เรื่องสั้นของกิ่งฉัตร

สำนักพิมพ์ ตุ๋ย ในเครือเพื่อนป่วน

(นายตะวัน + wowaey + be + nidcha)   ภูมิใจเสนอ...

ศิลปินทอมๆ

"ทองหลางลาย"

ตีพิมพ์ครั้งแรก นิตยสารสตรีสาร


ในช่วง ๒–๓ เดือนที่ผ่านมา ทางวงดนตรีของมหาวิทยาลัยได้จัดการประกวดร้องเพลงขึ้น มีการประกวดทั้งเพลงสากล ไทยสากล และเพลงลูกทุ่ง ผู้ชนะการประกวดหรือเข้าประกวด ได้ในรอบสุดท้ายก็จะเป็นนักร้องของวงไปโดยปริยาย เรียกง่ายๆก็คือการคัดนักร้องเข้าวง ว่างั้นเถอะ   และในกลุ่มของฉันซึ่งบรรจุเพียบไปด้วยศิลปินหลายประเภททั้ง นักกวี นักร้อง จิตรกร ก็มีความตื่นตัวเป็นพิเศษในการประกาศนี้ด้วย

พวกเราพยายามผลักดันศิลปินเสียงใสประจำกลุ่มให้ร่วมลงสมัครในประเภทไทยสากลด้วย ซึ่งน้องอัป(ชื่อเต็มๆของน้องอัปแปลว่า นางฟ้า นางสวรรค์ อะไรทำนองนั้น) ก็จำใจด้วย ความอยากนิดๆ ลงสมัครตามแรงผลักดันของเพื่อนๆ

ว่ากันตรงๆแล้วตอนแรกฉันออกจะแปลกใจด้วยซ้ำ เพราะถึงน้องอัปจะเสียงดีแต่ก็จะออกไป ทางโทนเสียงต่ำๆอยู่ และฉันก็ยังไม่เคยเห็นน้องอัปร้องเพลงๆได้จนจบเสียที จึงออกจะหวั่นๆ ว่าแรงยุครั้งนี้จะส่งเพื่อนไปขายหน้าหรือไม่แต่เห็นจะต้องเสี่ยงละ ไม่ลองก็ไม่รู้ไม่ใช่หรือ

เขียนมานาน ถ้าไม่บอกรายละเอียดตัว(นาง)เอกของเรื่องก็จะดูแปลกๆอยู่ จริงไหม ฉันจึงอยากจะสาธยายถึงเพื่อนคนนี้เสียหน่อยจะได้ไม่ผิดฟอร์ม    น้องอัปเป็นสตรีที่สูงกิน ขาดที่สุดในกลุ่ม คงเกือบจะ ๑๖๕ ซ.ม.ได้กระมัง บางคนอาจจะค้านว่า๑๖๕ไม่เห็นสูงเท่า ไหร่เลย    แต่ถ้าวัดจากมาตรฐานเฉลี่ยในกลุ่มแล้ว ก็สูงจนคนบางคนในกลุ่มต้องเงยหน้าพูด ด้วยก็แล้วกัน (ก็กลุ่มของฉันนะใช้มาตรฐานหญิงไทยสมัยก่อนเป็นเกณฑ์คือ ๑๕๐ ซ.ม.) บ่าทั้งสองของน้องอัปออกจะกว้างเหมือนนักรักบี้    เวลาดูเผินๆข้างหลังอาจนึกว่าเป็นผู้ชาย ไปก็ได้      น้องอัปไม่ใช่คนสวย ผมของหล่อนดูตั้งๆแข็งๆ(เพราะเยล)และซอยสั้นๆจนดู คล้ายรังนกกระจอกไปนิด ตามความคิดของฉัน ตาของหล่อนก็เล็กไปหน่อย เหมือนกับ เวลาเม็ดก๋วยจี๊เม็ดโตๆ ๒ เม็ดวางลงบนกระดาษขาวไงงั้น น้องอัปจึงมักใส่แว่นตาดำเป็น ประจำ แต่น้องอัปก็มีกระ๒–๓จุดบนดั้งจมูกเหมือนเด็กฝรั่ง ดูเก๋ไม่หยอกเชียว    แม้ว่า น้องอัป จะเป็นผู้หญิงทั้งแท่ง แต่หล่อนก็ไม่สนใจผู้ชายพายเรือเท่าไหร่     ในความคิดแล้ว ผู้หญิงน่ารักกว่าผู้ชายเป็นกอง ดังนั้นการที่จะเรียกน้องอัปว่าศิลปินทอมๆคงจะไม่ผิด เท่าไหร่จริงไหม

น้องอัปตกลงใจใช้เพลง หนึ่งมิตรชิดใกล้ ของอัสนี-วสันต์ที่กำลังฟู่ฟ่าในขณะนั้น เป็นเพลง ประกวดในรอบแรก ผู้เข้าแข่งรอบแรกมีมากมายเป็นร้อยเชียว    น้องอัปของกลุ่มฉันก็ต้อง ฝ่าฟันมาด้วยความยากลำบากด้วยการที่ ’เสียงไม่ให้ แต่มาดเฉียบ’     คิดดูแล้วกัน เพลงช้าๆแบบ หนึ่งมิตรชิดใกล้ น้องอัปยังเต้นได้ ในวันนั้นน้องอัปชนะใจคนดูอย่างล้นหลาม ก็เพราะเต้นเพลง หนึ่งมิตรชิดใกล้ นี่เอง

ระยะที่รอเวลาการประกาศผลการตัดสินรอบแรกนั้น น้องอัปควักแว่นตาดำส่วมเป็นประจำ มาใส่ แล้วเดินผึ่งไปผึ่งมา ทำท่าที่คิดว่าเท่ห์ (แต่คนอื่นไม่เห็นด้วยเท่าไหร่) เที่ยวป่าว ประกาศว่า’ศิลปินคนใหม่..อัปสร’ หรือไม่ก็ ‘คอยดูอัปอินคอนเสิร์ต’ เพื่อนๆพากันแกล้ง ร่ำไห้ด้วยความกลัวว่า เมื่อเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แล้วน้องอัปจะลืมเพื่อนๆในกลุ่มหมด คือเป็นการแสดงละครแก้เคล็ดอย่างหนึ่ง    ด้วยกลัวว่าจะตกตั้งแต่รอบแรกเลยต้องแสดง ละครปลอบใจเพื่อน แล้วละครแก้เคล็ดก็ดูจะได้ผลจริงๆ น้องอัปติดอันดับเข้าไปอย่างลอยลำ ด้วยคะแนนบุคลิกเป็นตัวนำ

ระหว่างรอการประกวดรอบสอง พวกเราช่วยกันเป็นกำลังใจให้น้องอัป ด้วยการรวมกลุ่ม เวลาที่ไม่ใช่เวลาเรียน หรือเวลาที่เรียนแล้วไม่เรียน มาตะโกนร้องเพลงกันเป็นแถวๆ ใต้ตึกกิจกรรม สมมุติว่าท่านเดินผ่านไปมาบริเวณนั้น ถ้าเห็นสาวๆกลุ่มไม่เล็กนั่ง ระเกะระกะ บางคนสวมแว่นดำ มือถือขวดเป๊ปซี่ ขวดโค้กหรือวัสดุอื่นๆที่พอจะหยิบฉวยได้ ใช้ต่างไมโครโฟน หลับหูหลับตาแข่งกันตะเบ็งเสียงร้องเพลงอย่างโหยหวน     โปรดอย่า แปลกใจ เพราะนั่นเป็นวิธีช่วยเพื่อนของเราอย่างหนึ่งละ

เพลงที่น้องอัปจะใช้คัดเลือกในรอบ ๒ นี้ ได้แก่เพลง อย่าอาวรณ์ ดังที่กล่าวมาแล้วว่า น้ำเสียงของน้องอัป ออกไปทางโทนต่ำๆ และเผอิญเพลงนี้คำสุดท้ายที่ว่า อย่าอาวรณ์ ซึ่งเป็นไคลแมกซ์ของเพลงจะต้องใช้เสียงสูงมากๆ ดังนั้นในช่วงก่อนประกวด    พวกเรา มักจะไม่ได้ยินน้องอัปซ้อมพูดอะไรมากนอกจาก ‘อย่าอาวรณ์..อย่าอาวรณ์..อย่าอาวรณ์…’ ร้องจนเสียงแหบเสียงแห้ง ก็ยังอย่าอาวรณ์ไม่ได้ถูกใจเสียที น้องอัปได้แต่ส่ายหัวจนผม แข็งๆ สั่นดุ๊กดิ๊ก ‘แล้วแต่ดวง’ หล่อนปลง      ด้วยเหตุจำเป็นบางประการทำให้ฉันพลาดชม การประกวดคัดเลือกครั้งที่ ๒ นี้ไปอย่างน่าเสียดาย     จึงต้องใช้คำบอกเล่าของเพื่อนๆ มาช่วยบรรยายเหตุการณ์แทน

“เฉียบขาดเหมือนเดิม” เพื่อนเสริม
“ใครๆก็ชมว่าร้องดี” คนนี้เป็นนักร้องประจำวงดนตรีมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว จะเรียกว่าเป็น สายสืบให้พวกเราก็ได้    ผลการประกวดรอบ ๒ นี้ เร็วกว่ารอบแรกมากเพราะจำนวนคน ที่เข้าประกวดมีน้อย(ก็ถูกเขี่ยออกไปตอนการ ประกวดรอบแรกเสียกว่าครึ่ง) และแน่นอน ด้วยความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง น้องอัปของกลุ่มฉันก็ได้กระป๋อหลอประกวดชิงแชมป์ ในหอประชุมเล็กจนได้

เพลงสำคัญเพลงสุดท้ายนี้น้องอัปได้เลือกเพลง ผู้หญิงคนนี้ ของแหวน-ฐิติมา สุตสุนทร   เพลงนี้ก็ประสบปัญหาเช่นเดิม คือเสียงในบางตอน’ขึ้น’ ไม่ถึง การซ้อมร้องนั้นดี ทุกอย่าง เว้นแต่(สำคัญก็คำว่า แต่นี่แหละ) มีอยู่ช่วงหนึ่งซึ่งมีเนื้อว่า ‘จริงๆมีหัวใจปวดใจก็ร้องไห้..ก็เป็นเหมือนใครๆมีหัวใจ มีน้ำตา’   น้องอัปขึ้นคำว่า ไห้ ไม่ถึง พอถึงคำว่า ยังร้อง คำว่า ไห้ แทบจะหายไปเลย เพราะเปล่งเสียงไม่ออก น้องอัปพยายามอยู่หลายครั้งแต่ก็ยัง’ล่ม’ ตรงจุดนี้อยู่ดี และยิ่งเห็นพวกกระทิที่คั้นมา เพื่อ ประกวดด้วยนั้น ก็ออกจะหมดกำลังใจไปทีเดียว แต่น้องอัปก็แสดงเลือดนักสู้ ทุ่มเต็มที่ด้วย ยังมีความหวังแม้จะน้อยเต็มที

ในที่สุดวันแข่งขันก็มาถึง    หอประชุมเล็กของมหาวิทยาลัยแน่นเอี๊ยดจะเรียกว่าแทบ จะเหยียบกันตาย กลุ่มของฉันจับจองหน้าเวทีเป็นสมรภูมิเตรียมออกศึกในฐานะ’หน้าม้า’ เต็มที่ก่อนแข่งได้ซื้อผ้า ดิบมาเขียนคำขวัญ ‘ผู้หญิงคนนี้…เด็ดจริงๆ’ โดยเกณฑ์ นักศิลปะของกลุ่มมาช่วยกันป้ายๆอย่างรวดเร็ว ซื้อดอกกุหลาบที่ขายเป็นกำๆห่อหนังสือพิมพ์จากท่าพระจันทร์สำหรับใช้ในการนี้ เพียบ แค่แกะ ออกจากห่อก็ใช้ได้แล้ว ไม่ต้องห่อกระดาษแก้วหรือเสริม แต่งใดๆทั้งสิ้น ก็มันเปลือง

รออยู่นานจนกว่าจะถึงคิวน้องอัป รุ่นพี่ที่เป็นโฆษกกล่าวเปิดตัวให้ว่า
“เธอจะมายืนยันว่า เธอเป็นผู้หญิงคนนี้ จริงๆค่ะ”
น้องอัปถลาออกมาหน้าเวทีด้วยความมั่นใจ พร้อมที่จะดิ้นอย่างเต็มที่ แม้จะแต่งตัว นักศึกษา(หญิง)ก็เป็นชุดแบบทอมนิดๆ เท่ห์หน่อยๆ กระโปรงยีนส์สีซีด กับเสื้อเชิ้ตขาว ตัวโต     เสียงกรีดร้องก้องจากหน้าม้ากระหึ่มทั่วหอประชุม(แสดงสปิริตหน้าม้าเต็มที่)
ดนตรีเริ่มด้วยจังหวะมันส์ๆทำให้คนดูพลอยคึกคักตามไปด้วยน้องอัปก็เริ่มร้องด้วย เสียงอันกระเส่า (ตอนแรกฉันนึกว่าเป็น เพราะความประหม่าเวที แต่เจ้าตัวมายืนยัน ภายหลังว่า ต้องทำเสียงอย่างนั้นจริงๆ จึงจะถูกตามสไตล์คนร้องเดิม)
“อยากๆบอกซักนิด บอกให้คิดซักหน่อย…” เจ้าหล่อนวาดลวดลายเต็มที่ตามที่ฝึกมาอย่างดี มีทั้งสะบัดหน้า สะบัดไหล่ ขยับเท้าตามจังหวะ ยกมือยกไม้ชี้โบ้ชี้เบ้ ประกอบเพลงเรียก ได้ว่าเฉียบจริงๆ เสียงคนกรี๊ดๆ แสดงความพอใจสะใจตลอดเวลา (คราวนี้ไม่ใช่แค่ หน้าม้านะ) พอถึงช่วงที่เป็นจังหวะดนตรีล้วนๆ บรรดาหน้าม้าต่างก็กรูผวาเข้ามามอบ ดอกไม้กันจ้าละหวั่น    เพื่อนคนหนึ่งของฉันกระโดดขึ้นเวทีไปสวมแว่นกันแดดให้น้องอัป ผ้าดิบเขียนาคำขวัญถูกคลี่กางและขยับโบกไปมา แต่น่าเสียดายที่ห้องประชุมมืดไป หน่อยเลย ไม่มีคนเห็น    แต่แล้วก็เกิดการผิดพลาดขึ้นจนได้ ศิลปินคนเก่งของกลุ่มเราดัน ลืมเนื้อร้องไปท่อนหนึ่ง ท่อนไหนน่ะหรือก็ท่อน “ปวดใจยังร้องไห้” ที่ล่มเป็นประจำนั่นแหละ น้องอัปไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ร้องออกไปก็จะไม่ทันดนตรี เลยต้องปล่อยเลยตามเลย แต่ก็ พยายามขยับมือขยับเท้าก้าวหน้าก้าวหลัง เพื่อไม่ให้คนดูจับพิรุธได้ จนกระทั่งขึ้นท่อนใหม่ จึงร้องต่อ กลยุทธ์นี้ก็ใช้ได้ผลพอสมควร โดยเฉพาะกับพวกหน้าม้าที่มาสารภาพทีหลัง ว่าไม่ค่อยได้ฟังเสียงเท่าไหร่ เพราะเสียงร้องกรี๊ดๆๆ(ของตัวเองและเพื่อนข้างๆ ซึ่งเป็น กลุ่มเดียวกัน) กลบไปหมด และมัวดูท่าเต้นเพลินจนไม่รู้ว่าเพลงหายไปไหนท่อนนึง
ฉันต้องรีบกลับบ้านก่อน เลยไม่ได้ผลการตัดสิน แต่ก็พอรู้อยู่แล้ว โถ ก็เนื้อร้องหายไปทั้ง ท่อนนี่น่ะจะชนะก็ให้มันรู้ไป รุ่งเช้าฉันก็ถามเพื่อนที่อยู่ดูจนประกาศผล เพราะไม่กล้าไป ถามน้องอัปเอง ว่าเป็นยังไงบ้าง


“แพ้หรือชนะ ตอบมาคำเดียว” ฉันถาม


“ชนะ” เพื่อนฉันบอกเสียงดัง ก่อนจะหรี่เสียงลง “ใจคนดู”


ก็รู้ๆอยู่ ถามไปงั้นเอง

 

ตีพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ ตุ๋ย ในเครือเพื่อนป่วน (นายตะวัน + wowaey + be + nidcha)

รู้สึกอย่างไรกับบทความนี้ ติดต่อเวปมาสเตอร์

[ หน้าบ้าน ] [ ประวัติ ] [ ผลงาน ] [ เรื่องย่อ ] [ สัมภาษณ์ ] [ สมุดเยี่ยม ] [ หลังบ้าน ]


"บ้านกิ่งฉัตร" เป็นโฮมเพจกิ่งฉัตรอย่างไม่เป็นทางการ    มิได้จัดทำขึ้นเพื่อผลประโยชน์ใดๆแก่ผู้จัดทำ    "กิ่งฉัตร" และผลงานที่อ้างอิงบนโฮมเพจนี้   ยังคงเป็นสิทธิ์ของผู้เขียนและผู้พิมพ์ทุกประการ

"บ้านกิ่งฉัตร" จัดทำโดย กมลวรรณ อ่อนละมัย   7 ก.พ. 2544   โดยได้รับการเอื้อเฟื้อข้อมูลจากแฟนกิ่งฉัตรบนบอร์ด Chulabook