เรื่องนี้ ร้อยตำรวจโท นฤชิต จุสะปาโล เล่าว่า
เคยมาบวชธรรมทายาทรุ่นขุนพลแก้วที่วัดพระธรรมกาย เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ ขณะกำลังเป็นนักเรียน นายร้อยตำรวจปีที่ ๒ จากนั้น กระแสโลกก็ซัดไปเสีย ๕ ปี ถูกคลื่นปัญหาการงานซัดกระหน่ำ จึงคิดถึงวัดขึ้นมาได้ กลับมาวัดอีกในปีพ.ศ.๒๕๔๐ หากไม่ทอดทิ้งบุญไป มาทำบุญให้ต่อเนื่อง หลังจากลาสิกขาแล้ว ๕ ปี คงได้บุญค้ำชูชีวิตไว้ ไม่มีทางอับจน
กลางปี พ.ศ.๒๕๔๐ ต้องหวนกลับเข้าวัด นึกอธิษฐานให้บุญช่วย เพราะเวลานั้นกำลังรับราชการเป็น นายตำรวจอยู่ที่ สน.พลับพลาไชย ๒ เป็นพนักงานสอบสวน จึงพอมีเวลาไปเรียนต่อปริญญาโทที่ มหาวิทยาลัยมหิดล ตอนปลายปี พ.ศ.๒๕๔๐ ได้ทำเรื่องขอย้ายเปลี่ยนสายงาน คือ เป็นรองสารวัตรจราจร ที่สถานีตำรวจแห่งเดียวกัน เพื่อจะได้มีเวลาพอไปเรียนต่อสะดวกขึ้น แต่เรื่องกลับเงียบหายไป
วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ มีคำสั่งฟ้าผ่า ให้ย้ายไปเป็นพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ซึ่งมีผลกระทบหลายประการ เช่นต้องคืน บ้านพักหลวง ยังไม่ทราบ จะไปพักที่ไหน งานที่แห่งใหม่นั้น มากกว่าที่เดิมเกือบ ๑๐ เท่า จะมีเวลาที่ไหน ไปเรียนปริญญาโทให้จบ เรียกว่า ยิ่งกว่าหนีเสือปะจระเข้
ร.ต.ท.นฤชิตเครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ น้ำหนักตัวลดฮวบฮาบลง ๕ กิโลกรัม จึงพยายามวิ่งเต้นสุดกำลัง เพื่อขอความช่วยเหลือ จากผู้ที่คิดว่า จะพึ่งได้ เวลานั้น เท่าที่ทราบ เป็นการภายใน คำสั่งราชการออก แล้วและเป็นคำสั่งที่ผู้บังคับบัญชา กลั่นกรองกัน อย่างละเอียด ถี่ถ้วน มาแล้วอย่างน้อย ๔ เดือน ก่อนที่ประกาศ การแก้ไขเป็นเหตุสุดวิสัยอย่างยิ่ง
ร.ต.ท.นฤชิตขอความช่วยเหลือจากญาติผู้หนึ่ง ซึ่งทำงานอยู่ที่สำนักงานรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย ท่านรับปากว่าจะดูให้ แต่เมื่อโทรไปถามได้รับคำตอบว่า ช่วยไม่ได้
รายที่สอง ติดต่อเพื่อนรุ่นพี่ซึ่งรู้จักกันดี เป็นนายตำรวจติดตามรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงมหาดไทย ขอให้ย้ายคุณนฤชิตกลับโรงพักเดิม แต่ไม่สำเร็จ ฝ่ายนั้นอ้างว่า คำสั่งเพิ่งออก ต้องรอสักระยะหนึ่ง
รายที่สาม ขอให้บิดาของเพื่อนรุ่นน้อง ซึ่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลช่วยก็ถูกปฏิเสธอีก
วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ เดินทางไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยมหิดล คิดว่าคงเป็นวันสุดท้าย ที่ได้เรียน จากนี้ไป ต้องไปทำงาน หามรุ่ง หามค่ำ เรียนไม่ได้อีกแล้ว วันนั้นได้พบกับหลวงพี่ โสภณ (เป็นนักศึกษาปริญญาโทด้วยกัน) ท่านชวนทำบุญองค์พระ ที่แกนกลาง มหาธรรมกายเจดีย์ ร.ต.ท.นฤชิตไม่มีเงินพอ ทำบุญทั้งองค์ จึงร่วมบุญกับหลวงพี่ท่าน ๓๐๐ บาท ฟังหลวงพี่เล่าถึง อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุแล้ว ศรัทธามาก จึงขอยืมพระของขวัญ ของหลวงพี่มาพนมไว้ในมือ ตั้งจิตทำสมาธิ แล้วอธิษฐานขอพรท่าน ในศูนย์กลางกายว่า ขอให้ผม อย่าถูกย้ายไป อยู่ที่ใหม่เลยครับ
วันที่ ๑๕ กันยายน ญาติแจ้งให้ทราบว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยินยอมแก้คำสั่งให้แล้ว โดยเป็นคำสั่งแก้ไขเพียงรายเดียวจาก ๒๕๒ ราย ทำให้ผมรู้สึกอัศจรรย์มาก ทั้งได้อยู่ในตำแหน่ง ที่เคยขอไว้เดิม ซึ่งเงียบหายไปครั้งโน้น คือได้เป็นรองสารวัตรจราจร สน.พลับพลาไชย ๒ ทำให้มี เวลาไปเรียนได้ตามปกติ
ร.ต.ท.นฤชิตดีใจมาก ในความอัศจรรย์ที่บังเกิดขึ้น จนกระทั่งเพื่อนๆ ร่วมงานให้สมญาว่าเป็น ไชยา มิตรชัย (นักร้องเจ้าของเพลงชื่อ ไม่ธรรมดา) แต่ร.ต.ท.นฤชิตยืนยันว่า ในใจของผมทราบดีว่า เป็นเพราะอานุภาพ ของพระมหาสิริราชธาตุ อานุภาพบุญ ที่ผมสะสมมา รวมทั้งความ เมตตากรุณา อย่างยิ่งของญาติท่านนั้น ทำให้ไม่ต้องย้ายที่ทำงาน และทำให้ผมมีกำลังใจ ในการสร้างบุญ ในขณะนั้น ผมมีเงินเก็บอยู่ ประมาณ หมื่นบาท เพื่อไว้เสียค่าเล่าเรียน ภาคที่สอง แต่ผมตัดสินใจ นำเงินมาสร้างพระธรรมกาย ประจำตัวให้คุณแม่ เพื่อบูชาธรรม หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งผมรู้สึกปีติ ปลาบปลื้มใจในผลบุญครั้งนี้มาก
[สารบัญ] [ ๖๐ ] [ ๖๑ ] [ ๖๒ ] [ ๖๓ ] [ ๖๔ ] [ ๖๕ ] [ ๖๖ ] [ ๖๗ ]