โฮมเพจเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว



 

สารบัญ


มงคลสูตร์คำฉันท์


ต้นมงคลสูตร์

   สิบสองฉนำเหล่า นรอีกสุเทวา
รวมกันและตริหา สิริมังคะลาใด
   เทวามนุษทั่ว พหุภพประเทศใน
หมื่นจักระวาฬได้ ดำริห์สิ้นจิรังกาล
   แล้วยังบ่รู้มง- คะละสมมโนมาลย์
ด้วยกาละล่วงนาน บ่มิได้ประสงค์สม
   ได้เกิดซึ่งโกลา- หะละยิ่งมโหดม
ก้องถึง ณ ชั้นพรหม ธ สถิตสเทือนไป
   องค์โลกะนาถเทศน์    วรมังคะลาใด
ยังปาปะปวงให้ ทุษะเสื่อมวินาศมล
  ชนหลาย บ พึงนับ ผิสดับสุมงคล
ใดแล้วและรอดพ้น พหุทุกขะยายี
   เราควรจะกล่าวมง-   คะละอันประเสริฐที่
กอบด้วยคุณามี วรอัตถะเฉิดเฉลา

มงคลสูตร์

   องค์พระอานนท์ท่านเล่า   ว่าข้าพเจ้า
ได้ฟังมาแล้วดังนี้  
   สมัยหนึ่งพระผู้มี พระภาคชินสีห์
ผู้โลกนาถจอมธรรม์  
  ประทับ ณ เชตะวัน วิหาระอัน
อนาถะบิณฑิกไซร้  
  จัดสร้างอย่างดีที่ใน สาวัตถีให้
เปนที่สถิตสุขา  
  ครั้งนั้นแลเทวะดา องค์หนึ่งมหา-
นุภาพมหิทธิ์ฤทธี  
  ล่วงประถมยามราตรี เธอเปล่งรัศมี
อันเรืองระยับจับเนตร์  
  แสงกายเธอปลั่งยังเขต สวนแห่งเจ้าเชต
สว่างกระจ่างทั่วไป  
   องค์พระภควันนั้นไซร้ ประทับแห่งใด
ก็เข้าไปถึงที่นั้น  
   ครั้นเข้าใกล้แล้วจึ่งพลัน  ถวายอภิวันท์
แด่องค์สมเด็จทศพล  
   แล้วยืนที่ควรดำกล เสงี่ยมเจียมตน
แสดงเคารพนบศีร์  
   เมื่อเทวดายืนดี สมควร ณ ที่
ข้างหนึ่งดังกล่าวแล้วนั้น  
   จึ่งได้ทูลถามภควัน ด้วยถ้อยประพันธ์
เปนพระคาถาบรรจง  
   เทพอีกมนุษหวัง คติโสตถิจำนง
โปรดเทศะนามง- คะละเอกอุดมดี
   (ฝ่ายองค์สมเด็จชินสีห์ ตรัสตอบวาที
ด้วยพระคาถาไพจิตร์)  
  หนึ่งคือ บ่ คบพาล เพราะจะพาประพฤติผิด
หนึ่งคบกะบัณฑิต เพราะจะพาประสบผล
   หนึ่งกราบและบูชา อภิบูชะนีย์ชน
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
   ความอยู่ประเทศซึ่ง เหมาะและควรจะสุขี
อีกบุญญะการที่ ณ อดีตะมาดล
  อีกหมั่นประพฤติ์ควร ณ สะภาวะแห่งตน
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
   ความได้สดับมาก และกำหนดสุวาที
อีกศิลปะศาสตร์มี จะประกอบมนุญการ
   อีกหนึ่งวินัยอัน นรเรียนและเชี่ยวชาญ
อีกคำเพราะบรรสาน ฤดิแห่งประชาชน
   ทั้งสี่ประการล้วน จะประสิทธิ์มนุญผล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
   บำรุงบิดามา- ตุระด้วยหทัยปรีย์
หากลูกและเมียมี ก็ถนอมประหนึ่งตน
   การงานกระทำไป บ่ มิยุ่งและสับสน
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
  ให้ทาน ณ กาลควร และประพฤติ์สุธรรมศรี
อีกสงเคราะห์ญาติที่ ปฏิบัติบำเรอตน
   กอบกรรมะอันไร้ ทุษะกลั้วและมัวมล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
  ความงดประพฤติ์บาป อกุศล บ่ ให้มี
สำรวมวรินทรีย์ และสุรา บ่ เมามล
   ความไม่ประมาทใน พหุธรรมะโกศล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
  เคารพ ณ ผู้ควร จะประณตและนอบศีร์
อีกหนึ่งมิได้มี จะกระด้างและจองหอง
  ยินดี ณ ของตน บ่ มิโลภทยานปอง
อีกรู้คุณาของ นรผู้ประคองตน
  ฟังธรรมะโดยกา- ละเจริญคุณานนท์
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
   มีจิตตะอดทน และสถิต ณ ขันตี
อีกหนึ่ง บ่ พึงมี ฤดิดื้อทนงหาญ
   หนึ่งเห็นคณาเลิด สมณาวราจารย์
กล่าวธรรมะโดยกาล วรกิจจะโกศล
   ทั้งสี่ประการล้วน จะประสิทธิ์มนุญผล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
   เพียรเผากิเลสล้าง มละโทษะยายี
อีกหนึ่งประพฤติ์ดี ดุจะพรหมพิสุทธ์สรรพ์
  เห็นแจ้ง ณ สี่องค์ พระอะรียสัจอัน
อาจนำมนุษผัน ติระข้ามทเลวน
   อีกทำพระนิพพา- นะประจักษ์ะแก่ชน
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
   จิตใครผิได้ต้อง วรโลกะธรรมศรี
แล้วย่อม บ่ พึงมี จะประหวั่น ฤ กังวล
   ไร้โศกธุลีสูญ แลสบาย บ่ มัวมล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
  เทวามนุษทำ วรมงคะลาฉนี้
เปนผู้ประเสริฐที่ บ่มิแพ้ ณ แห่งหน
   ย่อมถึงสวัสดี สิริทุกประการดล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี