อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๓๖๔. รถเมล์ทับท้อง

ครอบครัวของคุณวรรยา บรรณศักดิ์ มีบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ แถวถนนเอกชัย เป็นครอบครัวเล็กๆ ประกอบไปด้วย พ่อ,แม่และลูกสาว ๒ คน กำลังอยู่ในวัยเรียน คุณวรรยามีโอกาสพาครอบครัว มาทำบุญที่วัดพระธรรมกายครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๒ หลังจากนั้น ก็มาเป็นประจำ จนถึงปัจจุบัน เพราะที่วัดมีการสอนปลูกฝังศีลธรรมที่ดี มีเหตุผลฟังแล้วเข้าใจง่าย สามารถเข้าใจและนำหลักธรรมใน พระพุทธศาสนา มาปฏิบัติ เป็นแนวทางของการอยู่ร่วมกัน ในครอบครัว ให้เกิดความรัก ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี

ถึงครอบครัว จะอยู่ในฐานะปานกลาง แต่ทุกๆ คนในบ้านก็อยู่กัน มีความสุข เพราะทุกคนจะได้รับการฝึกนั่งสมาธิเบื้องต้น จากวัดพระธรรมกาย ด้วยวิธีการง่าย ๆ สบาย ๆ ทุกคนสามารถเข้าไปสู่ ความสงบเย็นภายในได้ ด้วยการทำใจหยุดใจนิ่ง ณ ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ในกลางกายของทุกคน และสามารถนำไปปฏิบัติที่บ้านได้ อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตในทางโลก

การได้สวดมนต์นั่งสมาธิ สรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย เป็นประจำ เป็นที่มาแห่งบุญกุศล เมื่อชีวิตต้องประสบกับสภาวะคับขัน พระก็คุ้มครองคนดีให้รอดพ้นปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงได้

ปกติในชีวิตประจำวันของคุณวรรยา จะอยู่บ้านประกอบอาชีพช่างตัดเย็บเสื้อผ้า และดูแลทำงานบ้านไปในตัว ส่วนสามีและลูกๆ กลางวัน ก็ออกไปทำงาน และไปโรงเรียนกัน โดยทุกๆ เช้า สามีก็จะพาลูกๆ นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ ไปแวะส่งโรงเรียน ด้วยการขับอย่างระมัดระวัง ทุกคนจะห้อย องค์พระมหาสิริราชธาตุ ไว้ติดตัว เป็นเครื่องระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย ให้ท่านคอยปกปักรักษา ให้ปลอดภัยกัน คนละองค์

ในคืนก่อนวันที่ลูกๆ และสามีจะพบกับอุบัติเหตุที่รอดชีวิตมาได้ อย่างอัศจรรย์นั้น คุณวรรยาเล่าว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้น เหมือนจะเป็น ลางสังหรณ์ คือสร้อยคอที่ลูกสาวคนโต ใส่พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นพิชิตมาร คล้องคอเป็นประจำ เกิดขาดขึ้นมา แต่ด้วยความเป็นห่วงลูก เพราะลูกเพิ่งหายจากฟื้นไข้ จะไปโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น ก็อยากให้ลูกมีพระติดตัว ไว้คุ้มครอง จึงถอดสร้อยของตนเองให้ลูกใส่แทน ปรากฏว่า ลูกสาวใส่สร้อยของตนเองไม่ได้ เพราะหัวลูกสาวใหญ่กว่า ลูกก็พยายามใส่จนสร้อยขาดไปอีกเส้น คุณวรรยาก็หาวิธีใหม่ โดยให้นำพระเหน็บ ติดเสื้อไปแทน

รุ่งเช้าทุก ๆ เช้า คุณวรรยาจะสวดมนต์นั่งสมาธิ อธิษฐานขอบุญกุศล ช่วยคุ้มครองลูก ๆ และสามี ปลอดภัย และเดินทางโดยสวัสดิภาพ ทุกครั้งที่นั่งสมาธิ ที่ผ่านมา ก็จะนั่งนึกนิมิตดวงแก้ว หรือองค์พระใส เป็นสะพานนำใจเข้าสู่ความสงบภายใน เป็นทางมาแห่งบุญกุศล แต่ในวันนี้แปลกมาก เธอบอกว่า ภาพนิมิตที่เกิดขึ้นมา ไม่เหมือนทุกครั้งนั่งสมาธิ เห็นเป็นภาพไม่ค่อยดีมันเละ ไปหมด ยิ่งนั่งยิ่งปวดหัว จึงอธิษฐานจิต แล้วกราบลาพระรัตนตรัย

วันนี้สามีก็พาลูก ๆ นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน ไปตามปกติ โดยลูกคนโตนั่งซ้อนท้าย ลูกคนเล็กนั่งด้านหน้า ทุกคนใส่พระมหาสิริราช ธาตุ กันคนละองค์ ลูก ๒ คนหยิบพระมหาสิริราชธาตุ รุ่นพิชิตมาร ส่วนสามีใส่เหรียญหลวงพ่อวัดปากน้ำ แก้วจุยเจีย

พ่อก็ขับรถพาลูก ๆ ออกจากปากซอยมา ด้วยความระมัดระวัง จนมาถึงถนนใหญ่ ถนนเอกชัยการจราจรในตอนเช้ารถ เยอะคนก็เยอะ แต่ก็ยังเคลื่อนรถไปได้เรื่อยๆ โดยขับรถเข้าเลนซ้าย ขับชิดซ้ายตลอด จะได้ปลอดภัยจากรถเมล์เบียด เพราะพอออกจากปากซอยมา ได้ก็เห็น รถเมล์ ๒ คันวิ่งแข่งแซงกันมา เพื่อแยกกันเข้าป้ายรับผู้โดยสาร มาด้วยความเร็วสูง ชนิดอะไรขวางหน้าชนหมด

พ่อก็ขับรถด้วยความระมัดระวัง พา ลูกๆ ไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยที่สุด พอขับผ่านป้ายรถเมล์ มีรถเมล์ จอดรถรับผู้โดยสารอยู่ ๒-๓ คัน รวมทั้ง รถเมล์มหาภัย ๒ คันนั้นด้วย เมื่อเลี่ยงผ่านจุดจอดรถที่บังผิวจราจร แล้วก็นำรถเข้าข้างทางชิดซ้ายตามเดิม

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิด สุดวิสัยก็เกิดขึ้น รถเมล์คัน ๑ ใน ๒ คันที่แข่งกันแบบไม่สนใจห่วงใยชีวิตอื่น ก็ออกตัวอย่างรวดเร็ว จากป้ายรับส่ง ผู้โดยสาร ด้วยความแรง จนผู้โดยสารที่ยืนอยู่ในรถคันนั้นเซถลา คนที่มีที่นั่งอยู่แล้ว เกาะราวยึดพนักไว้แน่น ลูกสาวคนโต นั่งซ้อนท้าย มอเตอร์ไซค์พ่ออยู่ หันไปมองด้านหลัง ตามเสียงของการเหยียบคันเร่งของรถเมล์

ยังไม่ทันตั้งตัว รถเมล์จอมซิ่งคันดังกล่าว ก็ พุ่งเข้ามาชนท้ายมอเตอร์ไซด์อย่างแรง โดยที่ไม่มีการเหยียบเบรคเลย เสียงโลหะกระทบกันดังสนั่น หวั่นไหว ๓ พ่อลูกกระเด็น ลอยออกจากรถมอเตอร์ไซค์ รถมอเตอร์ไซค์ก็กระเด็นกันไป คนละทิศละทาง มอเตอร์ไซค์ไถลไปข้างทาง ๓ พ่อลูก ถูกดูดเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถเมล์ทั้ง ๓ คน ลูกคนเล็กไปอยู่ล้อหน้า ท้องอยู่ตรงกลางล้อพอดี ส่วนพ่อขวางอยู่ล้อหลัง ลูกสาวคนโตถูกดูดเข้าไป ซุกอยู่ ช่วงกลางท้องรถพอดี

ท่ามกลางความตกใจอย่างสุดขีดของผู้คนบริเวณนั้น ลุ้นกันอกสั่นขวัญแขวน เพราะคนขับรถเมล์จอมโหดรู้ว่า เกิดอุบัติเหตุคนไถลเข้าไป ใต้ท้องรถ ๓ คน แทนที่จะเหยียบเบรค กลับเหยียบคันเร่ง กะจะทับให้ตาย แล้วขับหนีไป คนขับเหยียบคันเร่งถึง ๒ ครั้ง แต่เป็นที่หน้าอัศจรรย์ รถไม่สามารถขยับไปได้ คนขับก็จึงยอมดับเครื่อง ทิ้งรถแล้วหนีไปเลย ท่ามกลางความโกลาหล

เสียงของพ่อก็ร้องเรียกให้ช่วยไปดูลูกให้ ลูกผมเป็นไงบ้าง รถหยุด ลูกสาวคนโตคลานออกมาก่อน สำรวจตัวเอง แทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บ เลยวิ่งไปหาพ่อ ซึ่งนอนอยู่ล้อหลัง บอกพ่อว่า ปลอดภัยไม่เป็นอะไร พ่อบอกให้รีบไปดูน้องปรากฏว่า น้องยังมีสติอยู่ ไม่สลบ น้องก็บอกว่า ตนเองไม่เป็นอะไรเช่นกัน

แต่พอดูที่ท้อง บริเวณที่ตรงกับล้อรถ ชุดกระโปรงนักเรียนขาดแบบเปื่อย ในทันทีเลย จับแล้วหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ หนังชั้นนอก ที่บริเวณท้อง เปิด จนเห็นเนื้อสีแดง และมีเลือดซึมออกมา ถามน้องก็บอกไม่เจ็บ แต่น้องก็ไม่แสดงอาการเจ็บปวดมาก คงจะเป็นเพราะขณะนั้น กำลังชาอยู่ ส่วนพ่อก็สะบ้าไหล่หลุด

ผู้ประสบเหตุการณ์ก็ช่วยเหลือ นำส่งโรงพยาบาลคนที่มามุงดูพูดว่า โอ้ย! รถไถลลากไปแบบนี้ไม่รอดแน่ ส่วนคุณวรรยา พอลูกสาวคนโต โทรศัพท์ไปบอกว่า รถเมล์ทับท้องน้อง พอได้ยินว่า อยู่ใต้รถเมล์ โอ้ย! แล้วจะเหลืออะไร นึกถึงพระมหาสิริราชธาตุ แล้วบารมีหลวงพ่อ วัดปากน้ำ ขอให้ท่านช่วยตลอด

พอเธอตามไปหาลูกที่โรงพยาบาลแรก เขาบอกว่า เครื่องมือไม่พร้อม ต้องส่งคนป่วยไปโรงพยาบาลบางมด ๑ ระหว่างทาง ก็สวดสรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุ ตลอด ขณะรอลูกเข้าห้องไอซียู ก็สวดตลอด จนลูกพ้นขีดอันตราย

คุณวรรยากล่าวอย่างมั่นใจว่า ที่ทุกคนในครอบครัว รอดพ้นจากอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นอัศจรรย์ เพราะอานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุท่าน ช่วยคุ้มครอง เพราะจากสภาพที่เห็นผ้าขาดรุ่งริ่ง ลูกสาวคนโตเล่าว่า ขณะที่อยู่ใต้ท้องรถ ยังเห็นล้อรถผ่านหน้าไปเลย ส่วนลูกคนเล็ก ขณะที่เขาเหยียบคันเร่งรถ ให้เคลื่อนตัว ทับร่างบริเวณท้อง กับล้อรถของหนู หนูเห็นประกายแสงสว่างออกมา

คุณวรรยากล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าไม่มีอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุคุ้มครอง ป่านนี้คงจะไม่เหลืออะไรแล้ว ครอบครัวคงไม่ได้อยู่ พร้อมหน้าแบบนี้

เท่าที่ทราบจากผู้เล่าให้ฟังหลายราย ผู้ที่ทำพระมหาสิริราชธาตุของตนเองหาย หรืออยู่ดี ๆ สายสร้อยห้อยพระขาด บางทีพระก็หาย มักจะมี เรื่องเดือดร้อนบางอย่าง เกิดตามมา ทำให้บางท่านเกิดความรู้สึกว่า พระท่านเตือนให้ทราบเหตุร้ายไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เรามีสติ และระลึก นึกถึงคุณ พระรัตนตรัย ไว้เสมอ

การแขวนพระมหาสิริราชธาตุติดตัวไว้ ต้องแขวนเพื่อวัตถุประสงค์ รำลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย นึกถึงท่านบ่อยๆ ยิ่งตลอดเวลายิ่งดี ไม่ใช่แขวน เพื่อให้เป็นเครื่องลางของขลัง ป้องกันตนเพียงเท่านั้น การระลึกอ่อนน้อมในคุณ พระรัตนตรัย เป็นมหากุศลจิต ยิ่งได้ทำการ พนมมือไหว้ พร้อมเปล่งวาจา สวดสรรเสริญ เป็นกุศลกรรมทางกายและวาจา ประกอบด้วยบุญกุศลนั้นเอง เป็นเครื่องเบียดเบียน เครื่องตัดรอน ให้บาปกรรมเก่า ที่กำลังตามทันอยู่ อ่อนกำลังลง กลายเป็นตามไม่ทัน หรือให้ผลได้ไม่เต็มที่ไปเสีย

รายลูกคนโตของคุณวรรยา ไม่ถึงกับองค์พระมหาสิริราชธาตุหาย แต่ขาด ผู้เป็นแม่สวมของตนเองให้ลูกแทน ก็ขาดอีก เป็นลางสังหรณ์อยู่ว่า จะเกิดเหตุร้าย แต่คุณวรรยาคงไม่ได้เตือนสามี ให้ระมัดระวัง ในการขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งลูก เป็นพิเศษ ถ้าเห็นรถเมล์วิ่งแข่งกัน แย่งรับ ผู้โดยสาร ก็ควรแอบเข้าข้างทางเสียก่อน ไม่ต้องไปวิ่งร่วมทางกับเขา

อย่างไรก็ดี นอกจากทั้งสามคนพ่อลูกมีองค์พระติดตัวอยู่ จะทันนึกถึงคุณของพระรัตนตรัยหรือไม่ก็ตาม แต่คุณวรรยาตามระลึกถึงอยู่ ตลอดเวลา แม้อยู่ที่บ้าน บุญกุศลจึงบังเกิดขึ้น คุ้มครองครอบครัว ให้พ้นจากหนักเป็นเบา ลูกคนเล็กเห็นแสงออกจากท้องตนเอง ขณะเกิดเหตุ จะคิดว่า เป็นแรงเสียดสีของพื้นถนน กับบริเวณหน้าท้องของเด็ก ก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเนื้อหนังของเด็กไม่ใช่โลหะ จึงน่าจะเป็นอานุภาพ ของ พระมหาสิริราชธาตุ ที่เด็กแขวนห้อยคอ ติดตัวอยู่ ช่วยแสดงบุญฤทธิ์ช่วยเหลือให้หนักเป็นเบา


[สารบัญ] [๓๖๒] [๓๖๓] [๓๖๔] [๓๖๕] [๓๖๖] [๓๖๗]