คุณยุพิน ชนะโรค อยู่ที่ อ.บางกะปิ กรุงเทพฯ เล่าว่า
เข้าวัดพระธรรมกายครั้งแรก ในงานพิธีตอกเสาเข็มต้นแรกสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ ในตอนนั้นยังมีศรัทธาไม่เต็มที่ พอมีคนชวนทำบุญ สร้างพระธรรมกายประจำตัว และเต็มใจให้ยืมเงินทำบุญ จึงยอมทำ นับเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่กล้าทำบุญถึง ๑ หมื่นบาท แต่เมื่อนำใบอนุโมทนา บัตรไปให้พี่สาวดู พี่สาวกลับมีศรัทธาสร้างองค์พระถึง ๗ องค์ ทำให้คุณยุพินตัดสินใจสร้างองค์พระเพิ่ม ให้คุณพ่ออีก ๑ องค์
ต่อมาเธอได้มีโอกาสไปปฏิบัติ ธรรมกับหมู่คณะที่เชียงใหม่ พบว่าเป็นช่วงเวลาของชีวิตที่มีความสุขมากที่สุด ไม่เคยมีความสุขอย่างนี้ มาก่อนเลยในชีวิต ไม่ว่าจะไปแสวงหาจากการไปต่างประเทศไหนๆ ก็ไม่ได้ความสุขเท่ากับการปฏิบัติธรรม สุขจนอธิบายไม่ถูก เคยมีความสุข จากการใช้เพชรนิลจินดาแต่งกาย จนถูกคนร้ายจี้ นับครั้งไม่ถ้วน ก็ยังไม่เข็ด ซื้อมาแต่งใหม่อยู่เรื่อยๆ จนกระทั่ง ได้พบความสุขที่แท้จริง จากการมาปฏิบัติธรรมแล้ว จึงเลิกใส่เครื่องประดับ
ต่อมาได้ชมวีดีทัศน์ประวัติชีวิตของคุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง รู้สึกรักท่านมากสุดชีวิต เพราะนอกจากสอนตรงๆ แล้ว ท่านยังทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ได้ฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่อสอน ฟังหลวงพี่สอน รู้สึกประทับใจมากๆ และเมื่อได้ใกล้ชิดเห็นการทำงานของวัด เปรียบคนมาทำบุญเหมือนเอาน้ำมาหยดให้วัดทีละหยด แต่การทำงานใหญ่ของวัดแต่ละอย่างๆ เพื่อคนทั้งโลกนั้น ต้องใช้จ่ายเหมือนสูบน้ำออก ด้วยท่อสูบน้ำขนาดใหญ่
คุณยุพินเห็นแล้วรู้สึกทนไม่ได้ งานของหลวงพ่อใหญ่มาก จะทนอยู่ไม่ได้ แต่เดิมทำมาหากินได้ เฝ้าแต่เก็บเงินไว้อย่างเดียว เก็บได้เท่าใด ก็ไม่รู้สึกเป็นสุขสักที แล้วไม่รู้จะเก็บไปทำอะไร จึงไปปิดบัญชีนำเงินมาทำบุญ และหลังจากนั้น ก็มีแต่สิ่งดีๆ มาสู่ครอบครัวเสมอ ลูกสาวได้ แข่งขันเล่านิทานภาษาอังกฤษ ๑๓ โรงเรียน ได้เป็นที่หนึ่ง ชนะมา ๒ ครั้งแล้ว แต่เดิมไม่ชนะ เพราะจะตื่นเวที ลืมเนื้อเรื่อง ลืมเนื้อเพลง ปัจจุบัน เมื่อแม่เตือนให้นึกถึงองค์พระที่แขวนคอ ให้พระมหาสิริราชธาตุอยู่ที่ศูนย์กลางกาย แข่งขันอะไร ชนะหมดทุกอย่าง โดยเฉพาะการแข่งขัน ครั้งล่าสุดนี้ สามารถเอาชนะเด็กที่โตมาจากต่างประเทศด้วย
ส่วนสามีของเธอ แต่เดิมชอบดื่มเหล้า ไม่เคยสนใจเรื่องการปฏิบัติธรรม ไม่สนใจเรื่องการทำบุญและถือศีลเลย พูดกับภรรยาเสมอว่า ผมเชื่อในความสามารถของผม ผมไม่ห้ามคุณเรื่องการทำบุญ ถือศีล ปฏิบัติธรรม คุณก็ไม่ต้องมาห้ามเรื่องของผม
ต่อมาเกิดเหตุวิกฤติทางธุรกิจหนักมาก ทำให้สามีถึงกับนอนก่ายหน้าผาก บอกภรรยาว่า ครอบครัวกำลังจะเหลือแต่ตัวแล้ว ภรรยาเตือนว่า ควรจะลองเชื่ออานุภาพของการทำบุญบ้าง แล้วพาสามีมากราบพระอาจารย์ พระอาจารย์ท่านบอกว่า ไม่ต้องคิดอะไรมาก ให้ทำใจให้ใส และ ให้ถือศีล ๕
ถึงเวลาธุรกิจวิกฤติคับขันมาก สามีจึงยอมถือศีล ๕ ยอมรับเหรียญปราบมารไปแขวนคอ เพราะไม่มีสิ่งใดเป็นที่พึ่งอีกแล้ว คุณยุพิน แนะนำว่า เวลาพูดกับคนที่ต้องไปติดต่อด้วย แม้เขาจะทำไม่ดีกับเรา ก็พูดกับเขาโดยดี นึกถึงพระปราบมารไว้ที่กลางท้อง และตั้งใจอธิษฐานจิต ให้คนนั้นอยู่เป็นสุข แผ่เมตตาให้ ไม่คิดอาฆาตใคร พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านสอนให้ทำอย่างนี้ ซึ่งสามีก็ได้ปฏิบัติตามทุกอย่าง
และแล้วเรื่องวันน่าปีติยินดีก็เกิดขึ้น คืนนั้นสามีกลับมาถึงบ้านราว ๔ ทุ่ม ตบหัวเข่าพูดกับภรรยาว่า ไม่น่าเชื่อเลย ไม่น่าเป็นไปได้ เมื่อได้ทำตามที่ภรรยาแนะนำแล้ว ปรากฏว่าหุ้นส่วนที่เขาบอกจะเลิกสัญญา และอาจทำให้ครอบครัวคุณยุพินหมดตัวนั้น เกิดเปลี่ยนใจกระทันหัน เซ็นต์ชื่อคืนทุกอย่างที่ริบไปแล้ว คืนให้หมด และยอมถอนหุ้นแต่โดยดี
ไม่นานนักมีเรื่องธุรกิจอีกอย่างหนึ่ง ที่อาจจะต้องเสียผลประโยชน์ถึง ๕๐ ล้านบาท ถ้าทำไม่สำเร็จ เมื่อสามีพูดปรารภขึ้น ภรรยาก็ถาม สามีว่า มีเงินอยู่ขณะนั้นเท่าใด สามีตอบว่ามีอยู่ ๓ หมื่นบาทเศษ ภรรยาขอให้นำมาทำบุญสร้างองค์พระที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ทั้ง ๓ หมื่นบาท เวลาพระเดชพระคุณหลวงพ่อกล่าวให้พรขณะเลิกพิธี ให้รีบอธิษฐานขอให้งานสำเร็จทันที เวลาอธิษฐานขอพร ใจต้องมีความเชื่อมั่น เต็มที่ด้วย พรจึงจะศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งสามีก็ทำตาม ในที่สุดธุรกิจที่สามีปรารถนาก็สำเร็จเป็นอัศจรรย์
ขณะนี้ครอบครัวของคุณยุพินทำบุญสร้างองค์พระไปมีจำนวนกว่า ๑๐๐ องค์ ได้เชิญชวนผู้อื่นร่วมทำบุญด้วยอีกประมาณ ๒๐๐ องค์ เป็นครอบครัวที่ประสบความสุข และความสำเร็จ งานของสามีราบรื่น และสามีก็เลิกดื่มเหล้าได้สำเร็จ
ก่อนจบคุณยุพินขอฝากคำกลอนถึงเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่านว่า
ผู้นำบุญ ทำงานใหญ่ อย่าใจน้อย
อะไรนิด อะไรหน่อย อย่าผวา
อย่าสะดุ้ง แม้เพียง เสียงนกกา
วันข้างหน้า จะยิ่งใหญ่ อย่างไรกัน
ธรรมกาย นั้นสูงส่ง ย่อมต้านลม
ทำอะไร ใครติชม อย่าเสียขวัญ
ขวัญต้องเยี่ยม เทียมฟ้า กล้าประจัน
บุญเท่านั้น ที่ลิขิต ชีวิตคุณ