พระไตรปิฎก
และอรรถกถาแปล ของมหามกุฏราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เล่มที่ 37 อังคุตตรนิกาย
อัฏฐกนิบาต ตั้งแต่หน้า 472 ปฐมทานสูตร
----------------------------------------------------------------------------------
ปฐมทานสูตร
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทาน
๘ ประการนี้ ๘ ประการเป็นไฉน คือบางคนหวังได้จึงให้ทาน ๑ บางคนให้ทานเพราะกลัว
๑
บางคนให้ทานเพราะนึกว่า เขาให้แก่เราแล้ว ๑ บางคนให้ทานเพราะนึกว่า เขาจักให้ตอบแทน
๑ บางคนให้ทานเพราะนึกว่า ทานเป็นการดี ๑ บางคนให้ทานเพราะนึกว่า เราหุงหากิน ชนเหล่านี้หุงหากินไม่ได้
เราหุงหากินได้ จะไม่ให้ทานแก่ชนเหล่านี้ ผู้ไม่หุงหากินไม่สมควร ๑ บางคนให้ทานเพราะนึกว่า
เมื่อเราให้ทานกิตติศัพท์อันงามย่อมฟุ้งไป ๑ บางคนให้ทานเพื่อประดับ ปรุงแต่งจิต
๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทาน ๘ ประการนี้แล
จบ ปฐมทานสูตร
อรรถกถาปฐมทานสูตร
วรรคที่ ๔ ปฐมทานสูตรที่
๑ มีวินิฉัยดังต่อไปนี้
บทว่า อาสชฺช ทานํ เทติ ความว่า บุคคลบางคน ให้ทานเพราะประจวบเข้า
คือพอเห็นปฏิคาหกมาถึง นิมนต์ให้ท่าน นั่งครู่หนึ่ง กระทำสักการะแล้วจึงให้ทาน
ย่อมไม่ลำบากใจว่า จักให้ บทว่า ภยา ได้แก่ เพราะกลัวครหาว่าผู้นี้เป็นผู้ไม่ให้เป็นผู้
ไม่ทำ หรือ เพราะกลัวอบายภูมิ บทว่า อสาทิ เม ความว่า ให้ด้วยคิดว่าผู้นี้ได้ให้สิ่งชื่อนี้แก่เราในกาลก่อน
ทสฺสติ เม ความว่า ให้ด้วยคิดว่า ผู้นี้จักให้สิ่งชื่อนี้แก่เราในอนาคต
บทว่า สาหุ ทานํ ความว่า ให้ด้วยคิดว่า ขึ้นชื่อว่าทานยังประโยชน์ให้สำเร็จ
คือดี ได้แก่อันบัณฑิตมีพระพุทธเจ้าเป็นต้นสรรเสริญแล้ว บทว่า จิตฺตาลงฺการจิตฺตปรกฺขารตฺถํ
ทานํ เทติ ความว่า ให้เพื่อ
ประดับและตกแต่งจิตในสมถะและวิปัสสนา เพราะว่าทานย่อมทำจิต ให้อ่อนโยน บุคคลผู้ได้รับทาน
ย่อมมีจิตอ่อนโยนดีว่าเรา
ได้แล้ว แม้บุคคลผู้ให้ทานนั้น ก็ย่อมมีจิตอ่อนโยนว่า เราให้ทานแล้ว เพราะฉะนั้น
ทานนั้นชื่อว่า ย่อมทำจิตของบุคคลทั้ง ๒ ฝ่ายให้อ่อนโยน เพราะเหตุนั้นนั่นแล ท่านจึงตรัสว่า
อทนฺตทมนํ การฝึกจิตที่ยังไม่ได้ฝึก ดังพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
อทนฺตทมนํ ทานํ อทานํ
ทนฺตทูสกํ
อเนน ปิยวาเจน โอณฺมนฺติ นมนฺติ จ
การให้ทานเป็นเครื่องฝึกจิตที่ยังไม่ได้ฝึก การไม่ให้ทานเป็นเครื่องประทุษร้ายจิตที่ฝึกแล้ว ชนทั้งหลาย มีจิตใจโอนอ่อน และน้อมลงด้วยปิยวาจานี้
ก็บรรดาการให้ทาน ๘ ประการนี้ การให้เพื่อประดับจิตเท่านั้น เป็นสูงสุดแล
จบอรรถกถาปฐมทานสูตร