อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๑๕. ปาฏิหาริย์หลวงพ่อวัดปากน้ำฯ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๑ เป็นวันรวมพลังผู้นำบุญ ทดแทนคุณผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

ผู้คนจำนวนมาก มาประชุมกันที่ อาคารสภาธรรมกายสากล (หลังใหม่) วัดพระธรรมกาย ภาคเช้า พระราชภาวนาวิสุทธิ์ แสดงพระธรรมเทศนา และสอนการปฏิบัติธรรมเป็นปกติ ประจำวันอาทิตย์ในเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ กลางวัน สาธุชนผู้พบเหตุการณ์ อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุเล่าประสบการณ์

ภาคบ่าย พระเดชพระคุณหลวงพ่อแสดงพระธรรมเทศนาเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ภาษีเจริญ และมีพิธีรับพระมหาสิริราชธาตุ หลังจากนั้นจึงร่วมเดินทางไปปฏิบัติธรรมอธิษฐานจิต และ ถ่ายภาพที่มหาธรรมกายเจดีย์

วัตถุประสงค์ในการจัดประชุมครั้งนี้มุ่งหมายเพื่อเชิญชวนสาธุชนสร้างพระธรรมกาย ประดิษฐานที่แกนกลางขององค์เจดีย์ บูชาพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ภาษีเจริญ โดยมีคำขวัญว่า ทุ่มชีวี...เหมาหมดแกนแทนคุณ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ภายใน ๕ ก.ย. นี้

เหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจริง ผู้คนนับ เป็นร้อยๆ คนเห็นด้วยตาตนเอง ต่างออกความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อ วัดปากน้ำฯ ครั้งนี้จะเล่าไว้เพียง ๒ รายก่อน หากมีโอกาสอาจทยอยเล่ารายอื่นๆ ต่อไป

รายแรกชื่อ คุณวรรณี ทองพิพัฒกุล ชาวกรุงเทพมหานคร เล่าว่า

เมื่อเลิกพิธีในวันอาทิตย์ที่ ๓๐ สิงหาคม ขณะเดินมาเพื่อขึ้นรถกลับบ้านพร้อมเพื่อนชื่อ ณัฐกมล ได้ยินเสียงชายสูงอายุผู้หนึ่ง ตะโกนเสียงดังลั่นว่า

หลวงพ่อสดอยู่บนดวงอาทิตย์ หลวงพ่อสดอยู่บนดวงอาทิตย์ หลวงพ่อสดอยู่บนดวงอาทิตย์

ทุกคนที่ได้ยินเสียงตะโกน ต่างพากันหยุดเดิน แล้วแหงนมองไปที่ดวงอาทิตย์ คุณวรรณีไม่กล้ามอง เต็มที่ เกรงแสงแดดทำอันตรายดวงตา จึงถามเพื่อนว่า "ณัฐ เธอเห็นมั้ย เห็นหลวงพ่อสดที่ดวงอาทิตย์มั้ย" เสียงเพื่อนตอบเต็มเสียงอย่างตื่นเต้น แสดงว่ากล้ามองดวงอาทิตย์ "นั่นไง หลวงพ่อ มีสีเหลือง สีชมพู สวยจริงๆ "

คราวนี้คุณวรรณีลืมกลัวแสงอาทิตย์ ทำอันตรายดวงตาเสียโดยสิ้นเชิง มองดวงอาทิตย์เต็มตา แสงอาทิตย์ไม่แผดกล้า กลับมีสีเหลือง สดใสปนกับสีชมพูเข้มบ้างอ่อนบ้าง เหมือนสีกลีบบัว มองได้เต็มตา ไม่ระคายเคือง คุณวรรณีเห็นดังนั้นก็คิดว่า แสงแดดไม่แผดจ้าเพราะมีเมฆก้อนใหญ่บังไว้นี่เอง เมฆทำให้ พระอาทิตย์สะท้อนแสง เป็นสีสวยมากจริงๆ

ครั้นมองไปยังก้อนเมฆที่หุ้มดวงอาทิตย์อยู่ก็ต้องตกตะลึง ลักษณะก้อนเมฆเป็นรูปร่างหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ภาษีเจริญอยู่ในท่านั่งสมาธิ มีดวงอาทิตย์สีสวยงามอยู่ กลางท้องท่าน เห็นรูปร่างชัดเจน ส่วนสัดของร่างกายบริบูรณ์ครบตั้งแต่ศีรษะ ลำคอ ไหล่ ช่วงแขน ลำตัว กระทั่งท่อนขานั่งขัดสมาธิ จะมองเป็นภาพอื่นไปไม่ได้เลย คุณวรรณีและเพื่อนยืนดูอยู่นานประมาณ ๕ นาที ด้วยความปีติใจ แล้วจึงเดินทางกลับ

ขณะนั้นเกิดความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่า ภายในวันที่ ๕ กันยายนนี้ จะต้องมีผู้นำบุญสร้างองค์พระ ครบจำนวนแน่นอน หลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ท่านแสดงปาฏิหาริย์ให้กำลังใจ สำหรับตัวคุณวรรณีเองตั้งใจตั้งแต่เช้า มาแล้ว ขณะที่เห็นพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ท่านฉันยา ระหว่างที่แสดงพระธรรมเทศนา ในใจคิดว่า หลวงพ่อเจ้าขา หลวงพ่อไม่สบาย หนูสงสารหลวงพ่อ หนูต้องช่วยชวนคนทำบุญสร้างพระบูชาคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ตามที่ หลวงพ่อตั้งใจให้สุดกำลัง ต้องสร้างให้ครบจำนวนอย่างช้าวันอาทิตย์ที่ ๕ กันยายนนี้ให้ได้

ขณะที่เล่าเรื่องให้ฟังทางโทรศัพท์ ในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๔๑ คุณวรรณีได้ชักชวนผู้คนทำบุญ ได้แล้วประมาณสิบกว่าราย ส่วนคุณณัฐกมล ทำงานอยู่กับบิดามารดา พูดกับคุณวรรณีในขณะเห็นเหตุการณ์ ปาฏิหาริย์ว่า คืนนี้ฉันจะต้องขอเงินพ่อแม่ สร้างพระถวาย หลวงพ่อสด ให้ได้ ขอเอาใจช่วยให้สำเร็จ และชักชวน คุณพ่อคุณแม่ รวมทั้งญาติสนิท มิตรสหายให้ได้อีกหลายๆ คน อย่าให้น้อยหน้า คุณวรรณีเป็นอันขาด ได้เห็น ปฏิหาริย์ด้วยตาตนเองทั้งสองคน อนุโมทนาบุญด้วยจริงๆ

รายที่สอง คุณนงชนก ปัญญาจงเจริญ พนักงานองค์การโทรศัพท์ เล่าให้ฟัง เมื่อวันที่ ๑ กันยายนว่า

เมื่อเลิกพิธีในตอนเย็นวันที่ ๓๐ สิงหาคม ขณะเดินตามทางเพื่อมาขึ้นรถ พร้อมเพื่อนและญาติๆ ของเพื่อน มีคุณนิตยา คุณเรณู คุณนพเกล้า นามสกุล ขันธ์นภา ทุกคน เพราะเป็น พี่น้องสามสาวโสด คุณประเทือง เป็นญาติข้างสามีของลูกพี่ลูกน้อง หลานสาวหนึ่งคน และญาติอีกสองคน

ขณะเดินจากมหาธรรมกายเจดีย์มาได้ประมาณ ๑๐ นาที เสียงเด็กสาวคนหนึ่งในหมู่คนที่เดินตามมา ข้างหลังพูดเสียงดังกับมารดาด้วยความตื่นเต้นว่า ม่จ๋า ดูซี รูปหล่อทองคำหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ อยู่ในดวง อาทิตย์ หลวงพ่ออยู่ในดวงอาทิตย์ ดูซีแม่ ดูซีแม่

ทุกคนที่ได้ยินเสียงเด็กสาวต่างพากันหยุดเดิน ยืนนิ่งอยู่กับที่ หันหน้ามองดวงอาทิตย์กันหมด ต่างพากันเห็นด้วยสายตาตนเองอย่างชัดเจน กระทั่งภาพปาฏิหาริย์เปลี่ยนแปลงปรากฏการณ์ไปต่างๆ นานา ทุกคนก็เห็นเหมือนกันหมด ดังนี้คือ

เริ่มต้นเห็นเหมือนรูปหล่อทองคำสุกปลั่งของหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ อยู่กลางดวงอาทิตย์ ครั้นแล้ว รูปหล่อก็ขยายขนาดออกช้าๆ กระทั่งคลุมดวงอาทิตย์ทั้งดวง กลายเป็นพระอาทิตย์อยู่ในท้องรูปหล่อทองคำ เวลานั้นท้องฟ้าใสสะอาด ปราศจากเมฆหมอก รูปทองคำองค์ใหญ่จึงชัดเจนมาก ลอยทาบท้องฟ้าอยู่

ตอนนี้ญาติผู้ชายชื่อคุณประเทือง ของกลุ่มสามสาวโสดทรุดตัว คุกเข่าลงกับพื้นดิน ก้มกราบแล้ว กราบเล่า ๓ ครั้ง (ปกติเป็นคนเชื่ออะไรยาก แต่ภาพที่เห็นชัดเจนมากจนหมดความดื้อ) พร้อมกับส่งเสียงพูดว่า หลวงพ่อครับ ขอให้ลูกเข้าถึงพระธรรมกายโดยเร็วพลันด้วยครับ

จากนั้นภาพหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ทองคำก็เปลี่ยนเป็นสีต่างๆ คือจากสีทองสุกปลั่ง เป็นสีเหลือง สีส้ม สีชมพูแก่ และเป็นสีฟ้าครามเข้มตัดกับสีฟ้าของพื้นท้องฟ้า ทั้งภาพหลวงพ่อยังย้ายที่ตั้งไปต่างๆ มีทั้งอยู่ในดวงอาทิตย์ ออกมานอกดวงอาทิตย์ ย้ายมาอยู่ข้างขวาบ้าง ซ้ายบ้าง ข้างล่างบ้าง ข้างบนบ้าง รอบๆ ดวงอาทิตย์ พอภาพเปลี่ยนที่ตั้ง คนเห็นก็ร้องถามกัน ทุกคนก็ตอบว่าเห็นตรงกันเป็นส่วนมาก ส่วนบางคนเห็นเป็นพระมหาสิริราชธาตุก็มีอยู่หลายราย มีน้อยคนเต็มทีที่เห็นแต่แสงอาทิตย์มีสีสวยงามแปลกตา ไม่เห็นรูปร่างอย่างอื่น ขณะนั้นผู้คนยืนดูกันเป็นกลุ่มๆ รวมแล้วเกินกว่าร้อยคน

เมื่อยืนชมนานพอสมควรราว ๑๐ นาที ก็พากันเดินต่อ มาจนกระทั่งถึงรถยนต์ที่จอดอยู่ คุณนงชนก แหงนมองท้องฟ้าอีกครั้ง ก่อนก้าวขาขึ้นรถ ครั้นแล้วต้องตกตะลึงอีกครั้ง เมื่อปรากฏว่าทางด้านทิศตะวันออก เฉียงเหนือของมหาธรรมกายเจดีย์ ท้องฟ้าเบื้องบน มีรูปร่างชัดเจนเป็นรูปหล่อทองคำสุกปลั่งของหลวงพ่อ วัดปากน้ำ ฯ ลอยเด่นอยู่ ขนาดใหญ่โตนับเป็นสิบๆ เท่าของรูปที่ลอยอยู่กับดวงอาทิตย์ รูปนี้อยู่ทิศตรงข้าม กับดวงอาทิตย์ วงหน้าของรูปหล่อเป็นสีชมพูเข้ม ส่วนตรงบริเวณองค์ท่านเป็นสีส้มทั้งองค์

คุณนงชนก ตะโกนเรียกให้ใครๆ ดูกันอีกครั้ง ต่างก็พากันเห็น รูปนั้นปรากฏอยู่นานหลายนาที ในที่สุดภาพทั้งหมด จึงจางชมพูเข้มและสีส้ม กลายเป็นสีฟ้าครามเข้ม ตัดกับสีฟ้าธรรมดาของท้องฟ้าชัดเจนอีกครู่ใหญ่ แล้ว จึงจางหายไป

รายนี้เห็นแล้วมีกำลังใจเช่นเดียวกับรายแรก พร้อมที่จะชักชวนผู้คนทำบุญสร้างองค์พระบูชาคุณหลวงพ่อ วัดปากน้ำฯ ยังเล่าเพิ่มเติมถึงอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุว่า เธอปรารถนาได้ไว้บูชาสักหนึ่งองค์ แต่เมื่อมีเงิน ไม่พอทำบุญ ก็ไม่ต้องการยืมใคร เวลานั่งสมาธิครั้งใดก็คิดถึงแต่องค์พระมหาสิริราชธาตุ จนบางครั้งเห็นองค์ท่าน ชัดเจนอยู่ในศูนย์กลางกาย จึงอธิษฐานขอพรจากท่านว่า หากตนเองมีบุญจะได้เป็นเจ้าของแล้ว ขอให้มีคนเอาเงินมา ใส่มือให้ยืมด้วยความเต็มใจ ไม่ต้องออกปาก

พอออกจากสมาธิ เพื่อนชื่อ คุณนพเกล้า ออกปากให้ยืมเงินโดย โอนเงินจากบัญชีเข้าวัดให้ในชื่อทำบุญ ของคุณนงชนก ในวันที่ ๑๙ สิงหาคม พอวันที่ ๒๓ สิงหาคม ยังไม่ถึงวันกำหนดรับพระมหาสิริราชธาตุ แต่มีผู้มี สิทธิ์รับติดธุระมาวัดไม่ได้ คุณนงชนกได้รับสิทธิ์แทน เมื่อรับไปแล้ว นำกลับไปบ้านใช้ไฟฉายส่องดูเห็นที่ เนื้อหินระหว่างอุณาโลมขององค์พระมีเหมือนเพชรเม็ดเล็กๆ สะท้อนแสงไฟฉายสุกสว่าง เป็นประกายระยิบ ระยับเหมือนแสงเคลื่อนไหวดิ้นได้ ทำให้นึกชมช่างผู้ทำว่า เก่งจริงนะ เอาเพชรเม็ดเล็กนิดเดียว ฝังไว้ในเนื้อหิน ได้ยังไง

ขณะเดียวกันก็คิดขึ้นมาว่า พระองค์นี้มีลักษณะพิเศษไม่เหมือน ของคนอื่นๆ น่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่พระเดช พระคุณหลวงพ่อฝึกฝนจนได้ สมาธิขั้นสูง (ทำวิชชา) แล้วถ้าอย่างไรควรนำไปถวายคืนพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ดีกว่า

สัปดาห์ถัดมา ในวันอาทิตย์จะนำพระไปถวายคืน นำออกมาดูอีกครั้ง มองไม่เห็นเพชรสุกใสตรงอุณาโลม ของท่านอีกแล้ว จึงตกลงใจ แขวนคอไว้อย่างเดิม นั่งทำสมาธิจิตตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนเป็นประจำ ทุกวันอาทิตย์ในพรรษานี้ โดยนึกอาราธนาพระมหาสิริราชธาตุ ไว้เป็นนิมิตที่ศูนย์กลางกายเหมือนเคย เมื่อออกจากสมาธิ บังเอิญองค์พระที่ห้อยคออยู่ ท่านแกว่งกลับด้านหลังออกมาทางหน้า

คนที่นั่งใกล้ทักว่า ทำไมด้านหลังองค์พระ ของคุณเป็นรูปใบโพธิ์สีแดง เต็มเกือบทั้งองค์เลย ดีจังนะ คุณนงชนกรู้สึกแปลกใจมาก เพราะวันแรกที่รับองค์พระ ไป สังเกตดูแล้ว ทั้งส่องด้วยไฟฉายอย่างถี่ถ้วน นอกจากเห็นเพชรที่อุณาโลม แล้ว ธาตุสีแดงขยายจนเกือบเต็มหลัง และยังเป็นรูปใบโพธิ์ชัดเจนอีก

พบความอัศจรรย์อย่างนี้แล้ว คุณนงชนกถือว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ ของพระของขวัญของเธอแสดง อานุภาพให้เห็น ทำให้มีศรัทธาเลื่อมใสยิ่งขึ้น ตั้งใจร่วมงานบุญ ช่วยกิจการของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อจนสุดกำลัง


[สารบัญ] [ ๑๑ ] [ ๑๒ ] [ ๑๓ ] [ ๑๔ ] [ ๑๕ ] [ ๑๖ ] [ ๑๗ ] [ ๑๘ ] [ ๑๙ ] [ ๒๐ ]