่างมาร่วมลงแรงกันสร้างลักษณะจะออกมาเป็นฝีมือช่างชาวบ้านแท้ๆอยากตกแต่งใส่
ลวดลายอย่างไรก็ตามแต่ใครถนัดงานด้านไหนแต่ก็คงลักษณะเดิมเอาไว้ฐานสิมที่เป็นไม้ก็จะช่วยกันจำหลักบัวคว่ำบัวหงาย
บางทีก็แกละลายบานหน้าต่าง ขอบหน้าต่าง ส่วนฝาก็ตีเกล็ดธรรมดา
หน้าบันจะไม่มีอะไรประดับประดามากนัก
เป็นสิมอย่างง่ายๆเห็นแล้วสบายตาสบายใจมีความสงบไม่หวือหวาและไม่ใหญ่โตโอฬาร
สิมโถง
เป็นอาคารโปร่งโล่งกะทัดรัดประกอบด้วยเสาไม้ตั้งอยู่บนฐานยกพื้นรองรับหลังคาไม่มีฝา
ถ้าจะทำฝาก็มักจะทำแต่ด้านที่มีพระประธานและมักสร้างเล็กๆเพื่อให้พระสงฆ์ทำสังฆกรรมเพียงสี่ห้าองค์
ยกสูงจากพื้นพอประมาณหากมีชาวบ้านจะเข้าร่วมฟังเสียงธรรมก็ต้องนั่งบริเวณนอกสิม
สิมโถงเป็นสิมที่เหมาะกับอากาศอันร้อนอบอ้าวของอีสานได้ดี เพราะมีลมถ่ายเทได้สะดวก
ไม่มีฝาปิดไม่มีเครื่องตกแต่งให้รกรุงรังแต่อย่างได
เหมาะที่จะทำสังฆกรรมด้วยความสงบบางทีก็จะเห็นสิมโถงมีลักษณะลดหลั่นเหมือนขั้นบันไดทั้งนี้เพื่อป้องกันฝนที่
จะสาดต้องพระประธานและเป็นการเสริมให้องค์พระสูงขึ้นในระดับที่
สง่าสวยงามขึ้นเป็นสุนทรียภาพง่ายๆของชาวบ้านนั้นเอง
สิมก่อผนัง เป็นอาคารที่ก่อผนัง
ด้วยปูนทั้งสี่ด้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กมักใช้อิฐดิบ
เป้นอิฐที่ใช้ดินเหนียวหรือที่คนอีสานเรียกดินโพน ผสมกับฟางข้าว แกลบ
และขี้งัวหรือขี้ควาย คลุกเข้าให้เข้ากัน แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนขนาด 5-8
โดยประมาณผนังสิมจะมีหน้าต่างน้อยมากอาจมีเพียงบานเดียวหรืออย่าง
มากก็สองบานมีประตูด้านหน้าอาจมีบานประตูจำหลักไม้ฝีมือช่างชาวบ้านส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพุทธศาสนา
หรือหาไม่ก็เรื่องสิงสาราสัตว์ เรื่องธรรมชาติ
ไปอีสานต้องได้ดูสิมอีสานจึงจะมองเห็นความเป็นอีสาน ซึ่งคือพื้นฐานของชุมชน
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมมักบ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของได้อย่างชัดเจนอย่างหนึ่ง
จำจาก ของชิ้นเอก โดย นิวัติ กองเพียร
จัดทำและดำเนินการโดย ชมรมซอดแจ้งสามัคคี Zodjang Unity Club