พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล มหามกุฏราชวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ เล่มที่ 29 สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
หน้า 318-319 ข้อที่ 801-802 อานันทสูตร
๑0. อานันทสูตร
ว่าด้วยพระอานนท์ถามปัญหา [ ๘0๑ ] ครั้งนั้นแล วัจฉโคตรปริพาชกได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระพุทธเจ้า
ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อัตตามีอยู่หรือ เมื่อวัจฉโคตรปริพาชกได้ทูลถามอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงดุษณี
เสีย วัจฉโคตรปริพาชกได้ทูลถามอีกว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็อัตตาไม่มีหรือ แม้ครั้งที่สอง พระผู้มีพระภาคเจ้า
ก็ได้ทรงดุษณีเสียเหมือนกัน ครั้นแล้ว วัจฉโคตรปริพาชกก็ได้ลุกขึ้นจากที่นั่งหลีกไป[ ๘0๒ ] ครั้งนั้น เมื่อวัจฉโคตรปริพาชกหลีกไปแล้วไม่นาน ท่านพระอานนท์ ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะเหตุอะไรหนอ พระผู้มีพระภาคเจ้าอันวัจฉโคตรปริพาชกทูลถามปัญหาแล้ว จึงไม่ทรง
พยากรณ์ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ เราอันวัจฉโคตรปริพาชกถามว่า อัตตามี
อยู่หรือ ถ้าจะพึงพยากรณ์ว่าอัตตามีอยู่ไซร้ คำพยากรณ์นั้นก็จักไปร่วมกับลัทธิของ
พวกพราหมณ์ผู้เป็นสัสตทิฏฐิ ดูก่อนอานนท์ เราอันวัจฉโคตรปริพาชกถามว่า อัตตา
ไม่มีหรือ ถ้าจะพึงพยากรณ์ว่า อัตตาไม่มีไซร้คำพยากรณ์นั้นก็จักไปร่วมกับลัทธิของ
พวกพราหมณ์ผู้เป็นอุจเฉททิฏฐิ ดูก่อนอานนท์ เราอันวัจฉโคตรปริพาชกถามว่า อัตตา
มีอยู่หรือ ถ้าจะพึงพยากรณ์ว่าอัตตามีอยู่ไซร้ คำพยากรณ์ของเรานั้นจักอนุโลมเพื่อความ
บังเกิดแห่งญาณว่าธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตาบ้างหรือหนออานนท์ : หามิได้ พระเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า : ดูก่อนอานนท์ ถ้าหากเราอันวัจฉโคตรปริพาชกถามว่า อัตตาไม่มี
หรือถ้าจะพึงพยากรณ์ว่าอัตตาไม่มีไซร้ คำพยากรณ์นั้นคงจักเป็นไปเพื่อความหลง
งมงายแก่วัจโคตรปริพาชกผู้งมงายอยู่แล้วว่า เมื่อก่อนอัตตาของเราได้มีแล้ว
แน่นอน บัดนี้ อัตตานั้นไม่มี ดังนี้
จบ อานันทสูตร
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล มหามกุฏราชวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ เล่มที่ 29 สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค หน้า 320
อรรถกถาอานันทสูตร บทว่า เตสเมตํ สทฺธึ อภวิสฺส ความว่า คำพยากรณ์นั้นจักเป็นอันเดียวกันกับลัทธิของสมณพราหมณ์เหล่านั้น
จักอนุโลมเพื่อความเกิดขึ้นแห่งญาณว่า สพฺเพ ธมฺมา อนฺตตา วิปัสสนาญาณว่า
สพฺเพ ธมฺมา อนฺตตา นี้ย่อมเกิดขึ้นคำพยากรณ์ของเรานั้น จักอนุโลม
บ้างหรือหนอ