นกเงือก : สัญญลักษณ์ของป่าดงดิบ

นกเงือกเป็นนกที่พบว่ามีการแพร่กระจายอย่ในเขตร้อนของทวีปเอเซียและอาฟริกาเท่านั้น มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 45 ชนิด

นกเงือกเอเซียเป็นนกที่มีขนาดใหญ่คือ อาจมีความยาวกว่า 1.5 เมตร เมื่อวัดจากปลายปากถึงปลายหาง ส่วนมากมักจะมีขนสีดำ-ขาว มีลักษณะเด่นเฉพาะตัวคือ มีปากขนาดใหญ่ยาวโค้งและมีโหนก (Casque) วางอย่บนส่วนปาก โหนกของนกเงือกมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกัน ส่วนภายในของโหนกที่ว่านี้จะมีลักษณะเป็นโพรง ยกเว้นโหนกของนกชนหิน (เป็นนกเงือกชนิดหนึ่งพบทางภาคใต้ของประเทศไทย มาเลเซีย เกาะบอเนียว และเกาะสุมาตรา) ซึ่งโหนกตันมีลักษณะคล้ายงาช้าง
นกเงือกเอเซียมีอยู่ประมาณ 30 ชนิด ในประเทศไทย (Thailand) มีนกเงือกอยู่ถึง 12 ชนิด และเป็นนกที่ต้องอาศัยอยู่ในป่าที่มีความสมบูรณ์ ทั้งนี้เพราะนิสัยในการทำรังที่มีความพิเศษแตกต่างไปจากนกอื่นใดในโลกนั่นคือ เมื่อถึงฤดูทำรังนกเงือกคู่ผัวเมียจะเสาะหาโพรงไม้ขนาดใหญ่ แต่เนื่องจากนกเงือกไม่สามารถเจาะต้นไม้ได้ จึงต้องอาศัยโพรงไม้ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ หรืออาจเป็นโพรงไม้ที่นกชนิดอื่นเจาะทิ้งเอาไว้ โดยนกเงือกตัวเมียจะตกแต่งรังด้วยการนำเศษไม้ หญ้าแห้ง ดินโคลน และเศษอาหารจากมูลของมันเอง วัสดุเหล่านี้จะถูกผสมผสานจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นจึงนำมาพอกที่ปากโพรงให้เล็กลงจนเหลือเพียงช่องแคบ ๆ ที่เพียงพอให้พ่อนกส่งอาหารเข้าไปได้เท่านั้น ต่อจากนั้นตัวเมียจะเข้าไปอยู่ภายในแล้วปิดปากโพรงทางเข้าให้เหลือเพียงช่องแคบ ๆ เพียงพอที่นกเงือกตัวผู้จะส่งอาหารผ่านได้ ตัวเมียจะกกไข่และเลี้ยงลูกโดยรับอาหารจากตัวผู้ซึ่งหาเลี้ยงไปจนกว่าลูกนกจะโตพอ
แม่นกหรือลูกนกจะกระเทาะปากโพรงที่ปิดไว้ออก ซึ่งนับเวลวตั้งแต่ตัวเมียปิดขังตัวเองจนลูกนกออกจากโพรง อาจกินเวลานานถึง 4 เดือน และตลอดเวลาอันยาวนานนี้ ท้งแม่และลูกจะต้องพึ่งพาอาหารจากพ่อนกเท่านั้น
นกเงือกจัดได้ว่ากินอาหารไม่เลือก แต่อาหารหลักนั้น ได้แก่ ผลไม้ โดยเฉพาะผลไทร ส่วนผลไม้อื่น ๆ ที่มีเมล็ด นกเงือกจะขย้อนออกทิ้ง ซึ่งเป็นการแพร่กระจายพันธุ์ไม้ นอกจากนี้นกเงือกยังกินสัตว์นานาชนิดเป็นอาหาร ได้แก่ แมลง สัตว์เลื้อยคลาน หนู ปู ปลา ฯลฯ นกเงือกมีบทบาทที่สำคัญในการช่วยรักษาสมดุลย์ระบบนิเวศวิทยาของป่า การที่นกเงือกกินผลไม้เป็นหลัก นกเงือกจึงต้องเสาะหาแหล่งผลไม้ที่มีตามฤดูกาลเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เพราะฉนั้นนกเงือกจึงต้องใช้พื้นที่ป่าเป็นบริเวณกว้างมาก และหากต้องการอนุรักษ์นกเงือกให้ มีจำนวนประชากรของนกเงือกเพียงพอที่จะสามารถดำรงอยู่เพียงสืบทอดสายพันธุ์ต่อไปได้ พื้นที่ป่านั้นควรมีขนาดไม่ล็กกว่า 500-600 ตารางกิโลเมตร และต้องเป็นป่าที่มีความสมบูรณ์
ผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ที่มีต่อประชากรนกเงือกที่สำคัญที่สุดคือ
  1. การตัดไม้ทำลายป่า
  2. การล่า
สำหรับประเทศไทยนกเงือกที่จัดว่าใกล้จะสูญพันธุ์ คือ .-
  1. นกเงือกคอแดง (Rufous-necked Hornbill, Aceros nipalensis)
  2. นกเงือกกรามช้างปากเรียบ (Plain-pounched Hornbill, Rhyticeros subruficollis)
  3. นกชนหิน (Helmeted Hornbill, Rhinoplax vigil)
  4. นกเงือกหัวหงอก (White-crowned Hornbill, Berenicornis comatus)
  5. นกเงือกปากย่น (Wrinkled Hornbill, Rhyticeros corrugatus)
  6. นกเงือกดำ (Black Hornbill, Anthracoceros malayanus)
  7. นกเงือกหัวแรด (Rhinoceros Hornbill, Buceros rhinoceros)
สถานภาพของนกเงือกที่ใกล้จะสูญพันธุ์นั้นก็เป็นผลมาจากการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเป็นการทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยรวม ทั้งแหล่งขยายพันธุ์ และการล่าเพื่อเป็นอาหาร เป็นสัตว์เลี้ยง หรือเกมส์กีฬา ฯลฯ
ดร.พิไล พูลสวัสดิ์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล ผู้เชี่ยวชาญด้านนกเงือก เล่าในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับที่ 17,374 วันพฤหัสบดีที่ 8 พ.ค.40 หน้า 32 ว่า นกเงือกจะอาศัยอยู่ในป่าเขตร้อนของทวีปแอฟริกาและเอเชียเท่านั้น ในประเทศไทยมีอยู่ 12 ชนิดจากทั้งหมด 54 ชนิดทั่วโลก หน้าตาของ นกเงือกออกจะโบราณ ไม่มีสีสันสวยงาม ส่วนใหญ่จะมีสีดำ-ขาว หรือน้ำตาล เทา มีขนาดใหญ่ถึงใหญ่มาก บางชนิดอาจมีขนาดตัวถึง 1.5 เมตร แต่ลักษณะแปลกก็คือ มีปากใหญ่ผิดส่วนกับหัว แถมยังมี "โหนก" เหนือปากอีกด้วย
และจากการติดตามพฤติกรรมพบว่าวงจรชีวิตของนกเงือกมีหลายอย่างน่าสนใจ เช่น การใช้ชีวิตคู่ของนกเงือกถือว่าเป็นชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบมาก เพราะนกเงือกเป็นสัตว์ที่รักครอบครัว เมื่อมีคู่แล้วจะอยู่แบบผัวเดียวเมียเดียว หากฝ่ายใดตายไปก่อน ตัวที่เหนือก็จะครองตัวเป็นโสดไปจนตายไม่ยอมมีคู่ใหม่
ชีวิตรักของนกเงือกจะเริ่มประมาณกลางเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นนกเงือกตัวผู้จะหาโพรงไม้ที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ และนกเงือกตัวเมียจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าชอบหรือไม่ ถ้าไม่พอใจตัวผู้ก็ต้องหาโพรงไม้ใหม่ แต่ถ้าพอใจแล้วตัวเมียก็จะเริ่มทำความสะอาดเพราะนกเงือก เป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมาก แล้วเริ่มปิดปากโพรงด้วยมูลของมันเองผสมกับเศษไม้และดิน พอปิดปากโพรงให้เล็กลงจนเหลือเพียงช่องแคบ ๆ พอที่พ่อนกจะส่งอาหารผ่านให้ด้วยจะงอยปาก ซึ่งแม่นกจะฟักไข่และเลี้ยงลูกอยู่ในโพรงโดยไม่ออกไปไหนนานประมาณ 3-4 เดือน และในช่วงดังกล่าวพ่อนกจะทำหน้าที่หาอาหารมาป้อนอย่างน่ายกย่อง นับว่าพฤติกรรมในการดูแลครอบครัวของนกเงือกตัวผู้ เป็นแบบอย่างที่ดีที่มนุษย์ผู้ชายน่าจะนำมาศึกษาดูบ้าง
เราถือว่านกเงือกก์คือส่วนหนึ่งของระบบนิเวศในป่าดงดิบ นกเงือกก็มีบทบาท ในการช่วยกระจายพันธุ์พืชโดยการสำรอกเมล็ดผลไม้ทิ้งและถ่ายออกมา ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของพันธุ์พืช และจากการศึกษา เกี่ยวกับนกเงือกก็นำไปสู่การเรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติ ซึ่งมีการอาศัยพึ่งพากันอย่างมีเหตุมีผล

ข้อมูลจาก....
มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก (Hornbill Research Foundation),
สาโรจน์ ปิตะรังษี, นกเงือก, ยิ้มสยาม ฉบับที่ 17 มี.ค.40, P.65