Home

ยา

ผู้หญิง

เด็ก

เครื่องสำอางค์

ปฐมพยาบาล

โรคทั่วไป

สาระที่น่าสนใจ

สอบถามปัญหา

การป้องกันการใช้ยาผิด

ก่อนใช้ยา
การป้องกันอุบัติเหตุจากยา
แนวทางการป้องกันอุบัติเหตุจากยา
จะทำอย่างไรเมื่อเกิดพิษจากยา

ติชม หรือสอบถามได้ที่นี่ครับ
ชื่อ
email
ติชม เรื่องที่อยากสอบถาม

 

 

 

 

ก่อนใช้ยา

สิ่งที่ท่านต้องดูคือ

  • สภาพภาชนะบรรจุยังคงดูเรียบร้อยหรือไม่ เช่น แผงยามีรอยฉีกขาดหรือไม่
  • ปีดฝาสนิทหรือไม่
  • ตรวจสอบดูวันหมดอายุ
  • ตรวจดูสภาพยา โดยแยกเป็นยารูปแบบต่างๆกันดังนี้
  • ยาน้ำ ตรวจดูสี กลิ่น ความข้น ความใส มีตะกอนผงสกปรกแปลกปลอมหรือไม่
  • ถ้าเป็นยาแขวนตะกอน หรือยาแขวนละออง ลองเขย่าดูว่ายากระจายเข้ากันดีหรือไม่
  • ยาเม็ด ตรวจดูสี กลิ่น ยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ มีขนาดเม็ดเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
  • ถ้ามีอักษรพิมพ์อยู่ที่เม็ดดูว่ายังคงอ่านออกหรือไม่? มียาแตกหรือไม่?
  • แคปซูล ตรวจดูสี ความสม่ำเสมอของสี เปลือกแคปซูลชื้นเหนียวติดกัน
  • หรือแห้งแข็งหรือไม่? เปลือกแคปซูลยังคงเงางามดีหรือไม่?
  • อักษะที่พิมพ์บนแคปซูลยังคงชัดเจนหรือไม่?
  • ตรวจสอบขนาดแคปซูลเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่?
  • ยาทาผิวหนัง ตรวจดูสภาพหลอดภายนอกมีอาการรั่ว พอง ผิดปกติหรือไม่? ตรวจดูสภาพเนื้อครีมขี้ผึ้งว่ายังคงเป็นเนื้อเดียวกันหรือไม่ ? แยกตัวเป็นส่วนของน้ำมันกับน้ำหรือไม่?

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ท่านจะต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อมที่ท่านเก็บด้วยหรือไม่ กล่าวคือ ท่านควรเก็บยาไว้ในสภาพที่แห้ง ไม่ร้อน ไม่ถูกต้องแสงแดดโดยตรง

การป้องกันอุบัติเหตุจากยา

มีการรวมรวมสถิติในสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่า พบอุบัติเหตุจากยาในเด็ก ต่ำกว่า 6 ปี มากถึง 1ล้านคนในปี ค.ศ.1994 สาเหตุที่เกิดมักเป็นเพราะ การขาดความระมัดระวัง การได้รับข้อมูลเรื่องยาที่ไม่ถูกต้อง ตัวอย่างที่มีการรวบรวมว่าพบบ่อยได้แก่ การทานยาในที่มืด การใช้ยาของผู้อื่นโดยมีอาการหรือโรคเดียวกัน การทานยาเกินกว่าขนาดที่ระบุไว้โดยคิดว่าจะทำให้หายเร็วขึ้น

การป้องกันในเด็ก

เนื่องจากวัยเด็กเป็นวัยที่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เด็กจึงมีความกระตือรือร้น ชอบหยิบฉวยสิ่งของซึ่งเป็นการสำรวจโลกของเด็ก เด็กยังไม่รู้ถึงอันตราย ดังนั้นอุบัติเหตุในเด็กจึงมักพบบ่อย ท่านจึงควรปกป้องเด็กจากอุบัติเหตุทางด้านยา โดย

  • เก็บยาให้พ้นมือเด็ก และไม่ให้เด็กเห็น สถานที่ควรหลีกเลี่ยงคือ ห้องน้ำ ตู้อาหาร
  • ควรเก็บยาในภาชนะที่ป้องกันเด็กเปิด ซึ่งจะเขียนไว้ที่ฝาว่า "CHILD-RESISTANT CAP" แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะป้องกันเด็กเปิดได้ 100% เพียงแต่เปิดยากขึ้น ต้องใช้แรงมากขึ้น
  • ในขณะที่ท่านกำลังจะทานยานั้น ท่านเกิดมีธุระอื่นทันที เช่น ทำครัวค้างไว้ มีคนมากดกริ่งที่ประตู มีโทรศัพท์มา ท่านควรเก็บยานั้นไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหยิบยานั้นไปกิน
  • หลีกเลี่ยงการทานยาต่อหน้าเด็ก เพราะเด็กมักจะเลียนแบบ

แนวทางการป้องกันอุบัติเหตุจากยา

  • เก็บยาในภาชนะที่มีฉลากเขียนไว้อย่างชัดเจนเสมอ ทางที่ดีคือเก็บในขวดของยานั้นเอง
  • ควรจดวันที่ที่ท่านซื้อยา และจัดการตรวจสอบวันหมดอายุของยาเป็นระยะ ถ้าต้องทิ้งยาควรทิ้งในที่ที่เหมาะสม หรือทำลายทิ้งเลย
  • ทานยาที่จ่ายมาสำหรับตัวท่านเท่านั้น ไม่ควรทานยาของผู้อื่นโดยที่เห็นว่าเป็นโรคเดียวกัน เนื่องจากสุขภาพของแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน อาจทำให้เกิดผลเสียได้ เช่น ผู้ป่วยบางคนมีโรคธัยรอยด์ หรือเบาหวาน มีข้อห้ามในการรับประทานยาแก้หวัดบางชนิด เป็นต้น หรือ ยาที่จะทานเพิ่มเติม อาจเป็นตัวยาเดียวกันกับที่ท่านทานอยู่แล้ว ก็จะกลายเป็นทานยาเกินขนาดไป
  • อ่านฉลากยาก่อนใช้ทุกครั้ง โดยจุดสำคัญที่ควรอ่านได้แก่ ชื่อยา ขนาดการใช้ ข้อบ่งใช้ ข้อห้ามใช้
  • ยาที่ไม่มีฉลาก ท่านควรทิ้งทันที ไม่ควรเก็บไว้
  • ทานยาบริเวณที่สว่างเสมอ เพื่อป้องกันการหยิบยาผิด
  • ควรติดฉลากยาภายใน ภายนอกให้แตกต่างกัน เช่น ยาภายนอกใช้ฉลากสีแดง ยาภายในใช้ฉลากสีน้ำเงิน หรือติดเป็นรูปภาพก็จะทำให้สังเกตได้ง่าย

จะทำอย่างไรเมื่อเกิดพิษจากยา

ท่านควรทราบว่า

  • อาการพิษของยาอาจจะไม่เกิดเฉียบพลัน หรือเห็นอาการอย่างชัดเจนก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักเกิดอย่างรวดเร็ว
  • ไม่มียาแก้พิษตัวใดที่ได้ผลกับพิษทุกชนิด

ดังนั้น

  • เรียกรถพยาบาลทันที
  • นำยา หรือสารเคมีนั้น ไปด้วย
  • จดจำเหตุการณ์ ปริมาณ อายุ อาการพิษที่ปรากฏ ได้แก่ อาเจียน สำลัก ง่วงซึม อุณหภูมิร่างกาย ความรู้สึกตัว อื่นๆ เพื่อแจ้งแก่แพทย์
  • ถ้าผู้ป่วยชัก ไม่รู้สึกตัว อย่าทำให้อาเจียนเป็นอันขาด เพราะจะสำลักเข้าหลอดลม
  • อยู่ในความสงบ ทำใจเย็นๆ ควบคุมสถานการณ์ให้ได้
  • ควรมี Activated Charcoal ไว้ประจำบ้าน ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับสารเคมีเอาไว้ ลดปริมาณที่จะดูดซึมของสารพิษเข้าสู่กระแสโลหิต

รวมรวมข้อมูลจาก U.S. Pharmacopeia's Advice for Patient
ปรับปรุงข้อมูลครั้งสุดท้าย 19/09/42 เภสัชกร วิเชียร อัศวดากร