บทความของกิ่งฉัตร

ขอขอบคุณ พี่ be supergirl   ผู้ส่งบทความเข้ามา (เจ้าค่ะ...^_^ ) 

ปาริฉัตร ศาลิคุปต แสงดาวฝั่งทะเล

บทความ โดย กิ่งฉัตร

จากนิตยสารแพรว   คอลัมน์ ฮอลิเดย์คนดัง  โดย สิปปกร ปีที่๒๒ ฉ.๕๒๘   ๒๕ ส.ค. ๒๕๔๔


หลายปีก่อน ดิฉันจะเดินทางจากลอสแองเจลิสไปเรียนหนังสือที่เมืองซีแอตเติล

มลรัฐวอชิงตัน แต่ตั๋วเครื่องบินเต็มเสียก่อน จึงตัดสินใจเดินทางไปกับรถไฟท่องเที่ยวของ สหรัฐอเมริกา

ก่อนหน้านั้นไม่นาน รถไฟแอมแทรคเกิดอุบัติเหตุใหญ่สองครั้งติดกัน ผู้คนจึงหวาดกลัว ที่จะใช้บริการ เขาจึงลดราคาค่าบริการลงกว่าครึ่งเพื่อดึงดูดใจลูกค้า ทำให้ดิฉันได้ตั๋ว ในราคาที่ถูกมาก

“แสงดาวฝั่งทะเล” (Coast Starlight) เป็นชื่อที่เก๋ไม่หยอกของรถไฟสายที่ดิฉันนั่งไป เริ่มต้นจาก

ลอสแองเจลิสเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ผ่านมลรัฐออริกอน ไปสุดสายที่ซีแอตเติล ขณะที่สายที่แล่นจาก

ลอสแองเจลิสไปชิคาโก ชื่อว่าพายุทะเลทราย ( Desert Wind) หรือสายจากซีแอตเติล ไปชิคาโกเรียกผู้บุกเบิก (Pioneer) ซึ่งตั้งตามลักษณะภูมิประเทศและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่รถไฟผ่าน

ก่อนจะนั่งรถไฟแอมแทรค ดิฉันคิดว่าคงเหมือนกับรถไฟไทยเป็นแน่ แต่ที่เห็นเป็นคน ละแบบกันเลย แอมแทรคเป็นรถไฟสองชั้น ชั้นล่างเป็นห้องน้ำชายหญิง ห้องแต่งตัวขนาดกว้าง หรูหรามาก ส่วนชั้นบนลักษณะคล้ายรถทัวร์วีไอพีของเมืองไทย มีเก้าอี้ขนาดใหญ่สองตัวเรียงเป็นสองแถวยาวไปตลอดตู้ มีแผ่นพับแนะนำ แผนที่ประจำ ทุกที่นั่ง และมีสัญลักษณ์แนะนำวิวข้างทาง โดยมีตู้ชมวิวอยู่กลางขบวน กรุด้วยกระจก ใสบานใหญ่ทั้งสองด้าน และมีกระจกบานเล็กโค้งสูงอยู่เหนือศีรษะ ทำให้เห็นวิวรอบด้าน ส่วนเก้าอี้นั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่างสามารถขยับเก้าอี้หมุนไปมา เลือกชมวิวที่ถูกใจได้อย่างสะดวก

“แสงดาวฝั่งทะเล” สายนี้จะแล่นช้าๆเหมือนต้องการให้ผู้คนในรถได้ชื่นชมกับธรรมชาติที่งามจนสุด บรรยายอย่างจุใจเวลาที่วิ่งเลียบชายฝั่ง เราจะเห็นมหาสมุทรแปซิฟิกสีน้ำเงินจัด หากโชคดี ห่างออกไปจะมีโลมาว่ายกระโจนไปมา เวลาที่ผ่านเขตทุ่งหญ้าในออริกอนจะเห็น คาวบอย ขี่ม้าต้อนฝูงวัวในไร่ปศุสัตว์ หรือเวลาตัวรถไต่อยู่บนยอดเขาสูง มองลงไปเห็นทางรถเล็กๆ ขนานอยู่บนไหล่เขาลิบๆผ่านหุบเหวที่เบื้องล่างแน่นไปด้วยต้นสนสีเขียวสดตัดกับยอดขาว โพลนด้วยหิมะ เรียกว่าต้องเห็นด้วยตาของตัวเองเท่านั้นแล้วจะรู้ว่าสวยมาก ประทับใจตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางจริงๆ

หากมาถึงซีแอตเติลต้องแวะสเปซนีดเดิ้ล สัญลักษณ์ของเมือง ตั้งอยู่ในเขตดาวน์ทาวน์ เป็นหอคอยสีขาวสูงยอดกลมคล้ายดอกเห็ด ติดไฟสวยงามในเวลาค่ำคืน ข้างบนมีภัตตาคารหมุนรอบทิศ ไว้ดูวิวรอบเมืองระหว่างมื้ออาหาร

และที่ดิฉันชอบอีกแห่งคือ โรงงานช็อกโกแลตโบห์มส์ (Boehms) เปิดขายมานานกว่า ๔๐ปี อดีตเคยใช้มือปั้นช็อกโกแลตมาอย่างไร ปัจจุบันก็ยังทำอยู่ ถือว่าเป็นโฮมเมดแคนดี้ที่มีชื่อเสียงมากของที่นี่ ยิ่งตัวโรงงานนั้นสร้างเป็นชาเล่ต์แบบสวิส สูงสองชั้น รูปทรงเตี้ยๆ ตัวเรือนมีระเบียงเล็กๆประดับด้วยกระถางดอกไม้สีสันสดใสหลังคาเอนมียอดเป็นไก่โลหะ ที่คอยบอกทิศทางลมสวยงามมาก

ช่วงที่ดิฉันไป ตรงกับเทศกาลคริสต์มาส ที่หมู่บ้านเลเวนเวิร์ธ( Leavenworth) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเยอรมันเล็กๆสร้างแบบบาวาเรียน ตัวบ้านมีรูปทรงและลวดลายที่งดงามเรียงรายอยู่บนถนนเส้นเล็กๆ เขาจะปิดถนนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินจับจ่ายใช้สอยและชมความงามของการประดับไฟ ของหมู่บ้าน แม้จะสู้ไฟวันเฉลิมพระชนมพรรษาบ้านเราไม่ได้

ถึงกระนั้นจากต้นทางบนรถไฟ “แสงดาวฝั่งทะเล” จนถึงปลายทาง “ซีแอตเติล” ก็ทำให้ฉันทั้งรักและไม่ลืมจริงๆ

#น้ำตกสโนโควลมี่ น้ำตกมีชื่อของซีแอตเติล เป็นน้ำตกที่ไม่กว้าง มีชั้นเดียว แต่สูงถึง ๒๒๐ ฟุต (สูงกว่าน้ำตกไนแอการาถึง ๑๐๐ ฟุต) นักท่องเที่ยวจะมาที่นี่ประมาณหนึ่งล้านห้าแสนคนต่อปีทีเดียว

#สวรรค์ของนักสกีอยู่ที่นี่ ทั้งที่สโนโควลมี่แพสและสตีเวนส์แพส อยู่ใกล้เมืองซีแอตเติล มีบริการให้ทุกอย่าง ตั้งแต่การสอนเล่นสกีทั้งสำหรับเด็กและผู้ฝึกใหม่เป็นพิเศษ มีชุดและเครื่องมือให้เช่า รวมทั้งสโนว์บอร์ดและรองเท้าหิมะ

#อีกหนึ่งที่น่าแวะคือ ทัวร์ชมเมืองเก่าใต้ดินที่ไพโอเนียร์สแควร์ ย่านดาวน์ทาวน์ ด้วยในปีค.ศ.๑๘๘๙ ใจกลางเมืองซีแอตเติลถูกไฟเผาจนราบ ซึ่งทางการฟื้นฟูเมืองใหม่ขึ้นด้วยการเอาปูนราดแล้วสร้างถนนสร้างตึกทับ ปัจจุบันยังเหลือเมืองเก่าใต้ดินให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม

#หากไปซีแอตเติลในฤดูร้อน ควรไปแวะขึ้นภูเขาเรเนียร์ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงมากของมลรัฐวอชิงตัน มีหิมะปกคลุมเกือบตลอดปีเที่ยวหน้าร้อนอากาศจะสบาย ไม่หนาว ทั้งๆที่ยืนอยู่บนหิมะ


ขอขอบคุณ พี่ be supergirl  ผู้ส่งบทความเข้ามา (เจ้าค่ะ...^_^ ) 

รู้สึกอย่างไรกับบทความนี้ ติดต่อเวปมาสเตอร์

[ หน้าบ้าน ] [ ประวัติ ] [ ผลงาน ] [ เรื่องย่อ ] [ สัมภาษณ์ ] [ สมุดเยี่ยม ] [ หลังบ้าน ]


"บ้านกิ่งฉัตร" เป็นโฮมเพจกิ่งฉัตรอย่างไม่เป็นทางการ    มิได้จัดทำขึ้นเพื่อผลประโยชน์ใดๆแก่ผู้จัดทำ    "กิ่งฉัตร" และผลงานที่อ้างอิงบนโฮมเพจนี้   ยังคงเป็นสิทธิ์ของผู้เขียนและผู้พิมพ์ทุกประการ

"บ้านกิ่งฉัตร" จัดทำโดย กมลวรรณ อ่อนละมัย   7 ก.พ. 2544   โดยได้รับการเอื้อเฟื้อข้อมูลจากแฟนกิ่งฉัตรบนบอร์ด Chulabook