อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๓๔๑.โจรขึ้นบ้าน

คุณทัศนี เหมทนาม อยู่ที่ตำบลยายชา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เล่าว่า

ในคืนวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๒ คุณทัศนีได้กลับจากทำงานนอกบ้าน หลังจากทำกิจวัตรส่วนตัว แล้วก็เปิดเทปฟังบทสวด สรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุ ตามปกติ และก็เข้านอน ซึ่งได้วางกระเป๋าไว้ที่เก้าอี้หัวนอน ในกระเป๋านั้น จะมีกระเป๋าสตางค์อยู่ด้วย มีเงินสดอยู่ จำนวนหนึ่ง และมีแหวนทองคำอยู่ในกระเป๋า

พอรุ่งเช้าวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๒ คุณทัศนีตื่นเวลาตี ๔ ครึ่งตามปกติ ก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อจะไปซื้อผลไม้ส่งขาย ตามปกติ

ขณะนั้นเองเมื่อหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา เพื่อที่จะเอาเงินให้ค่ารถประจำทาง แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะเงินในกระเป๋า ไม่มีเหลืออยู่ เลย พร้อมทั้งเปิดดูถุงที่ใส่แหวนทอง ก็หายไปด้วย คุณทัศนีเกิดเอะใจขึ้นมา 

นึกขึ้นได้ว่า เมื่อเช้าตอนที่กำลังขึ้นไป เปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง เห็น ห้องพระเปิดออก และไฟก็เปิดด้วย ตอนนั้นก็รู้สึกแปลกใจ เพราะตัวเอง ไม่ได้เป็นคนเปิด รู้ทันทีว่า เมื่อคืนต้องมีโจรเข้าบ้านแน่นอน จึงรีบไปซื้อของ ซึ่งต้องใช้เครดิตทั้งหมด เพราะในตัวไม่มีเงินเลย แล้วก็รีบกลับมา ที่บ้านอีกครั้ง

สำรวจประตูบ้านด้านหลัง เห็นแล้วก็ตกใจมาก ประตูถูกเปิดออก โดยไม่ได้ใส่กลอนและสายยูแต่อย่างใด ทำให้ทราบว่า เมื่อคืนถูกโจรขึ้นบ้าน และขโมยเงินไป ได้รีบขึ้นไปสำรวจดูของ ในตู้พระที่ห้องพระ 

ปรากฏว่า พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ หายไป ๕ องค์ พระคะแนนสุดสุด ๓ องค์ พระหยกกรอบทองล้อมเพชร หายไป ๑ องค์ พระเหรียญ หลวงพ่อวัดปากน้ำ พ.ศ.๒๕๑๒ และพระเหรียญ หลวงพ่อวัดปากน้ำ รุ่นปราบมาร อย่างละ ๑ องค์ ซึ่งพระทุกองค์เลี่ยมทอง ไว้ทั้งหมด ได้สูญหายไป ในตอนนั้นคุณทัศนีบอกว่า หัวใจแทบหยุดเต้น และทำอะไรไม่ถูกเลย รู้สึกเสียดาย และเสียใจ เป็นอย่างมาก

คุณทัศนียังเล่าอีกว่า อัศจรรย์มาก ที่โจรไม่เห็นตัวเธอที่นอนอยู่ เพราะถ้าเห็น ก็คงจะทำร้ายไปแล้ว เพราะวิสัยของโจรแล้ว น้อยคนนัก ที่จะไม่ทำร้ายเจ้าของบ้าน คุณทัศนีเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของ พระมหาสิริราชธาตุ ที่แขวนอยู่ที่คอเหลือเกินว่า คงจะปิดบังอำพรางตัว คุณทัศนี ไม่ให้โจรเห็นแน่ๆ 

ซึ่งปกติพระจะถอดแขวนไว้ในห้องพระ แต่ในคืนเกิดเหตุ รู้สึกไม่อยากถอด จึงใส่อยู่อย่างเดิม แล้วเข้านอน จึงทำให้รอดพ้นจากอันตราย ครั้งนี้ได้ ซึ่งคุณทัศนีบอกว่า มั่นสวดสรรเสริญท่าน วันละหลายๆ จบ และตั้งจิตอธิษฐาน อยู่เสมอว่า ให้รอดพ้นจากภัยอันตรายต่างๆ ทุกวัน

หลังจากที่ทราบแน่ชัดแล้วว่า ได้มีโจรเข้ามาขโมยของในบ้าน คุณทัศนีจึงไปแจ้งความ ไว้กับสถานีตำรวจ ในวันนั้น ตำรวจได้มาดูที่บ้าน และได้บันทึก รอยนิ้วมือของคนร้ายไป ซึ่งตำรวจที่ทำคดีของคุณทัศนีนี้ พอสอบถามแล้วปรากฏว่า เคยมาบวชพระธรรมทายาทรุ่น ๕๔ ปีพ ระราชภาวนาวิสุทธิ์ที่วัดพระธรรมกาย 

ผู้กองคนนี้รับปากว่าจะช่วยอย่างเต็มที่ แต่บังเอิญผู้กองคนนี้ จะต้องไปร่วมโครงการ อบรมพัฒนา จิตใจ ที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเวลา ๑ สัปดาห์ ถึงจะกลับมาตามคดีนี้ให้

ในใจคุณทัศนีก็คิดว่า ถ้าขืนรอให้ตำรวจมาจัดการให้ คงไม่ได้ของคืนแน่ๆ จึงไม่หวังพึ่งตำรวจเพียงอย่างเดียว หลังจากที่ตำรวจกลับไปจาก บ้านแล้ว คุณทัศนีก็ยกมือไหว้ ตั้งจิตอธิษฐานกับ พระมหาสิริราชธาตุ องค์ที่แขวนอยู่กับตัวว่า

ด้วยอำนาจบุญกุศลที่ข้าพเจ้ามีความตั้งใจ เป็นประธานรอง และประธานกองฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ในครั้งนี้ ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ที่จะ ทำงานทางโลกให้ดีที่สุด อีกทั้งยังได้ให้สามี มาบวชพระธรรมทายาทรุ่น ๕๕ ปีพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่วัดพระธรรมกาย เพื่อทำหน้าที่ ทางธรรม ด้วยความบริสุทธิ์ใจตรงนี้ 

และเพราะความเชื่อมั่นในบุญ จึงไม่ทันได้ระวังว่า จะมีโจรมาเข้าบ้าน และมาขโมยพระของขวัญ ซึ่งหลวงพ่อ ได้มีเมตตามอบให้ เป็น ของขวัญ จากการทำบุญ ซึ่งพระหยกนั้น ได้มาจากการสร้างเสาค้ำมหาธรรมกายเจดีย์ไป ๑๐๐,๐๐๐ บาท และพระมหาสิริราชธาตุ ุรุ่น ดูดทรัพย์ ๕ องค์ พระคะแนนสุดสุด ๓ องค์ เหรียญปราบมาร ๑ เหรียญ และเหรียญหลวงพ่อวัดปากน้ำ ปี พ.ศ.๒๕๑๒ อีก ๑ เหรียญ ทั้งหมดนี้ ได้ถูกขโมยไป ทำให้ลูกมีความท้อแท้ และเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก

ขออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ช่วยติดตามองค์พระ ที่หายไปให้กลับคืนมาสู่ลูกด้วยเถิด เพื่อที่จะเป็นกำลังใจ ในการทำงาน เพื่อจะได้หา เงิน มาเป็นประธานรอง และประธานกอง เพราะพระที่หายไป มีความหมายสำหรับลูกมาก ลูกรู้สึกผูกพัน กับองค์พระท่านอย่างมาก และพระ ที่ได้มานั้น ได้มาจากการที่ลูกนำปัจจัย ซึ่งเกิดจากการทำงาน จากหยาดเหงื่อแรงกาย ของลูกกับสามี ซึ่งเป็นเงินที่บริสุทธิ์ ขอให้ท่านช่วยลูก ติดตามองค์พระ คืนให้ลูกด้วย 

ขณะที่คุณทัศนีอธิษฐานไปก็ร้องไห้ไป แต่ใจก็ยังอยู่ที่ศูนย์กลางกายตลอด เพราะในใจมีความเชื่อมั่นว่า ท่านต้องสามารถช่วยเราได้แน่นอน และก็นึกเสมอๆ ว่า พระมหาสิริราชธาตุ ช่วยลูกให้ได้องค์พระคืนด้วยเถิดๆ นึกอธิษฐานอย่างนี้ ตลอดเวลา

จนกระทั่งวันศุกร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๒ พอกลับมาบ้านเพื่อนบ้านได้บอกว่า เหมียว(ชื่อเล่น) วันนี้เมื่อเช้าพี่เกษรมาหานะ บอกว่า มีธุระ พอได้ยินเท่านั้น ก็นึกถึงองค์พระขึ้นอีก รีบกางร่มเดินไปหาพี่เกษรทันที เพราะตอนนั้นฝนตกอยู่ พอไปพบพี่เกษร ก็กระซิบบอกคุณทัศนี ว่า เดี๋ยวจะพาไปดูพระ ไม่แน่ใจว่าเป็นของเหมียวที่หายไปหรือเปล่า เท่านั้นเอง คุณทัศนีก็รู้สึกปีติดีใจ อย่างบอกไม่ถูก ในจิตใจคิดว่า ต้องเป็นพระที่ถูกขโมยไปแน่ๆ ถึงแม้จะยังไม่เห็นองค์พระก็ตาม

พี่เกษรได้พาไปที่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้หมู่บ้านที่พักอยู่ ชื่อพี่เล็ก ก็ได้มีการซักถามอย่างละเอียดว่า องค์พระของคุณทัศนีที่หายไปนั้น มีลักษณะ เป็นอย่างไร คุณทัศนีก็ได้บอกไป ซึ่งตรงกับองค์พระที่เก็บได้ทุกอย่าง พี่เกษรและพี่เล็กจึงได้นำองค์พระมาให้คุณทัศนี

คุณทัศนีบอกว่า พอดิฉันเห็นองค์พระเท่านั้น รู้สึกปีติจนบอกไม่ถูก ร้องไห้ออกมาเลย บอกกับพี่เกษรว่า ท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ หนูอธิษฐานทุกวัน เลย ขอให้ผู้มีใจบริสุทธิ์ ใครก็ได้เจอพระที่ถูกขโมยไป นำมาคืนหนูด้วย และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ นำมาคืนทั้งหมด ๙ องค์ อยู่ในสภาพ สมบูรณ์ ทุกองค์เลย พี่เกษรและพี่เล็กเองก็รู้สึกดีใจมาก ที่ได้คืนพระให้กับเจ้าของที่แท้จริงได้

หลังจากนั้นได้มีการซักถามพี่เกษรว่า ได้องค์พระมาอย่างไรกัน พี่เกษรก็ได้เล่าให้ฟังว่า ในวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๒ เวลาประมาณ ๘.๓๐ น. ได้อยู่หน้าร้านขายของตามปกติ แต่ลูกชายคนเล็กอายุ ๔ ขวบ ได้เข้าไปเล่นที่ตรงข้ามบ้าน 

วันนั้นแปลกกว่าทุกวัน ไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจให้พี่เกษรเดินไปตรงที่ลูกกำลังเล่นอยู่ เพื่อจะไปตามให้มากินข้าว บังเอิญไปเห็นถุงใส่องค์พระ วางอยู่กับพื้นคอนกรีต เห็นแล้วก็ตกใจ รีบเก็บขึ้นมา นึกในใจว่า ใครนะทำพระหล่นไว้ตั้งหลายองค์ ซึ่งตอนนั้น ยังไม่ทราบว่า พระของคุณ ทัศนี ถูกขโมยไป

ก็ปรึกษากับสามี สามีบอกว่าต้องตามหาเจ้าของให้เจอ คงเป็นคนในหมู่บ้านนี้แหละ พี่เกษรก็เอาขึ้นไปไว้บนหิ้งพระ และได้อธิษฐานว่า ท่านคงไม่อยากไปอยู่กับคนชั่วกระมัง ถ้าอย่างนั้น ก็ขอให้ท่านช่วยให้ร้านขายของได้ดี และอธิษฐานต่อว่า ขอให้ได้เจอเจ้าของตัวจริง จะได้ คืนให้ 

บังเอิญเพื่อนของคุณทัศนีไปกินอาหารที่ร้านนี้ แล้วเล่าว่า บ้านของคุณทัศนีถูกโจรขึ้นบ้าน ถูกขโมยองค์พระไปตั้ง ๑๑ องค์ พี่เกษรยิ่งมั่นใจว่า น่าจะเป็นพระของคุณทัศนี จึงได้ไปปรึกษาพี่เล็กว่า ทำอย่างไร จึงจะคืนองค์พระให้คุณทัศนีได้ โดยคุณทัศนีจะไม่เข้าใจผิด 

พี่เล็กก็บอกว่า เรามีใจบริสุทธิ์จริงหรือไม่ ถ้าใจบริสุทธิ์ พระที่เก็บได้ทั้งหมด ก็ต้องคืนให้เจ้าของนั่นแหละ พี่เกษรจึงนำพระทั้งหมด มาให้พี่เล็ก เก็บเอาไว้ และในวันเดียวกันนั้นเอง ก็ได้ไปหาคุณทัศนีที่บ้าน เพื่อจะพาไปดูองค์พระว่า ใช่องค์พระที่หายไปหรือไม่

คุณทัศนียังเล่า เสริม อีกว่า พี่เกษรเองก็เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่เก็บองค์พระไปบูชาที่หิ้งพระ ก็เห็นองค์พระที่เป็นหยกมีแสงสว่าง ออกมา สวยงามมาก และก็ยังบอกอีกว่า แปลกมากที่คนอื่น ที่เดินผ่านไปมาบริเวณนั้น ทำไมไม่เห็น อีกทั้งปกติ จะมีคนงานมากวาดขยะบริเวณนั้น แต่วันนั้นมากวาดช้ากว่าปกติ พอพี่เกษรเก็บพระได้แล้ว หลังจากนั้นไม่กี่นาทีคนงานก็เข้าไปกวาดขยะบริเวณนั้นพอดี

นอกจากนี้องค์พระที่เก็บได้หลังจากนำมาบูชา ก็ทำให้ร้านของพี่เกษรขายดีกว่าปกติมาก แต่พี่เกษรบอกว่า จะรู้สึกกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่ ตลอดเวลา นึกแต่ว่า จะทำอย่างไร จึงจะหาเจ้าขององค์พระที่แท้จริงได้พบ

ส่วนพี่เล็กเองก็บอกว่า เมื่อเห็นพี่เกษรหยิบพระมาให้ ก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที เหมือนกับมีกระแสอะไรบางอย่าง ยิ่งทำให้อยากจะเจอเจ้าของ องค์พระ เร็วยิ่งขึ้น เพราะรู้ว่า เจ้าของคงมีจิตใจที่บริสุทธิ์อย่างมาก ถึงได้องค์พระคืนมา อย่างอัศจรรย์ 

คุณทัศนีกล่าวในตอนท้ายว่า ดิฉันได้องค์พระคืนมา อย่างอัศจรรย์ ด้วยอานุภาพ ของพระมหาสิริราชธาตุ และคำอธิษฐานที่อธิษฐานกับ รูปหล่อ หลวงพ่อวัดปากน้ำ รุ่นมารสยบที่วัด ซึ่งดิฉันก็ได้ทำบุญกองบุญ ธรรมะค้ำจุนโลก เพื่อบูชาธรรม คุณยายอาจารย์ อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ๑ กองทุน ตามคำอธิษฐานที่อธิษฐานไว้ว่า ถ้าได้องค์พระคืน ก็จะทำบุญกองทุนธรรมะค้ำจุนโลก

เพราะว่าดิฉันมีความเชื่อมั่นในบุญ เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย เชื่อมั่นในอานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุ ทำให้คำอธิษฐานของดิฉัน สำเร็จ และได้องค์พระคืนมาอย่างอัศจรรย์

ถึงจะเชื่อมั่นในบุญกุศล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายแค่ไหน ก็ไม่ควรตายใจประมาทเลินเล่อ ก่อนนอน ควรดูแลฟืนไฟบ้านช่องให้เรียบร้อย ประตูหน้าต่างบานไหน ไม่แข็งแรงมั่นคง ควรซ่อมแซม ป้องกันไว้ให้แข็งแรง เพราะในยุคนี้ผู้คนตกงาน นับด้วยแสนด้วยล้านคน คนที่ไม่รู้ บาปบุญคุณโทษ ก็จะเต็มใจหากิน ทางมิจฉาชีพ ยิ่งพอทำแล้ว ได้ทรัพย์มาง่ายดาย ก็ได้ใจ ไม่คิดจะประกอบสัมมาอาชีพใด ยึดอาชีพทุจริต เป็นประจำเรื่อยไป 

การขโมยงัดแงะเป็นอาชีพง่าย สะดวก รวดเร็ว อันตรายน้อย ทั้งกระทำยามวิกาล เจ้าของบ้าน มัวแต่อ่อนเพลียง่วงนอน ยิ่งทำได้สบาย เจ้าของบ้านทุกบ้าน จึงจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

รายคุณทัศนีนี้เมื่อทราบว่าขโมยงัดบ้าน เอาพระของขวัญชนิดต่าง ๆ เลี่ยมทองไว้หายถึง ๑๑ องค์ เล่าว่า หัวใจแทบหยุดเต้น ตอนนั้นทำ อะไรไม่ถูกเลย ซึ่งเป็นความรู้สึกของคน ที่ทำพระหายทุกคน จะเป็นอย่างนี้ เพราะต่างทราบกันดีว่า พระมหาสิริราชธาตุนั้น เป็นของประจำ ตัว ได้มาด้วย บุญ ท่านตามมาอยู่กับผู้เป็นเจ้าของจริงๆ และแต่ละองค์จะมีคุณสมบัติเหมือนเจ้าของ

และด้วยความตั้งใจทำบุญใหญ่อันบริสุทธิ์ ต่อไปข้างหน้าของคุณทัศนี เทพยดาท่านย่อมเห็นใจ นำพระมาคืนให้เป็นอัศจรรย์ 

ใครๆ คงไม่ อยากพบ สภาพอย่างคุณทัศนี จึงควรรักษาองค์พระให้ดี และหมั่นทำบุญกุศลเพิ่มต่อไปเสมอๆ ท่านจะได้เต็มใจอยู่ด้วย ตลอดไป


[สารบัญ] [๓๔๐] [๓๔๑] [๓๔๒] [๓๔๓] [๓๔๔] [๓๔๕] [๓๔๖] [๓๔๗]