เชิญ แสดงความคิดเห็นใน

"จาวตาล"

ผลงานของคุณ "จาวตาล"

อ่าน     ความคิดเห็น

"จาวตาล"
นามปากกาของคุณ พรรษพร  วิชัย มีผลงานเกี่ยวกับความรักและกำลังใจ...ดุจดั่งแสงแห่งตะวัน ฯลฯ

"จาวตาล"

.....@ หน้า...เก็บเกี่ยว @.....
.....ลมหนาวเข้ามาเยือน
สัญาณเตือนเราหนุ่มสาว
เรืองรองสีทองพราว
เหลืองรวงข้าวเต็มท้องนา
.....ขอเชิญเหล่าเพื่อนผอง
ทั้งพี่น้องป้าน้าอา
มาช่วยกันรีบมา
เราชาวนาอย่ารีรอ
.....จับเคียวเกี่ยวรวงข้าว
หนาวแสนหนาวไม่ย่อท้อ
ทำงานเคล้าเพลงคลอ
สุขจริงหนอเพลงรำเคียว
.....หันหลังขึ้นสู้ฟ้า
ต้องก้มหน้าคราเก็บเกี่ยว
เจ็บแปลบจากใบเรียว
ที่กำเหนี่ยวเกี่ยวรวงไป
.....จวบจนสนธยา
เสร็จงานนารีบคลาไคล
กลับบ้าน ณ ริมไพร
มีขวัญใจเจ้าเฝ้าคอย......
หน้าหนาวแล้วหนา....ถึงหน้า....เก็บเกี่ยว....จาวตาล
....@ ลาน...มะขาม @....
มุ่นมวยผม  เหน็บจำปี   ที่ศีรษะ
ประจงปะ  แป้งร่ำ  น้ำปรุงหอม
กลิ่นกำซาบ  นาสา  น่าดมดอม
เป็นกลิ่นดอก  พยอม  หอมไปไกล
แล้วรีบมา  หาพี่  ที่หน้าบ้าน
เราเรียกขาน  ว่าลาน   มะขามใหญ่
ต้นสูงชัน  เสียดฟ้า   สูงกว่าใคร
กิ่งก้านใบ  แผ่สาขา   น่ารื่นรมย์
ได้ยินเสียง  จู้ฮุกกรู   อยู่ที่ไหน
นกเรียกคู่  หรือไร   ส่งเสียงขรม
ใบไม้พริ้ว  ปลิวไหว  ตามแรงลม
มีรักห่ม  ไม่เคยหนาว    ร้าวรานใจ
พี่จ๋าพี่    ดูวิหค     ที่ผกผิน
นกร่อนบิน  เรียกหาคู่   อยู่เสียงใส
แม้นพี่ไป  อยู่แห่งหน  ตำบลใด
จะหอบรัก  ติดตามไป  ไม่แรมรา…….
       " จาวตาล "
......@ ....... @.....
ทั้งที่อยู่ใกล้ใกล้
แต่เหตุใดดูไกลห่าง
ยิ่งก้าวยิ่งเพิ่มทาง
ระยะห่างระหว่างเรา
แม้นมีเธอข้างกาย
แต่ไม่คลายความเงียบเหงา
ต่อไปไม่มี "เรา"
จะมีเพียง "เขา" และ "เธอ"
วันที่เธอบอกลา
พลันน้ำตาไหลล้นเอ่อ
เป็นจริงหรือละเมอ
หรือว่าเพ้อหลับฝันไป.........

จาวตาล.....อีกแล้วจ้า
งามล้ำเลิศเพริศแพร้วยิ่งแก้วศรี
งามวจีประจงจารงานอักษร
งามภาษาสุนทรีที่เว้าวอน
งามโคลงกลอนสลักเสลาเร้าฤทัย
จาวตาล

ฝันของคนมีมากมายหลายหลากเหลือ.....
ฝันเป็นเบือจะมีใครไปถึงฝัน.....
คนร่ำรวยคนจนนั้นฝันต่างกัน.....
หรือชนชั้นมากำหนดตั้งกฎเกรณฑ์.....
จาวตาล

แกงจืดดอกไม้จีน....อร่อยลิ้นไข่ผัดโสน
แกงส้มโถโตโต....ใส่โสนและดอกแค
ขี้เหล็กสีเขียวขม....ต้มก่อนแกงดีแน่แท้
น้ำพริกลวกดอกแค....อร่อยแน่ลวกขจร
ราดด้วยกระทิสด....โอชารสจริงสมร
ฝีมือของงามงอน....เจ้าอย่าค่อนค้อนพี่เลย

จาวตาล

......@ วอน.....จันทรา @......
ห่มสไบนุ่งผ้าจีบรีบมาพบ
จันทร์เจ้าเอ๋ยเจ้าหลบข้าไปไหน
ข้าอบร่ำน้ำปรุงฟุ้งกลิ่นไกล
หอมถึงเจ้าหรือไม่ไยไม่มา
ฟ้าจ๋าฟ้าบอกเมฆาหลบไปหน่อย
ให้จันทร์น้อยลับเหลี่ยมเยี่ยมเวหา
ทอแสงเรื่อเรืองใสสว่างตา
ประดับอยู่คู่นภาทุกราตรี
นวลแสงจันทร์นั้นมีมนต์ดลจิตข้า
ปลอบชีวาที่เหงาใจให้สุขศรี
ขจัดความเหน็บหนาวร้าวฤดี
โอ้จันทร์นี้ข้ารออยู่รู้ไหมจันทร์.......

           " จาวตาล "
ตอนนี้เปลี่ยนแนว.....จากแบบ.....รักหวานน้ำตาลหก..
เป็นแบบ.....รักเศร้าเคล้าน้ำตา.....อยากเขียนอย่างอื่นมั่ง
แต่ทำยังไม่ได้.....ทำได้เมื่อไหร่จะส่งมาอวดนะคะ
                      จาวตาล

      .....@ ลืม @.....
อดีตที่ ฝังใน ใจเธอนั้น
รู้ว่ามัน ไม่เคย เลยเลือนหาย
ความผูกพัน ยังคงอยู่ ไม่รู้คลาย
เธอไม่หน่าย แม้ต้องร้าง ห่างเขาไป
เหตุที่เรา ทั้งสอง ต้องทนอยู่
ทั้งทั้งรู้ เธอไม่รัก สักเท่าไหร่
หวังไว้ว่า เวลา ถ้าผ่านไป
คงเปลี่ยนใจ เธอไซร้ ให้หันมา
ฉันอดทน ทำสิ่งที่ ดีดีให้
ไม่อาจเปลี่ยน จิตใจ เธอดังว่า
ตัวเธอเอง ไม่เคย จะนำพา
ไม่ห่วงหา อาทร อาวรณ์กัน
ฉันจะลืม เวลา ที่เคยมี
ฉันจะลืม นาที ที่เฝ้าฝัน
ฉันจะลืม ว่าเรา อยู่ด้วยกัน
ลืมคืนวัน ครั้งที่ ยังมีเธอ......
           จาวตาล

จาวตาล....สงสัย....เพื่อนไย....บึ้งตึง
.....@ ไม่เข้าใจ @.....
...เมื่อก่อนเธอบอกฉัน
เราคบกันเป็นเหมือนเพื่อน
เสียงเธอคอยย้ำเตือน
เราเป็นเพียงเพื่อนที่ดี
...แต่แล้วเธอโกรธขึ้ง
ทำบึ้งตึงกับฉันนี่
ผิดอะไรช่วยบอกที
ผิดโดยที่ไม่ตั้งใจ
...ฉันเดินกับคนอื่น
เธอขมขื่นถามว่าใคร
คิดคิดก็แปลกใจ
แต่ก่อนไม่เคยไยดี
...ฉันเองเคยลุ้นนัก
ให้เธอรักฉันสักที
รักเธอเธอรู้ดี
ตั้งหลายทีเคยบอกไป
...เธอรู้แล้วหรือไม่
ว่าฝากใจไว้ที่ไหน
ถ้าหากรู้แล้วไซร้
บอกฉันให้เข้าใจที....

จาวตาล....เศร้าใจ....ชีวิตใหม่....ไม่มีเธอ
       .....@ ปล่อยมือ @.....
มองเข้าไป ในแววตา   เธอว่างเปล่า
ช่างปวดร้าว ดวงใจ ให้หงอยเหงา
ทั้งที่เธอ อยู่ใกล้ใกล้ ข้างกายเรา
แต่ไยเล่า  เหตุใด ไม่คุ้นเคย
มือของเธอ ที่เคย ได้สัมผัส
ไม่รึงรัด ไม่อบอุ่น ดูเมินเฉย
ไม่มีความ  รักแท้จริง ยิ่งอย่างเคย
ไม่เหลือเลย แม้แต่ แค่ผูกพัน
ดูเธอคล้าย อยากเอ่ย คำร่ำลา
พอเถอะหนา ไม่ต้องบอก หลอกใจฉัน
อ่านแค่เพียง สายตา เข้าใจกัน
ว่าเธอนั้น ต้องการร้าง ห่างไปไกล
ปล่อยมือฉัน แล้วจาก ไปเสียเถิด
เหตุที่เกิด เพราะเธอ เปลี่ยนใจใหม่
ฉันยอมรับ ว่าฉัน ไม่เหลือใคร
ช่วงชีวิต ต่อไป ไม่มีเธอ.....
              ....@ เธอ @....
เธอ..คือแสง  แห่งจันทรา   คราคืนหนาว
เธอ..คือไอ  อุ่นจากดาว   พราวสุกใส
เธอ..คือรุ้ง  ทองฟ่องฟ้า   นภาลัย
เธอ..คือฝัน  ของวันใหม่   ใกล้อรุณ....

...เธอคือแสง  แห่งจันทรา   คราคืนหนาว
สุกสกาว  บนฟากฟ้า  นภาใส
ฉายเข้าถึง  ซึ่งกมล  ของคนไกล
ก่อนจะเคลื่อน  เลือนลับไป   ในบัดดล
...เธอคือไอ  อุ่นจากดาว   พราวไกลลิบ
คอยกระพริบ  ระยิบยับ  จับเวหน
แสงนิดนิด  สถิตย์ทั่ว  นภาดล
ชะความหม่น  หมองใจ  ให้ชีวี
...เธอคือสาย  รุ้งทอง   ฟ่องปลายฟ้า
ประกายจ้า  เจิดจรัส  รัศมี
แวมวามวับ  ดุจกับสาย  อัญมณี
ที่คล้องสอง  ใจนี้  ให้รวมกัน
...เธอคือสร้อย  สายฝน   หล่นโลมหล้า
ระรินหยาด  จากนภา  คราวสันต์
ฉ่ำชื่นนัก  เหมือนมีรัก   ห่มชีวัน
ยามวสันต์  ผ่านมา  หวามอารมณ์
...เธอคือฝัน  อันอำไพ   ใกล้รุ่งสาง
สีทองทา  ทาบนภางค์  สว่างสม
สัญญาใจ  ที่ให้ไว้  ได้ชื่นชม
รักห่อห่ม  ออดอ้อน  วอนรำพัน....

จาวตาล...รำพัน...เฝ้าฝัน...ถึงเธอ
คืนฟ้าไร้ดาว....เหน็บหนาวนักหนา....
แต่มีเพื่อนยา....เข้ามาปลอบใจ....
โลกยังอบอุ่น....แสงอรุณใส....
รักเก่าผ่านไป....คิดไยป่วยการ....
                     จาวตาล
ดื่มด่ำรสบทกวีที่รินร้อย
ประดิษฐ์ถ้อยรจนาภาษาสวรรค์
เป็นสร้อยฝันหวานหวานของวารวัน
นิจนิรันดร์ติดตรึงซึ้งหทัย...
                     จาวตาล
                   .....@ ความรัก @.....
         ความรักหนาหนักเพี้ยง      หินผา
มีสุขเพียงบางครา                       จักได้
ทุกข์ยากยิ่งใดนา                         รักจาก
ลำบากลำบนไซร้                         อยากได้มาครอง


        ดูเหมือนยิ่งหินผา           หนักยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
ยกออกแทบไม่ไหว                 หนักที่ใจไม่ทานทน
        ดูเหมือนจะคว้าได           เราจักใคร่คว้าสักหน
ลำบากและลำบน                     แต่ไกลจนสุดคว้ามา
        ดูเหมือนจะเป็นสุข         เป็นความทุกข์สิยิ่งกว่า
สุขเพียงชั่วเวลา                       ทุกข์นั้นหนาชั่วกัปกัลป์
        ดูเหมือนหลับฝันดี          เพียงนาทีตื่นจากฝัน
เมื่อตื่นฟื้นขึ้นพลัน                 ฝันดีนั้นกลับเปลี่ยนไป
        ดูเหมือนโลกสว่าง           ท้องฟ้ากว้างดูสดใส
แต่แล้วมืดมิดไป                      เหลียวหาใครนั้นไม่มี
        นี่หรือคือความรัก            ใครประจักษ์ไม่อยากหนี
แม้ว่าทุกข์ชีวี                            ยังอยากมีรักสักครา

จาวตาล....แสนหวาน....เล่าขาน....เรื่องความรัก
             ....@ เฝ้าคอย @....
....มองท้องฟ้า นภาดล สีหม่นหมอง
ฟ้านั้นร้อง โครมคราม น้ำหลั่งไหล
นั่นคือหยาด น้ำตา ฟ้าหรือไร
ฟ้าทำไม ต้องโศกเศร้า ร้าวระบม
....ถึงฝนมา ฟ้าหม่น เราทนได้
เพราะในใจ อบอุ่นนัก รักสุขสม
แม้ตัวไกล เพียงไหน ไม่เคยตรม
ยังมีลม หอบรักหวาน ผ่านเข้ามา
....ยามค่ำคืน มีรัก อันยิ่งใหญ่
กล่อมใจให้ หลับฝันดี ที่นี่หนา
เหมือนได้หลับ แนบพักตร์ กับอุรา
ของพี่ยา คนดี ที่อยู่ไกล
....ฟ้าจ๋าฟ้า อย่าร้องร่ำ เราพร่ำบอก
รักไม่หลอก รักอยู่นี่ ไม่ไปไหน
เมื่อฝนซา ฟ้าสว่าง  พลันทันใด
เหมือนดั่งใจ เราเจิดจ้า พร่าพราวพราย.....
จาวตาล.....น้องน้อย.....เฝ้าคอย.....ปลอบฟ้า
....@ สิ่งที่เหลืออยู่ @....
ไม่มีแล้ว แววตา ที่ห่วงใย
ไม่มีเสียง ปลอบใจ เมื่ออ่อนล้า
ไม่มีมือ ฉุดให้ ลุกขึ้นมา
ไม่มีแม้ เสน่หา ยอดยาใจ
จากวันนี้ คงมี แต่ความเหงา
อยู่กับเงา ความหลัง ครั้งสดใส
เหลือแต่เพียง ความผูกพัน ที่ฝังใจ
จะขอเก็บ มันไว้ ให้ตัวเอง........
จาวตาล.....หยุดนิ่ง.....กับ.....สิ่งที่เหลืออยู่

....@ รักคนไหน @....
....เจื้อยแจ้ว...ส่งเสียงมา
คอยบอกว่าใครน่ารัก
จะแนะให้รู้จัก
เผื่อได้พัก...พิงหัวใจ
....คนนั้นน่ะน่าลุ้น
ส่วนคนนู้นก็หน้าใส
มาบอกทุกวันไป
เอ๊ะ...ยังงัย...แปลกจริงจริง
....ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อ
คอยแนะนำให้ทุกสิ่ง
อยากให้มองความจริง
มองเข้าไปที่นัยน์ตา
....จ้องมองนัยน์ตากัน
แล้วบอกฉันด้วยสิว่า
พบใครข้างในตา
คนนั้น...หนา...คือรักจริง

จาวตาล.....หวานสนิท.....คิดจะรักคนไหน
        ....@ เก็บทุกข์ @....
พับ...เอาความทุกข์ซุกไว้ใต้หมอน
เอา...ทุกข์ซ่อนบังไว้อย่าให้เห็น
ความ...สุขนำขึ้นมาทำหน้าเป็น
ทุกข์...ลำเค็ญเก็บไว้ก่อนแม้ร้อนใจ
ซุก...ใบหน้าลงกับหมอนอ้อนสะอื้น
ไว้...เมื่อฟื้นตื่นขึ้นมาอย่าร้องไห้
ใต้...หมอนนั้นขังน้ำตายามอาลัย
หมอน...จะให้ความสุขคลายทุกข์เอย

                 จาวตาล...
หวาน....หวาน...ส่งผ่านคำกลอน
    ....@ โลกส่วนตัว @....
ณ ที่นี้ คือที่มี ฟ้าใสใส
ธารน้ำไหล แดดรำไร สายลมอ่อน
ไว้แอบพัก ยามเดียวดาย เอนกายนอน
ได้พักผ่อน ปล่อยใจ ไปกับลม
ถ้าแม้นเธอ เดียวดาย วุ่นวายนัก
ต้องการพัก รักษาใจ ที่ขื่นขม
แล้วมีสิ่ง ดีดี ไว้ชื่นชม
เพื่อทดแทน ความระทม ในจิตใจ
อยากจะชวน เธอมา ในที่นี้
ในถิ่นที่ มีความรัก อันยิ่งใหญ่
เป็นที่ซึ่ง ไม่เคย เปิดรับใคร
ขอเพียงเธอ เปิดใจ ก้าวเข้ามา
ขอต้อนรับ เข้าใน "โลกส่วนตัว"
จงสำรวจ ให้ทั่ว และค้นหา
อยากให้เธอ รู้เรื่องราว ความเป็นมา
รู้จักตัว ฉันว่า เป็นอย่างไร............

               "จาวตาล"
       ....@ ดาวกระดาษ @....
กระดาษสวย มากมาย หลายหลากสี
บรรจงคลี่ พับเป็นดาว พราวสดใส
ดาวดวงน้อย ห้าเหลี่ยม เอี่ยมละมัย
รวบรวมใส่ ขวดโหล โถใบงาม
ขวดโหลแก้ว เจียระไน สีลายพร้อย
มีดาวน้อย เต็มขวด- โหลทั้งสาม
พันผูกด้วย โบว์ชมพู ดูงดงาม
ขวดทั้งสาม ในตะกร้า น่าเอ็นดู
ขวดที่หนึ่ง คือความรัก ที่เรามี
ขวดที่สอง ความภักดี ที่มีให้
ขวดที่สาม นั้นคือ กำลังใจ
ฟันฝ่าไป นำรักให้ สู่ปลายทาง
เป็นของขวัญ วันเกิดพี่ ปีนี้นะ
พี่คงจะ ยินดีรับ ไม่เมินหมาง
อยากบอกพี่ รักเรานี้ ไม่จืดจาง
ถึงตัวห่าง แต่ใจ ใกล้ชิดกัน........

            " จาวตาล "
       ...@ รักเอ๋ย @....
รักเอ๋ยรัก ดั่งสายลม ที่พรมโบก
รักจรรโลง โลกนี้ ให้สุขสันต์
รักร่มเย็น ดุจดั่ง นวลแสงจันทร์
รักสร้างฝัน ให้ชีวิต จิตผูกพัน
รักนี้อยู่ ในใจ ใครจะเห็น
รักเปรียบเป็น ดั่งเช่น กุหลาบนั่น
รักแล้วทำ ให้สุข ทุกคืนวัน
รักนิรันดร์ นำฉัน มาพบเธอ.......
           "จาวตาล"
....@ ทะเล....ยามเย็น @....
ทะเลงาม ยามเย็น เห็นไหมพี่
เกี่ยวก้อยชี้ ชวนชม ทะเลสวย
แดดรอนรอน สายลม แผ่วระรวย
คลื่นระทวย เป็นริ้ว พริ้วพริ้วมา
คลื่นสลาย ซบสาด หาดทรายแก้ว
พี่ชมแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อ นะพี่จ๋า
หาดทรายขาว ไกลลิบ สุดสายตา
จรดนภา สีฟ้าส้ม อมชมพู
แว่วเพลงคลื่น โหมกระหน่ำ ย้ำโขดหิน
เหมือนเสียงพิณ ฟังเพราะ เสนาะหู
เสียงกระซิบ "พี่รักเจ้า....นะโฉมตรู"
ดังก้องอยู่ ทุกเวลา ทุกนาที
ฝูงนกน้อย ลอยลับ บินกลับรัง
นกรู้จัก ห่วงหลัง นะจ๊ะพี่
นกนั้นเหมือน รักเรา นะคนดี
จะไม่หนี พลัดพราก ไปจากรัง.......

                       "จาวตาล"
     ....@ อย่าอับอาย @....
อย่าอับอาย  ที่จะเหงา   และเศร้าสร้อย
อย่าอับอาย  ที่จะปล่อย   ความอ่อนไหว
อย่าอับอาย  ที่จะรัก   แล้วหักไป
อย่าอับอาย  หารักใหม่   ไว้แทนเธอ
อย่าอับอาย  ที่จะคิด   ถึงความหลัง
อย่าอับอาย  ที่ไม่ยั้ง   แล้วพลั้งเผลอ
อย่าอับอาย  ที่จะคิด   ถึงแต่เธอ
อย่าอับอาย  ที่จะเจอ   เธออีกที
                           "จาวตาล"

.....@ ทำไม....ใช่ไหม @....
อย่าถามว่า  ทำไม  ใจคิดถึง
อย่าถามว่า  ทำไมซึ้ง   ตรึงใจมั่น
อย่าถามว่า  ทำไม  ใจผูกพัน
อย่าถามว่า  ในใจฉัน   นั้นคือใคร

เธอใช่ไหม  ที่อยู่ใน   ใจดวงนี้
เธอใช่ไหม  คือคนที่   ฉันใฝ่ฝัน
เธอใช่ไหม  คนที่มี  ใจให้กัน
เธอใช่ไหม  คือรักมั่น   นิรันดร
                           "จาวตาล"
"ฝัน......"
.......ฝันจะเก็บ เดือน..ดาว ที่พราวใส
มาร้อยเรียง เป็นมาลัย ไว้คอยพี่
ฝันจะเก็บ สายรุ้ง สวยสดดี
มาคล้องใจ น้องพี่ ไว้รวมกัน

.......ฝันจะเก็บ กุหลาบ สีสดใส
ที่หอมไกล ลอยใส่ไว้ ในขัน
เมื่อพี่ได้ ดื่มน้ำ ฉ่ำชื่นพลัน
ความร้อนนั้น ก็หาย มลายไป

.......ฝันจะเก็บ ดอกพุด บริสุทธิ์ขาว
ทำกระแต ไต่ราว ไว้ข้างหมอน
ยามที่พี่ เหนื่อยนัก พักหลับนอน
กลิ่นอ่อนอ่อน โชยมา พาชื่นใจ

.......ฝันจะเก็บ เกสร นานาพรรณ
เอามาปั้น กระแจะจันทร์ ใส่โถใหญ่
กลีบดอกไม้ ทำบุ- หงารำไป
เอาไว้อบ สไบ ไหมผ้าแพร

.......ฝันจะอบ แพรเพลาะ เหมาะเจาะนัก
พี่ที่รัก จะได้ห่ม นอนชมแข
เสร็จแล้วอบ เสื้อนอน กางเกงแพร
รักแน่แท้ ฝันไว้มาก อยากเป็นจริง

.......ฝันจะเก็บ ใจพี่ ไว้นี่ก่อน
ตัวพี่ย้อน กลับมา พาไปสิ้น
ปล่อยให้เรา ปวดร้าว น้ำตาริน
ฝันสูญสิ้น เลือนลับ ไม่กลับมา.......

                         "จาวตาล"
.....@ ดวงใจ..ดวงตา @.....
.....หนูน้อยคนดี
เจ้านี้เริงร่า
ปากแก้มนัยน์ตา
เจิดจ้าแจ่มใส
.....แย้มยิ้มพริ้มพราว
หน้าขาวละมัย
แม่เปรียบเจ้าไซร้
ดวงใจ..ดวงตา
.....แม่คอยเห่กล่อม
ถนอมนักหนา
หลับกับอุรา
จะพาเจ้านอน
.....ขวัญอ่อนฝันหวาน
บนบานเว้าวอน
เทวาดิศร
ให้พรลูกยา
.....แม่เฝ้าใฝ่ฝัน
ถึงวันข้างหน้า
ลูกเรืองปัญญา
วิชาก้าวไกล
.....เจ้าเป็นคนดี
ชีวีปลอดภัย
รุ่งเรืองสุกใส
ใครใครชื่นชม

        โดย  "จาวตาล"
.....@ อุ่น...อ้อมแขน @.....
.....อบอุ่นจริงหนอ
เคล้าคลอไม่ห่าง
กลิ่นหอมจางจาง
ไม่สร่างไม่ซา
.....อ้อมแขนวงนี้
มีดีนักหนา
พักผ่อนกายา
เหนื่อยล้าบรรเทา
.....ทุกข์ร้อนใดใด
จิตใจเงียบเหงา
ซบแขนวงเก่า
ช่วยเราผ่อนคลาย
.....แขนใครรู้ไหม
ใกล้ใกล้ข้างกาย
รักเขาไม่หน่าย
ไม่คลายผันแปร
.....กอดแล้วอุ่นจัง
อุ่นยั่งยืนแท้
แต่เด็กจนแก่
แขนแม่ของเรา
           โดย  "จาวตาล"
"เก็บ.....รัก"
     ความรักมีค่า
รักษาเก็บไว้
ก่อนยกให้ใคร
คิดไกลถ้วนถี่
     ทนุถนอม
เก็บออมอย่างดี
เก็บไว้ที่นี่
เก็บที่ดวงใจ
     แม้นพบคนดี
ใจนี้มอบให้
ใช้ใจแลกใจ
มิใช่ให้ฟรี

โดย  "จาวตาล" พรรษพร  วิชัย /กรุงเทพ
 e-mail  
jawtan2000@yahoo.com
                            "ใจแกร่ง"
.....หนทางคิดย่างก้าว......แสนยาว ไกลนา
เดินเดี่ยวในอุรา...............เหว่ว้า
แอบพักกับวนา................ยามเหนื่อย กายแฮ
แสงแห่งตะวันจ้า............อ่อนล้าหมดไป

.....เส้นทางทอดยาวไกล........เดินต่อไปอย่างเหน็บหนาว
เจ็บปวดแสนรวดร้าว..............ต้องย่างก้าวเพียงลำพัง
.....ถึงกายจะเหนื่อยล้า...........สู้ฟันฝ่าให้ถึงฝั่ง
ความทุกข์และความหลัง........เป็นพลังให้ก้าวไป
.....เหนื่อยนักขอพักก่อน.......แนบใจอ้อนกับแนวไพร
ฟังเสียงธารน้ำไหล...............ขับกล่อมใจให้นิทรา
.....ยินสายลมโบกโบย............เม็ดฝนโปรยปรายลงมา

เย็นชื่นในวนา........................ใจอ่อนล้ากลับมีแรง
.....เมื่อถึงซึ่งวันใหม่...............ฟ้ามืดไปก็กลับแจ้ง
หัวใจต้องกล้าแกร่ง.................ดุจดั่งแสงแห่งตะวัน

               โดย  "จาวตาล"  พรรษพร  วิชัย /กรุงเทพ

"จาวตาล"

 

7smooth.com

 

| Home | การแต่งร้อยแก้ว | การแต่งร้อยกรอง | วิธีการร่วมสนุก | About Us | Top |
Weekly Poems | วันจันทร์ | วันอังคาร | วันพุธ | วันพฤหัสบดี | วันศุกร์ | วันเสาร์ | วันอาทิตย์ |
| นวนิยาย | บทละคร | เรื่องสั้น | บทความ | เรื่องที่อยากเล่า | นิทาน | ตำนาน-ชาดก | แนะนำหนังสือ | สาระ-เกร็ดความรู้ |
7Smooth.com Group
Copy Right 1999

poet2543@hotmail.com | poet2543@7smooth.com