หน้า ๕๖

         แปลความว่า โลกุตตรจิตนั้น (อย่างพิศดาร ๔๐ ดวง) มีสังคหะ ๕ นัย ตามลำดับ คือ ๓๖ นัยหนึ่ง , ๓๕ นัยหนึ่ง ,
๓๔ นัยหนึ่ง , ๓๓ คู่หนึ่ง

อธิบาย

         นัยที่ ๑ ปฐมฌานมัคคจิต ๔ ดวง ปฐมฌานผลจิต ๔ ดวง มีเจตสิกประกอบ ๓๖ ดวง ได้แก่ อัญญสมานาเจตสิก ๑๓ โสภณเจตสิก ๒๓ (เว้นอัปปมัญญาเจตสิก ๒)
         นัยที่ ๒ ทุติยฌานมัคคจิต ๔ ดวง ทุติยฌานผลจิต ๔ ดวง มีเจตสิกประกอบ ๓๕ ดวง ได้แก่ อัญญสมานาเจตสิก ๑๒ (เว้นวิตกเจตสิก) โสภณเจตสิก ๒๓ (เว้นอัปปมัญญา ๒)
         นัยที่ ๓ ตติยฌานมัคคจิต ๔ ดวง ตติยฌานผลจิต ๔ ดวง มีเจตสิกประกอบ ๓๔ ดวง ได้แก่ อัญญสมานาเจตสิก ๑๑ (เว้นวิตก วิจาร) โสภณเจตสิก ๒๓ (เว้นอัปปมัญญา)
         นัยที่ ๔ จตุตถฌานมัคคจิต ๔ ดวง จตุตถฌานผลจิต ๔ ดวง มีเจตสิกประกอบ ๓๓ ดวง ได้แก่ อัญญสมานาเจตสิก ๑๐ (เว้นวิตก วิจาร ปีติ) โสภณเจตสิก ๒๓ (เว้นอัปปมัญญา)


หน้า ๕๗

         นัยที่ ๕ ปัญจมฌานมัคคจิต ๔ ดวง ปัญจมฌานผลจิต ๔ ดวงมีเจตสิกประกอบ ๓๓ ดวงได้แก่ อัญญสมานาเจตสิก ๑๐ (เว้นวิตก วิจาร ปีติ) โสภณเจตสิก ๒๓ (เว้นอัปปมัญญา)

มหัคคตสังคหนัย

         ๑๖. ปญฺจตึส จตุตฺตึส                                เตตฺตึส จ ยถากฺกมํ
              พาตฺตึส เจว ตึเสติ                              ปญฺจธาว มหคฺคเต

         แปลความว่า มหัคคตจิต ๒๗ ดวง มีสังคหะ ๕ นัย ตามลำดับคือ ๓๕ นัยหนึ่ง , ๓๔ นัยหนึ่ง , ๓๓ นัยหนึ่ง , ๓๒ นัยหนึ่ง และ ๓0 นัยหนึ่ง

อธิบาย

          มหัคคตจิต ๒๗ ดวงนั้น เมื่อนับตามอำนาจแห่งฌานแล้ว ก็มีเจตสิกประกอบไม่เท่ากัน จึงจัดได้เป็น ๕ นัย คือ
          นัยที่ ๑ ปฐมฌาน กุสล ๑ วิบาก ๑ กิริยา ๑ รวม ๓ ดวง มีเจตสิกประกอบ ๓๕ ดวง ได้แก่ อัญญสมานาเจตสิก ๑๓ โสภณเจตสิก ๒๒ (เว้นวิรตีเจตสิก ๓)
          นัยที่ ๒ ทุติยฌาน กุสล ๑ วิบาก ๑ กิริยา ๑ รวม ๓ ดวง มี


หน้า ๕๘

เจตสิกประกอบ ๓๔ ดวงได้แก่ อัญญสมานาเจตสิก ๑๒(เว้นวิตกเจตสิก)โสภณเจตสิก ๒๒(เว้นวิรตี ๓)
         นัยที่ ๓ ตติยฌาน กุสล ๑ วิบาก ๑ กิริยา ๑ รวม ๓ ดวง มีเจตสิกประกอบ ๓๓ ดวงได้แก่ อัญญสมานาเจตสิก ๑๑(เว้นวิตก วิจาร)โสภณเจตสิก ๒๒(เว้นวิรตี ๓)
         นัยที่ ๔ จตุตถฌาน กุสล ๑ วิบาก ๑ กิริยา ๑ รวม ๓ ดวง มีเจตสิกประกอบ ๓๒ ดวง ได้แก่ อัญญสมานาเจตสิก ๑๐ (เว้นวิตก วิจาร ปีติ) โสภณเจตสิก ๒๒ (เว้นวิรตี ๓)
         นัยที่ ๕ ปัญจมฌาน ๑๕ ดวง คือ รูปาวจรปัญจมฌาน กุสล วิบาก กิริยา ๓ ดวง อรูปาวจร กุสล วิบาก กิริยา ๑๒ ดวง มีเจตสิกประกอบ ๓๐ ดวง ได้แก่ อัญญสมานาเจตสิก ๑๐(เว้นวิตก วิจาร ปีติ) โสภณเจตสิก๒๐(เว้นวิรตี ๓ อัปปมัญญา ๒)

กามาวจรโสภณสังคหนัย

         ๑๗. อฏฐตึส สตฺตตึส                            ทฺวยํ ฉตฺตึสกํ สุเภ
              ปญฺจตึส จตุตฺตึส                            ทฺวยํ เตตฺตึสกํ กฺริเย ฯ

         ๑๘. เตตฺตึส ปาเก พาตฺตึสทฺ                     วเยกตึสกํ ภว
              สเหตุกกามาวจร                            ปญฺญปากกฺริยามเน ฯ

         แปลความว่า ในสเหตุกกามาวจร กุสล วิบาก กิริยา มีสังคหะ


หน้า ๕๙

ตามลำดับคือ มหากุศล                   มี ๓๘ หนึ่งนัย ๓๗ สองนัย ๓๖ หนึ่งนัย
               มหาวิบาก                 มี ๓๕ หนึ่งนัย ๓๔ สองนัย ๓๓ หนึ่งนัย
               มหากิริยา                 มี ๓๓ หนึ่งนัย ๓๒ สองนัย ๓๑ หนึ่งนัย

อธิบาย

         ในกามาวจรโสภณจิต ๒๔ ดวงนั้น มีสังคหะรวม ๑๒ นัย ดังนี้ คือ
         มหากุสล ๘ ดวง มีเจตสิกประกอบ ๔ นัย คือ ๓๘, ๓๗, ๓๗, ๓๖
         มหากิริยา ๘ ดวง มีเจตสิกประกอบ ๔ นัย คือ ๓๕, ๓๔, ๓๔, ๓๓
         มหาวิบาก ๘ ดวง มีเจตสิกประกอบ ๔ นัย คือ ๓๓, ๓๒, ๓๒, ๓๑

         นัยที่ ๑ มหากุสล คู่ที่ ๑ คือดวงที่ ๑ กับดวงที่ ๒ ที่เป็นญาณสัมปยุตต ทั้งคู่ มีเจตสิกประกอบ ๓๘ ดวง เต็มที่ คือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๓ โสภณเจตสิก ๒๕
         นัยที่ ๒ มหากุสล คู่ที่ ๒ คือดวงที่ ๓ กับดวงที่ ๔ ซึ่งเป็นญาณวิปปยุตตทั้งคู่ มีเจตสิกประกอบ ๓๗ ดวง คือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๓ โสภณเจตสิก ๒๔ (เว้นปัญญาเจตสิก)
         นัยที่ ๓ มหากุสล คู่ที่ ๓ คือดวงที่ ๕ กับดวงที่ ๖ ซึ่งเป็นอุเบกขาทั้งคู่ มีเจตสิกประกอบ ๓๗ ดวง คือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๒ (เว้นปีติ) โสภณเจตสิก ๒๕
         นัยที่ ๔ มหากุสล คู่ที่ ๔ คือดวงที่ ๗ กับดวงที่ ๘ ซึ่งทั้งคู่เป็นอุเบกขาด้วยเป็นญาณวิปปยุตตด้วย มีเจตสิกประกอบ ๓๖ ดวงคือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๒ (เว้นปีติ) โสภณเจตสิก ๒๔ (เว้นปัญญา)


หน้า ๖0

         นัยที่ ๕ มหากิริยาคู่ที่ ๑ คือดวงที่ ๑ กับดวงที่ ๒ มีเจตสิกประกอบ ๓๕ ดวง คือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๓
โสภณเจตสิก ๒๒ (เว้นวิรตีเจตสิก ๓)
         นัยที่ ๖ มหากิริยาคู่ที่ ๒ คือดวงที่ ๓ กับดวงที่ ๔ มีเจตสิกประกอบ ๓๔ ดวง คือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๓
โสภณเจตสิก ๒๑ (เว้นวิรตี ๓ ปัญญา ๑)
         นัยที่ ๗ มหากิริยา คู่ที่ ๓ คือดวงที่ ๕ กับดวงที่ ๖ มีเจตสิกประกอบ ๓๔ ดวง คือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๒ (เว้นปีติ) โสภณเจตสิก ๒๒ (เว้นวิรตี)
         นัยที่ ๘ มหากิริยา คู่ที่ ๔ คือดวงที่ ๗ กับดวงที่ ๘ มีเจตสิกประกอบ ๓๓ ดวง คือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๒ (เว้นปีติ) โสภณเจตสิก ๒๑ (เว้นวิรตี ปัญญา)
         นัยที่ ๙ มหาวิบาก คู่ที่ ๑ คือดวงที่ ๑ กับดวงที่ ๒ มีเจตสิกประกอบ ๓๓ ดวง คือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๓ โสภณเจตสิก ๒๐ (เว้นวิรตี อัปปมัญญา)
         นัยที่ ๑๐ มหาวิบาก คู่ที่ ๒ คือดวงที่ ๓ กับดวงที่ ๔ มีเจตสิกประกอบ ๓๒ ดวง คืออัญญสมานาเจตสิก ๑๓ โสภณเจตสิก ๑๙ (เว้นวิรตี อัปปมัญญา และปัญญา)
         นัยที่ ๑๑ มหาวิบาก คู่ที่ ๓ คือดวงที่ ๕ กับดวงที่ ๖ มีเจตสิกประกอบ ๓๒ ดวง คือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๒ (เว้นปีติ) โสภณเจตสิก ๒๐ (เว้นวิรตี อัปปมัญญา)


หน้า ๖๑

         นัยที่ ๑๒ มหาวิบาก คู่ที่ ๔ คือดวงที่ ๗ กับดวงที่ ๘ มีเจตสิกประกอบ ๓๑ ดวง คือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๒ (เว้นปีติ) โสภณเจตสิก ๑๙ (เว้นวิรตี อัปปมัญญา และปัญญา)

โสภณเจตสิกที่ไม่ได้สังคหนัย

         ต่อไปนี้จะแสดงโสภณเจตสิกบางดวง ที่ไม่ได้ประกอบกับโสภณจิต บางประเภท

         ๑๙. น วิชฺชนเตตฺถ วิรตี                           กฺริเยสุ จ มหคฺคเต
              อนุตฺตเร อปฺปมญฺญา                          กามปาเก ทฺวยํ ตถา ฯ

         แปลความว่า โสภณเจตสิกที่กล่าวมานี้
         ในมหากิริยาจิต ย่อมไม่มีวิรตีเจตสิก
         ในโลกุตตรจิต ย่อมไม่มีอัปปมัญญาเจตสิก
         ในมหาวิบากจิต ย่อมไม่มีทั้ง ๒ (คือทั้งวิรตี และ อัปปมัญญา)

อธิบาย

         ๑. ในมหากิริยาจิต ๘ ดวง ทั้งนี้เป็นเพราะมหากิริยาจิต เป็นจิตของพระอรหันต์ ซึ่งจบการศึกษาแล้ว
เป็นผู้ที่ปราศจากบาปธรรมทั้งปวง ตั้งแต่อรหัตตผลได้เกิดขึ้นแล้ว จึงไม่จำเป็นหรือไม่มีกิจที่จะต้องเว้นพูดชั่ว
เว้นทำชั่วหรือเว้นเลี้ยงชีพชั่วอีกเลย ด้วยว่าไม่มีกิเลสเหลือที่จะให้ทำชั่วอย่างนั้น หรืออย่างไหน ๆ ทั้งสิ้น


หน้า ๖๒

         ๒. ในมหัคคตจิตทั้ง ๒๗ ดวง ก็ไม่มีวิรตีเจตสิกประกอบ เพราะมหัคคตจิตเกิดขึ้นโดยมีกัมมัฏฐานเป็น
อารมณ์ ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยอาศัยการเว้นทุจริตซึ่งจะต้องมีวิรมิตัพพวัตถุ (วัตถุอันพึงเว้น) เป็นอารมณ์แต่อย่างใด
         ๓. ในโลกุตตรจิต ไม่มีอัปปมัญญาเจตสิกประกอบ เพราะอัปปมัญญาเจตสิก จะต้องมีสัตว์บัญญัติเป็นอารมณ์ แต่โลกุตตรจิตนั้นมีพระนิพพานเป็นอารมณ์แต่อย่างเดียว
         ๔. ในมหาวิบากจิต ๘ ดวง ก็ไม่มีวิรตีเจตสิกทั้ง ๓ และอัปปมัญญาเจตสิกทั้ง ๒ รวม ๕ ดวงนี้ ประกอบด้วยเลย เพราะมหาวิบากเป็นจิตที่เป็นผลของมหากุสล ทำหน้าที่ปฏิสนธิ เป็นต้น เมื่อขณะปฏิสนธินั้น ไม่ต้องเว้นพูดชั่ว เว้นทำชั่ว และเว้นเลี้ยงชีพชั่ว ทั้งขณะนั้นก็ไม่ได้กรุณาสงสารผู้ใด ไม่ได้มีมุทิตา คือพลอยยินดีกับใคร อันเป็นการเว้น คือไม่เกิด หรือเกิดขึ้นไม่ได้อยู่แล้วตามธรรมชาติ จึงไม่ต้องมีวิรตีเจตสิก อัปปมัญญเจตสิก มาประกอบ

ธรรมบางประการที่ทำให้จิตต่างกัน

         ๒0. อนุตฺตเร ฌานธมฺมา                           อปฺปมญฺญา จ มชฺฌิเม
              วิรตี ญาณ ปีติ จ                              ปริตฺเตสุ วิเสสกา ฯ

         แปลความว่า ในโลกุตตรจิต ฌานธรรมย่อมทำให้ต่างกัน
                       ในมหัคคตจิต ฌานธรรมและอัปปมัญญา ทำให้ต่างกัน
                       ในกามาวจรโสภณจิต วิรตี ญาณ ปีติ ทำให้ต่างกัน