คุณสุชาดา โหละสุต อยู่ที่เขตสุขุมวิท กรุงเทพฯ มีอาชีพ เป็นทันตแพทย์ เข้าวัดตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๙ เล่าว่า
โดยปกติที่ได้รับฟังเรื่องอานุภาพ ของพระมหาสิริราชธาตุ ก็มักจะคิดว่า เรื่องบางเรื่อง โดยเฉพาะการรักษา อาการเจ็บป่วย เป็นเรื่องบังเอิญ หรืออาจจะทานยามา และพอดีอยู่ในจังหวะที่ยาให้ผลพอดี จนกระทั่ง ได้ประสบกับตัวเอง เพราะมีอาการปวดฝ่าเท้าข้างขวา เป็นเรื้อรัง มานาน ไม่ยอมหาย
มีอยู่วันหนึ่ง เธอไปออกกำลังกายเล่นแบดมินตัน นาน ๒ ชั่วโมงเต็ม และตอนเช้า ก็ไปตีกอล์ฟต่อ ซึ่งเป็นสนามภูเขา จึงใช้ฝ่าเท้ามากเกินกว่า เหตุ เมื่อกลับมาจะเข้านอนรู้สึกปวดที่ฝ่าเท้ามาก ทั้งที่เพลีย และง่วงมาก แต่ไม่สามารถจะหลับลงได้ เพราะรู้สึกปวดมาก
แล้วจู่ๆ ก็เหมือน มีอะไรมาดลใจให้นึกขึ้นมาได้ ถึงเรื่องอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ จึงนอนนึกถึงท่านขอให้ช่วยให้หายปวด พอน้อมใจ นึก รู้สึกว่า เกิดความเย็นจากคอ ซึ่งแขวนองค์พระอยู่ ความเย็นนี้ค่อยๆ ไหลไปทางลำตัวด้านขวา แล้วผ่านขาไปจนถึงฝ่าเท้า ที่กำลังปวดอยู่ หลังจากที่เกิดอาการเย็นชา มาสู่ฝ่าเท้า อาการเจ็บปวดที่ฝ่าเท้า ก็อันตรธานหายไป ไม่เหลือเลย ทำให้นอนหลับลงได้
คุณสุชาดาได้ กล่าวในตอนท้ายว่า
อ๋อ! นี่เองนะอานุภาพที่คนอื่นๆ เขาได้พบ เป็นเช่นนี้เอง ไม่ใช่อุปาทานเสียแล้ว
มีบางสิ่งบางอย่างในโลกนี้ที่วิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ถึงอำนาจความศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง
นอกเสียจากผู้นั้นจะพบด้วยตนเอง
จึงจะเข้าใจ หลายคนไม่น้อยทีเดียว
ที่เดิมทีเดียว จะคิด คล้ายๆ
กับคุณสุชาดาคือ
อานุภาพที่ได้อ่านได้ฟังมาแล้ว
ดูเหมือนจะไม่เชื่อ หรือ
เคลือบแคลงสงสัยบ้าง
จนเมื่อได้ประสบกับตัวเอง
จึงจะเข้าใจและซาบซึ้ง
คนเรามีพฤติกรรมไปตามอุปนิสัยและจริตอัธยาศัย เช่น คนศรัทธาจริต มักเชื่อในคุณพระศรีรัตนตรัยโดยง่าย เมื่อพบเหตุการณ์สิ่งใด ที่เป็น อัศจรรย์เหลือเชื่อ เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า พระธรรม หรือพระสงฆ์ จึงมักเกิดศรัทธาเต็มเปี่ยม ไม่ใคร่เสียเวลาลังเลสงสัยอะไรมาก
ส่วนพวกพุทธจริต เป็นพวกมีปัญญามาก ไม่เชื่อสิ่งใดง่ายๆ ต้องพิสูจน์กันให้เห็นด้วยข้อเท็จจริง มีเหตุผล พิจารณากันอย่าง รอบคอบ ถี่ถ้วน จึงจะยอมเชื่อ
คนที่สามารถเล่าเรียนวิชาทางโลกได้สูงๆ เช่นเป็นทันตแพทย์อย่างคุณ สุชาดา จัดอยู่ในพวกพุทธิจริต ย่อมอ่านหนังสืออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุแล้ว ไม่สามารถเชื่อทันทีได้ ต่อเมื่อประสบเหตุการณ์โดยตรง กับตนเอง จึงจำต้องยอมเชื่อ อย่างไม่ต้องสงสัย
การหายจากอาการปวด ด้วยแรงอธิษฐานจิตขออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ คือการนึกอ่อนน้อมในพระพุทธเจ้า มหากุศลจิตเกิด ถ้าเป็น โรค เกิดจากกรรมเก่าตามทวงหนี้ และเศษกรรมนั้น หมดลงพอดี หรืออ่อนกำลังแล้ว เมื่อมีบุญจากการอ่อนน้อมใ นพระรัตนตรัย เพิ่มเข้ามา กรรมฝ่ายอกุศลก็หลุดไป กลายเป็นอโหสิกรรม
[สารบัญ] [๓๓๐] [๓๓๑] [๓๓๒] [๓๓๓] [๓๓๔] [๓๓๕] [๓๓๖] [๓๓๗] [พิเศษ] [๓๓๘] [๓๓๙]