ภาคผนวก |
|
หนังสือต้นกำเนิดของหนังสือ |
หลักฐานที่ยืนยันว่า |
หลักฐานยืนยันว่า |
ไม่มีการปลอมปนในเนื้อหา |
หนังสือ
"พุทธธรรม" (ฉบับ ๒๐๖ หน้า)
เล่มนี้ |
แสดงให้เห็นเจตนาของผู้พิมพ์ |
ฉบับล่าสุด
พิมพ์ครั้งที่ ๗ |
หนังสือยืนยันว่า |
เอกสารยืนยันความเร่งด่วนของ
พรบ.การศึกษาแห่งชาติฯ |
การแก้ไข
พรบ.ราชบัณฑิตยสถาน |
นายกีรติ
บุญเจือ (คริสเตียน) |
ความผิดปกติในการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิทางวัฒนธรรม |
เอกสารยืนยัน
นายนิเชต สุนทรพิทักษ์
เป็นประธานกรรมการ |
นายนิเชต
สุนทรพิทักษ์ เมื่อครั้งเป็น
อธิบดีกรมการฝึกหัดครู(พ.ศ.๒๕๓๗) |
ความผิดปกติภายในหนังสือเล่มนี้
|
หนังสือนี้ใช้ประกอบการศึกษา
จัดพิมพ์โดย กรมวิชาการ |
เอกสารพิสูจน์
การสร้างสถานการณ์ทำลายพระพุทธศาสนา |
ผังการปกครองคณะสงฆ์ฉบับใหม่
นำเสนอโดย |
หนังสือหลักฐานยืนยันว่า
"อุดมธรรม" เป็นของคริสเตียน |
|
หนังสือ
"ศาสนาคริสต์" แต่งโดย นายเสรี
พงศ์พิศ |
หลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ของขบวนการ |
ข้อพิสูจน์การปลอมลายพระหัตถ์สมเด็จพระสังฆราช
- ของจริง จะขมวดกลม เพราะเจ้าของพระนามจะขมวดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น - ของปลอม จะเป็นมุมแหลมขยัก เพราะไม่สามารถขมวดหนเดียวได้ เพราะไม่ใช่ลายเซ็นต์ของตนเอง จึงมีลักษณะขยักเป็นช่วงๆ เห็นชัดตลอดทั้งพระนาม คำถามจึงอยู่ที่ว่า "ใครคือผู้ปลอมพระนาม, และพระลิขิต"??? ข้อพิสูจน์การปลอมแปลงพระลิขิต
โดยใช้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือ
ปี พ.ศ.๒๕๔๒
วันที่ 1 พ.ค. ผู้สื่อข่าว "พิมพ์ไทย" ได้ไปสังเกตการณ์ ที่วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช และตามที่สื่อมวลชน ระบุว่า เป็นพระบัญชา มีผลทำให้ เจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย ปาราชิกนั้น ปรากฏว่า จากการเปิดเผยของ พระราชรัตนมงคล เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ยืนยันว่า หากเป็นพระบัญชาของสมเด็จ จะต้องผ่านทางเลขานุการสมเด็จฯ อาตมามีหน้าที่รับผิดชอบ ยังไม่เคยเห็น และไม่รู้เรื่องใดทั้งสิ้น
หากเลขาสมเด็จพระสังฆราชทำหนังสือ 258/2542 ลงวันที่ 29 เมษายน 2542 จริง ท่านจะกล่าวเท็จเพื่ออะไร ว่าไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นพระลิขิต (สัมภาษณ์วันที่ 1 พฤษภาคม ห่างกัน 3 วันที่หนังสือออก) คำถามอยู่ที่ว่า ใครทำหนังสือนั้น และลงนามแทนท่านเพื่ออะไร? ต้องการให้พระลิขิตเป็นของจริงและมีผลบังคับใช่หรือไม่? เอกสารนี้สำคัญที่สุดในทางกฎหมาย ปลอมเพื่อแจกจ่าย "พระลิขิต" เอกสารนี้ปลอมเพื่อแจกจ่าย "พระลิขิต" ฉบับแรก เพราะพระราชรัตนมงคลไม่รู้เรื่อง ให้สัมภาษณ์ว่า "กูไม่รู้เรื่อง...ไม่เคยเห็นพระลิขิต" เหตุใดจึงมีเอกสารนี้ออกไป และเป็นไปได้อย่างไรที่เอกสารราชการไม่มีการตรวจทานความถูกต้อง ขณะเดียวกันอธิบดีกรมการศาสนาก็ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องเช่นกัน (1 พ.ค. 42) ข้อสังเกตในเอกสารปลอมฉบับนี้
2. คำว่า "บิดเบือนพระพุทธธรรมคำทรงสอน" ในเอกสารราชการจะใช้คำว่า "พระธรรมวินัย" ซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่า เป็นการยัดเยียดแทนคำว่าพระธรรมวินัย คำว่า "พุทธธรรม" เป็นคำที่พระธรรมปิฎกพยายามใช้แทนคำว่า "พระธรรมวินัย และพระสัทธรรม" 3. - ในเอกสารคำว่า "มีรายละเอียดตามที่เจ้ง" พิมพ์ผิด ต้องเป็นคำว่า "มีรายละเอียดตามที่แจ้ง" - ในเอกสารคำว่า "เอกสารพระของสมเด็จพระสังฆราช" เป็นการพิมพ์ตก ต้องเป็นคำว่า "เอกสารพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช" ทั้ง ๒ แห่งนี้ เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่เอกสารสำคัญที่ออกจากสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชจะไม่มีการตรวจทานคำผิด 4.ในย่อหน้าที่สอง มีคำว่า "และแจกออกเผยแพร่เอกสารดังกล่าว" เป็นการกระทำอันละเมิดต่อ "ระเบียบการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2517 (ว่าด้วยเอกสารทางราชการ) ดังที่กระผมได้อธิบายไว้แล้วในหนังสือเล่มนี้เรื่อง "ลิขิตนี้ท่านได้แต่ใดมา?" หัวข้อในด้านกฎหมายและพฤติกรรม ข้อที่ 4 5.ลายเซ็นของพระราชรัตนมงคลในเอกสารฉบับนี้ เป็นลายเซ็นปลอม สังเกตจากตัวอักษร "พ" ตัวแรก และตรงอักษรตัวสุดท้ายซึ่งลากผิดด้าน (ดูเปรียบเทียบกับลายเซ็นจริงได้ที่หน้า 112) บทสรุปและคำถามของชาวพุทธ หลักฐานจากธนาคาร แสดงการโอนเงินเข้าสู่บัญชีส่วนตัว ของเจัาหน้าที่กรมการศาสนา ก่อนมีการสร้างเหตุการณ์ ทำลายพระราชาคณะ องค์กรปกครองคณะสงฆ์ไทย วัด และพระภิกษุสงฆ์ ในพระพุทธศาสนา ที่สอนวิชา "สมาธิจิต" ตามพระไตรปิฎกเถรวาท โปรดสังเกตว่า หลังโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว เจ้าของบัญชีนั้น ได้ปิดบัญชีทันที เพราะเหตุใด และเงินนั้นจ่ายค่าอะไร เจ้าหน้าที่กรมกราศาสนาผู้นี้ ทำธุรกิจอะไร จะเห็นว่า จำนวนเงินที่โอนเข้าบัญชีนั้น รวมทั้งสิ้น ๒๐๙,๕๓๒,๙๔๒.๕๑ บาท ถูกโอนเข้ามาโดยใคร? นำไปใช้เรื่องอะไร? สมควรหรือไม่ที่เจ้าพนักงานจะใช้อำนาจตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.๒๕๔๒ ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน คำถามก็คือ |