อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๑๑๒.ดลบันดาลให้แม่มีสัมมาทิฏฐิ

คุณวรศักดิ์ ขันทอง เล่าว่า

ในคืนวันหนึ่งจะต้องทำงานด่วนส่งอาจารย์ เพราะกำลังเรียนปริญญาโทอยู่ ไฟฟ้าเกิดดับอย่างกระทันหัน ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ และขณะไฟดับนั้น ทางบ้านคุณพ่อได้โทรศัพท์มาบอกว่า คุณแม่ป่วยหนัก ทั้งอาเจียนและปัสสาวะเรี่ยราด คุณวรศักดิ์มีพระมหาสิริราชธาตุ ติดตัวอยู่ จึงตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้ท่านช่วยแก้ปัญหา ทั้ง ๒ เรื่องคือ เรื่องไฟฟ้าดับ และขอให้คุณแม่หายป่วย

นับเป็นเรื่องแปลก ไฟฟ้าดับไปประมาณ ๒๐ นาทีก็ติด ข้อมูลต่างๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ยังอยู่ไม่เสียหาย เพราะปกติแล้ว ถ้าไฟดับที่บ้าน แต่ละครั้งจะดับอยู่นานครั้งละ ๖-๘ ชั่วโมง เมื่อคุณวรศักดิ์โทรศัพท์ไปที่บ้านถามอาการของคุณแม่ คุณพ่อของคุณวรศักดิ์บอกว่า ได้อธิษฐานจิต ขอพรพระมหาสิริราชธาตุตามที่บอก ปรากฏว่าแม่ไม่เป็นอะไรแล้ว กำลังนอนให้น้ำเกลือ ดูโทรทัศน์สบายใจอยู่ คุณวรศักดิ์รู้สึกโล่งใจ และเชื่อมั่น ในอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุอย่างเต็มที่

ต่อมาใกล้งานทอดกฐินของวัด คุณพ่อโทรศัพท์มาแล้วบอกว่า แม่มีอาการป่วยหนักมาก เวลานี้ทุกคนมาพร้อมหน้ากันหมดแล้ว ให้คุณวรศักดิ์เดินทางกลับบ้านภายในคืนนี้ให้ได้

คุณวรศักดิ์ได้ใช้วิธีเดิมบอกกับคุณพ่อว่า ที่คอของคุณแม่มีพระมหาสิริราชธาตุแขวนอยู่ ให้ช่วยกันสวดสรรเสริญ และทำสมาธิอธิษฐาน ให้แม่หายป่วย ส่วนคุณวรศักดิ์มีพระมหาสิริราชธาตุกรอบพญานาคสี่สี ระหว่าง นั่งรถทัวร์กลับบ้าน ก็อธิษฐานขออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ได้ช่วยให้คุณแม่ หายป่วยด้วย

เมื่อไปถึงที่บ้าน ปรากฏว่า คุณแม่ของคุณวรศักดิ์หายป่วยแล้ว โดยแม่ได้เล่าว่า ในช่วงเวลาที่อาการหนักมาก คลานอยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน ตาม ลำพังคนเดียว ทั้งถ่าย ทั้งอาเจียน คิดว่าตนเองต้องตายแน่นอน ก็ได้นึกถึงพระมหาสิริราชธาตุที่ตนเองห้อยคออยู่ จึงอธิษฐานขอพรจากท่าน อาการทุกอย่างก็ค่อยยังชั่วทันที วันรุ่งขึ้นอาการป่วยก็หายไป และเมื่อไปให้แพทย์ตรวจร่างกาย ก็ไม่พบโรคอะไรเลย จนแพทย์เองก็แปลกใจ

ต่อมาเป็นเหตุการณ์ที่เกิดกับพี่เขยของคุณวรศักดิ์ มีอาชีพเป็นวิศวกรในโรงงานแห่งหนึ่งที่สมุทรปราการ พี่สาวคุณวรศักดิ์โทรศัพท์มา บอกว่า เกิดเหตุการณ์ปั๊มลมในโรงงานระเบิด สะเก็ดระเบิดเป็นเหมือนแผ่นสังกะสี บางๆ คล้ายใบมีดโกนหนวด ปลิวเป็นหมื่นๆ ชิ้น พี่เขย ถูกสะเก็ดดังกล่าวทั้งตัว โดยเฉพาะร่างกายซีกขวา และมีส่วนหนึ่งกระเด็นเข้าตาด้วย เมื่อได้ทราบข่าว คุณวรศักดิ์รีบส่งหนังสืออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ และภาพถ่ายไปให้ พี่สาวอธิษฐานก่อน แล้วให้วางไว้ที่หัวเตียงคนป่วยที่โรงพยาบาล

เมื่อคุณวรศักดิ์ไปเยี่ยม เห็นสภาพแล้วตกใจมาก แขนถูกผ้าพันทั้งหมด ดวงตาดำเป็นสีเทา ตาขาวเป็นสีแดงๆ เหมือนมีเลือดออก จึงรีบถอดพระมหาสิริราชธาตุกรอบพญานาคสี่สีของตนเองออกให้คนป่วยได้อธิษฐาน แล้วเตือนพี่สาวว่า ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว ไปแค่ ๔,๐๐๐ บาท ยังไม่ครบองค์ ควรทำเสียให้ครบ บุญจะได้ช่วยพี่เขยได้อย่างเต็มที่

พี่สาวตกลง พากันไปกดเงินที่ตู้บริการเอทีเอ็ม ขณะเดินไปนั้น คนป่วย ก็ยังนอนให้น้ำเกลือ มีสายระโยงระยางเต็มไปหมด เมื่อพี่สาว เบิกเงินมอบให้คุณวรศักดิ์เรียบร้อยแล้ว พากันขึ้นมาหาคนป่วยอีกครั้ง พบว่าแพทย์ถอดสายทุกอย่างออกจากตัวคนป่วยแล้ว คนป่วยลุกขึ้นไป ส่องกระจก ตายังมองเห็นเป็นปกติ นั่งคุยต่อกันได้อีกนานเป็นอัศจรรย์

ต่อจากเรื่องของพี่เขย ก็เป็นเรื่องของคุณวรศักดิ์เอง วันนั้นกลับจากการไปฟังสัมมนาเรื่องมหาธรรมกายเจดีย์และวิกฤตปี ค.ศ.๒๐๐๐ นั่งรถเก๋งมากัน ๕ คน โดยมีน้องสาวเป็นคนขับ ฝนตกหนักมาก ขณะที่กำลังเลี้ยวรถกลับ น้องสาวไม่ทันสังเกตว่ารถที่วิ่งมาเป็นรถพ่วง คิดว่าเป็นรถธรรมดา จึงวิ่งเข้าท้ายรถท่อนแรกลอดออกไป ทุกคนในรถเห็นชัดเจนว่า รถเก๋งถูกรถพ่วงท่อนหลังชนจนเอียง คุณวรศักดิ์คิดว่า รถต้องถูกชนเสียหายมาก ต่างนึกถึงพระมหาสิริราชธาตุกันตลอดเวลา เมื่อพ้นออกมาได้ จอดข้างทางลงมาดูสภาพรถ ปรากฏว่า ไม่มีอะไร เสียหายเลย สีไม่ถลอก กระจกเป็นปกติ มีฝารถด้านซ้ายบุบไปเพียงนิดเดียว

ส่วนเรื่องสุดท้ายเป็นอานุภาพที่ยิ่งใหญ่คือ แต่เดิมคุณแม่ของคุณวรศักดิ์ชอบดื่มสุรา โดยเฉพาะเหล้าขาว ลูกชายบอกให้เลิกหลายครั้ง ก็ไม่สนใจ คุณวรศักดิ์เฝ้าอธิษฐานจิตต่อพระมหาสิริราชธาตุอยู่เสมอ ขอให้คุณแม่เลิกดื่ม ส่วนคุณพ่อนั้น ครั้งใดที่ทราบว่าคุณแม่ดื่มเหล้า คุณพ่อจะโกรธมาก

เมื่อแม่ได้พบอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุด้วยตนเองแล้ว รวมทั้งลูกชายอธิษฐานขอพรอยู่บ่อยๆ คุณแม่ก็ได้เลิกดื่มสุรา และรักษาศีล ๕ เคร่งครัดบริบูรณ์ แม่จะสวดบทสรรเสริญอย่างน้อยวันละ ๓ ครั้ง แล้วนั่งสมาธิตามคำสอนในเทป

การเปลี่ยนแม่ให้เป็นสัมมาทิฏฐิได้ คุณวรศักดิ์ถือว่าเป็นอานุภาพมหัศจรรย์สูงสุด เมื่อลูกแนะนำสิ่งใด ทั้งพ่อแม่จะเชื่อ และทำตาม โดยไม่มีสิ่งใดเคลือบแคลงสงสัย ซึ่งคุณวรศักดิ์ได้พูดฝากไว้ว่า

สิ่งที่ทำให้ผมดีใจมากที่สุดคือ อยากให้ทุกท่านได้มาร่วมสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ ขอให้ภูมิใจว่าวันนี้ เรามายืนอยู่ในจุดนี้ คือจุดที่เรา ร่วมใจกันสร้าง ขอให้นึกภาพดู อีกปีเศษๆ ข้างหน้านี้ รถทุกคันในถนนทุกสาย จะมุ่งมาสู่วัดพระธรรมกาย เราจะเป็นบุคคลหนึ่ง ที่น้ำตาไหลด้วย ความปีติใจ เราจะยืดอกด้วยความภาคภูมิใจและปีติใจอย่างสูงสุดว่า เราคือผู้สร้างมหาธรรมกายเจดีย์

เรื่องหายจากเจ็บป่วย เป็นเรื่องเฉพาะราย เฉพาะตัว จะยึดเอาเป็นจริงเป็นจังตายตัวว่า อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ช่วยอาการป่วย ทุกชนิดไม่ได้ ถ้าป่วยด้วยเรื่องของจิต เรื่องของดินฟ้าอากาศ เรื่องของอาหารการกิน ต้องแก้กันให้ถูกต้อง ที่หายด้วยอานุภาพ จากการสร้างกุศล โดยการอ่อนน้อม ในพระรัตนตรัยนั้น เป็นโรคที่เกิดจากกรรม และต้องเป็นกรรมที่กำลังให้ผล เบาบางอยู่ เมื่อมีบุญเข้ามาช่วย ก็จะช่วยตัดรอน ให้เป็นอโหสิกรรมได้


[สารบัญ] [๑๑๑] [๑๑๒] [๑๑๓] [๑๑๔] [๑๑๕]