LOCATION: [MY HOME] [FUTURE] [MY OFFICE] [MY KING] [MEMORIAL]
Nakhon Si Thamarat Province



Pramahathartjedi, Nakhon Si Thamarat
    Nakhon Si Thamarat is an ancient city in Southern Thailand with evidences of civilization in religion, arts and culture. Archaeological objects include stone weapons, indigenous grotto wall painting and one-faced bronze drum confirm the belif that human settlements in this land date back in thousands of years.

ประเพณีการแห่ผ้าขึ้นธาตุ ที่เมืองคอน.


นครศรีธรรมราช หรือ เมืองพระ ถือว่าเป็นเมืองโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเป็นดินแดนที่มีความผูกพันกับสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับพุทธศาสนา นครศรีธรรมราชได้ชื่อว่าเป็นเมือง "ศูนย์กลางแห่งพุทธศสานา ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย จนกระทั่งมีการยอมรับกันทั่วโลกว่าเป็น ดินแดนแห่งพุทธศาสน์ ปัญญาชนและคนช่าง.
สัญญลักษณ์ที่สำคัญที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาก็คือ "องค์พระนรมธาตุเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง ตามตำนานเล่าว่าผู้ที่นำพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐ์ไว้ ณ ที่แห่งนี้คือ พระนาง "เหมชลา" และ พระทนนกุมาร" ขณะนั้นบริเวณแห่งนี้เป็นชายหาดเรียกว่า "หาดทรายแก้ว" ต่อมาเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ได้สร้างพระสถูปเจดีย์ตามความเชื่อพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ครอบพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ในราว พ.ศ. 1300
ในช่วงที่นครศรีธรรมราชมีความเจริญร่งเรืองในทุก ๆ ด้านมากที่สุด ราว พ.ศ. 1700-1800 สมัยพระเจ้าจันทรภาณุ (พระเจ้าศรีธรรมโศกราช) ได้กรีธาทัพไปตีหัวเมืองต่าง ๆ ถึงแหลมมลายู ได้เมืองต่าง ๆ รวม 12 เมือง มาเป็นเมืองขึ้น จนมีชื่อเรีกเมืองนครศรีธรรมราชอีกชื่อหนึ่งว่า "เมือง 12 นักษัตร" และได้มีพระภิกษุจากประเทศศรีลังกาจำนวนมากนำพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ เข้ามาปลูกฝังหยั่งรากลึกและแผ่ขยายไปยังหัวเมืองต่าง ๆ ซึ่งเป็นเมืองบริวารและที่สำคัญได้สร้างสถูปเจดีย์แบบลังกาครอบสถูปเจดีย์เดิมเอาไว้ ซึ่งก็เป็นรูปทรงของ องค์พระบรมธาตุเจดีย์ มีความสูงจากพื้นถึงยอด 37 วา ยอดหุ้มทองคำหรือปลียอดทองคำหนัก 800 ชั่ง หรือประมาณ 600 กิโลกรัม บนส่วนปลายของปลียอดทองคำเรียกว่า "พุ่มข้าวบิณฑ์
ตามความเชื่อแต่โบราณเชื่อว่าฐานที่อยู่ภายในองค์พระปฐมเจดีย์ จะมีสระกว้างยาวเท่ากัน คือด้านละ 3 วา ความลึก 5 วา รองด้วยหินก้อนใหญ่ ๆ ข้าง ๆ ก่อยึดด้วยปูนเพชรและปูนขาวผสมน้ำอ้อยทุกด้าน ภายในสระจะมีสระเล็ก ๆ อีกสระหนึ่งหล่อด้วยปูนเพชรขนาดกว้างและยาว 2 วา ลึก 2 วา ในสระเล็กจะมีขันทองคำ ซึ่งภายในขันจะบรรจุผอบทอง ซึ่งมีพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ ส่วนน้ำในสระนั้นคือพิษพญานาค นอกจากนี้ที่มุมสระทั้ง 4 มุม จะมีตุ่มทองคำหนักตุ่มละ 38 คนหาม วางอยู่มุมละ 1 ตุ่ม
ประเพณีการแห่ผ้าขึ้นธาตุ นั้นได้มีการปฏิบัติติดต่อกันมายาวนาน โดยเชื่อว่าเกิดขึ้นในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย ราว พ.ศ. 1773 ซึ่งเป็นสมัยที่นครศรีธรรมราชกำลังเจริญรุ่งเรืองมาก ในสมัยของพระเจ้าสามพี่น้อง คือ พระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระเจ้าจันทรภาณุ และพระเจ้าพงษาสุระ ซึ่งในช่วงนั้นเมืองนครศรีธรรมราชกำลังจัดงานสมโภชองค์พระบรมธาตุเจดีย์กันอยู่ ก็ได้มีชาวหงสาวดีกว่า 100 คน เดินทางด้วยเรือสำเภาแล้วโดนพายุอัปปางกลางทะเลบริเวณชายฝั่งเมืองนครศรีธรรมราช (พื้นที่ อ.ปากพนัง ในปัจจุบัน) และมีผู้รอดชีวิตเพียง 10 คน โดยรอดชีวิตมาพร้อมด้วยผ้า พระบต ที่ถูกคลื่นซัดมาเกยชายฝั่ง ชาวปากพนังจึงช่วยเหลือชาวหงสาวดีพร้อมกับนำผ้า "พระบต" ซึ่งมีลักษณะเป็นผ้าสีมีลายเขียนเกี่ยวกับพระพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ไปถวายแก่พระเจ้าศรีธรรมโศกราช จึงให้นำผ้าพระบตขึ้นไปโอบห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ประเพณีแห่ผ้าขึ้ธาตุจึงเกิดขึ้นและปฏิบัติต่อเนื่องกันจนมาถึงปัจจุบัน
การแห่ผ้าขึ้นธาตุ จะกระทำกันในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 คือวัน "วิสาขบูชา" ต่อมาก็ได้ปฏิบัติกันในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือวัน "มาฆบูชา" นอกจากนี้ก็มีการปฏิบัติกันในวันอื่น ๆ โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนของทุกปี จะมีชาวพุทธจากทั่วสารทิศของโลก โดยเฉพาะชาวสิงคโปร์และมาเลเซีย เดินทางมานมัสการองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ด้วยแรงศรัทธาอันแรงกล้า และในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 คือวัน "วิสาขบูชา" ซึ่งจะตรงกับวันที่ 20 พ.ค.40 ก็จะมีการปฏิบัติตามประเพณี "แห่ผ้าขึ้นธาตุ" กันอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่สำคัญที่สุดในปีนี้
Back to Sun Thai Home Page.