โฮมเพจเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว



 

สารบัญ


การพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่ง


  • ผลจากการพัฒนากิจการรถไฟ

โครงการพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งทางรถไฟที่ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตลอดรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น อาจสรุปได้ว่าก่อให้เกิดผลดีในด้านต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้

1.การขยายตัวของการค้าภายในประเทศ

ผลจากการขยายเส้นทางรถไฟ เข้าไปสู่หัวเมืองในภาคต่าง ๆ ทำให้การขนส่งสินค้าทำได้สะดวกขึ้น และต้นทุนค่าขนส่งต่ำลงมาก การค้าจึงขยายตัวขึ้นอย่างกว้างขวาง ทั้งการค้าภายในและการค้าระหว่างเขต ดังเช่นในกรณีของการขยายเส้นทางรถไฟสายเหนือ เมื่อเปิดเดินรถได้ถึงลำปางก็ช่วยแก้ปัญหาความขาดแคลนข้าวของเมืองลำปาง ซึ่งเคยเป็นมาช้านานลงได้ เนื่องจากเมื่อการขนส่งสะดวกรวดเร็วขึ้น ทำให้มีการขยายการเพาะปลูกเพื่อการค้ากันมาก

"...ข้าวเจ้าก็มีคนเริ่มทำมากแล้ว ถ้าเป็นสินค้าออกได้คงจะมีผู้ทำมากขึ้น แสดงให้เห็นปรากฏได้ว่านครลำปางเคยเป็นจังหวัดที่อดข้าว ตั้งแต่รถไฟถึงคนทำนามากขึ้น แลในขณะนี้ถึงส่งข้าวออกขาย แลราคาก็ไม่ขึ้นมากเลย ด้วย เหตุที่เมื่อราคาขึ้นบ้าง ทางได้ก็ตกเข้ามาทันที"

นอกจากนั้น เมื่อเส้นทางรถไฟจากลำปางถึงเชียงใหม่เปิดเดินรถได้ ก็ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าลดลงอีกมาก เปิดโอกาสให้มีการค้าระหว่างเมืองเหนือกับกรุงเทพฯ เพิ่มมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการค้ากับเขตพม่าเป็นหลักเหมือนแต่ก่อน

"ในคราวที่ไปถึงเชียงใหม่คราวนี้ ได้ประชุมพ่อค้าไต่ถามข้อความต่าง ๆ แลได้วานอุปราชให้ช่วยหาหลักฐานของจำนวนสินค้าให้ คงได้ความดังนี้ สินค้าเวลานี้เดินอยู่เป็น 2 ทาง ทางหนึ่ง ทางน้ำซึ่งเป็นทางสะดวก กับทางหนึ่งใช้ต่างบรรทุกของจากปลายรางคือ ที่ปางยางหรือที่ลำปาง ทั้ง 2 ทางนี้พาหนะยังไม่เพียงพอที่จะขนได้ทันความต้องการ ทั้งยังแพมากด้วย........ โดยเหตุฉะนี้ พ่อค้าจึงต้องการให้รถไฟถึงมากนัก เพราะรถไฟคงจะขนของได้ถูกกว่านี้เป็นอันมากแน่ ...ถ้าทำให้ค่าขนน้อยลงได้ เชื่อว่าสินค้าจะเดินหลายเท่านี้ ทั้งจะมีการขนสัตว์ลงทางใต้มากไม่ใช่น้อย "

2. ผลตอบแทนจากการส่งออก

การขนส่งที่สะดวกและต้นทุนต่ำลงมาก นอกจากจะทำให้การผลิตและการค้าภายในประเทศขยายตัวแล้ว ยังทำให้มีการขยายการผลิตและส่งออกเพิ่มขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะการขยายการทำนาออกไป ทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง พร้อมกันไปกับการขยายเส้นทางรถไฟไปสู่ทั้ง 2 ภาคนั้น

"...ยังมีสินค้าอย่างอื่นอีกหลาย ๆ อย่าง ที่ไม่มียานพาหนะอันสะดวกที่จะส่งไปมา ก็จะเกิดเป็นสินค้าส่งไปมาได้โดยทางรถไฟ แลจะเป็นโอกาสชักนำให้ราษฎรทำการเพาะปลูกธัญญาหารเจริญขึ้นถึงส่งเป็นสินค้าได้ เพราะเมื่อทำทางรถไฟไปแล้ว ก็จัดทำคูซึ่งขุดดินขึ้นถมทางรถไฟ ให้เป็นเหมืองทางไขน้ำเข้ามาได้สะดวก"

นอกจากนั้น ในกรณีของทางรถไฟสายใต้ซึ่งเชื่อมต่อกับมลายูของอังกฤษนั้น ก็เป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าส่งออกที่สำคัญ เพราะมีสินค้าจำนวนมากซึ่งเป็นที่ต้องการ และราคาสูงในตลาดมลายู

"...ได้สังเกตดูสินค้าซึ่งส่งออกไปปาดังเบซาร์โดยขบวนรถรวม มีไก่ส่งจากพัทลุงในรถเที่ยวหนึ่ง ๆ บรรทุกไปประมาณ 500 ตัว และได้ทราบ เกล้าฯ ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ส่งไปเที่ยวเดียวถึง 1,500 ตัว นอกจากนี้ยังมีสุกรที่ต้นสำโรง โพธารามและบ้านโป่งออกไปอีกบ้าง การที่สัตว์เหล่านี้ออกไปมากเช่นนี้ก็เพราะราคาของสัตว์เหล่านี้ในแดนสยามตอนใต้ ถูกกว่าราคาในแหลมมลายูของอังกฤษเป็นอันมาก...........ส่วนสินค้าอื่นเช่นข้าวสาร เกลือ รำ นั้น ออกไปทุกอาทิตย์จากกรุงเทพฯ ด้วยรถพิเศษ"

    หน้า 11   

    หน้า 13