2.2
ความสัมพันธ์ระหว่างเหตุภายในและเหตุภายนอก |
......ก.
เราเห็นว่าฐานของการพัฒนาอยู่ที่เหตุภายในของสรรพสิ่ง แต่วิภาษวิธีวัตถุนิยมไม่ปฏิเสธเหตุภายนอก
ปราชญ์กล่าวว่า วิภาษวิธีวัตถุนิยมปฏิเสธเหตุภายนอกหรือไม่? ไม่ปฏิเสธ
วิภาษวิธีวัตถุนิยมถือว่า เหตุภายนอกเป็นเงื่อนไขกานเปลี่ยนแปลง เหตุภายในเป็นมูลฐานของกานเปลี่ยนแปลง
เหตุภายนอกเกิดบทบาทโดยผ่านเหตุภายใน ไข่ไก่ กลายเป็นลูกไก่เพราะได้รับอุณหภูมิที่เหมาะสม
แต่อุณหภูมิจะทำให้ก้อนหินกลายเป็นลูกไก่ไม่ได้ เพราะมูลฐานของสองสิ่งต่างกัน
|
......ในที่นี้ต้องเข้าใจมูลฐานและเงื่อนไข
เหตุภายในเป็นมูลฐาน ก้อนหินกลายเป็นลูกไก่ไม่ได้ เพราะ 2 สิ่งมูลฐานไม่เหมือนกัน
แต่การที่ไขไก่จะกลายเป็นไก่ได้ ต้องมีเหตุภายนอกเป็นเงื่อนไข นั่นคืออุณหภูมิที่พอเหมาะ
ฉะนั้นมูลฐานภายในก็ต้องประสานกับเงื่อนไขภายนอก จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงได้
ฉะนั้นมูลฐานภายในไม่มีเงื่อนไขที่แน่นอนมา ประสานแล้วก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง
แต่บทบาทของเหตุภายนอกมีมากแค่ไหนต่อการเปลี่ยนแปลงเล่า? ในการพัฒนาของสิ่งหนึ่งๆ
เหตุภายนอกสามารถเกิดบทบาทเร่งรีบ ถ่วงช้า แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทิศทาง
การพัฒนาของสรรพสิ่งได้ เช่น ไข่ไก่ถ้าไม่มีอุณหภูมิไม่พออาจจะทำให้ไข่กล่ายเป็นไก่ช้าลงได้
ฉะนั้นเงื่อนไขภายนอกไม่สามารถทำให้ทิศทางการพัฒนาของสรรพสิ่งเปลี่ยนแปลงไป
และสาเหตุที่ทำให้สรรพสิ่งเปลี่ยนแปลงนั้น ด้านหลักอยู่ที่เหตุภายใน |
......ข.
เหตุภายนอกเกิดบทบาทโดยผ่านเหตุภายในเช่น คนคนหนึ่งจะก้าวหน้าหรือไม่
การช่วยเหลือของสหาย การให้การศึกษาของฝ่ายนำ ซึ่งเป็นเหตุภายนอกจะเกิดบทบาทได้ก็ต้องประสานกับเหตุภายในของเขา
คือถ้าไม่เชื่อฟังไม่มีความเพียรพยายาม เขาก็ก้าวหน้าไม่ได้ |
.......สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเหตุภายในกับเหตุภายนอกนั้น
ยังมีปัญหาหนึ่ง ต้องเข้าใจคือ เข้าลักษณะสัมพันธ์ของมัน เพราะสรรพสิ่งสัมพันธ์กันและการพัฒนาของโลกก็ไม่มีที่สิ้นสุด
ดังนั้น เหตุอันหนึ่งสำหรับสิ่งสิ่งหนึ่งเป็นเหตุภายใน แต่สำหรับอีกสิ่งหนึ่งเป็นเหตุภายนอก
เช่น ความขัดแย้งของจักพรรดินิยม กล่าวสำหรับทั่วโลกในยุคจักรพรรดินิยม
มันเป็นเหตุพื้นฐานของโลกในยุคจักรพรรดินิยม (เหตุภายใน) แต่ถ้ากล่าวสำหรับประเทศกึ่งเมืองขึ้นกึ่งศักดินา
มันเป็นเหตุภายนอก คือพูดในขอบเขตกว้าง มันเป็นเหตุภายใน แต่พูดในขอบเขตเล็กลงมันก็เป็นเหตุภายนอก |
......การรู้สัมพันธ์นี้มีความสำคัญอย่างไร
เมื่อเราจะทำงานจะค้นคว้าหาเหตุผล เราก็ต้องค้นหาทั้งเหตุภายในและเหตุภายนอก
เพราะสรรพสิ่งมีความสัมพันธ์กัน แต่ที่สำคัญยังอยู่ที่เหตุทางอัตวิสัย
เช่น ถ้าเราทำงานไม่ดี เราจะค้นหาสาเหตุอย่างไร ถ้าเราใช้ทัศนะอภิปรัชญาก็จะหาแต่เหตุภายนอก(ภววิสัย)
โทษว่าฝ่ายนำไม่ดี ไม่มีการศึกษาเป็นต้น แต่นี้เป็นเงื่อนไงประการหนึ่งของเหตุภายนอกเท่านั้น
แต่สิ่งที่สำคัญคือเหตุภายใน ถ้าเราค้นหาเหตุไม่ถูกต้อง ก็พัฒนางานไม่ได้ |
......ฉะนั้น ความเข้าใจความสัมพันธ์ระหวั่งเหตุภายนอกและเหตุภายในให้แจ่มชัดก็จะเป็นอาวุธสำคัญในการดัดแปลงโลกทางอัตวิสัยและภววิสัย |