ปี 1861

 
......ในปี 1861 เขากลายเป็นบรรณาธิการร่วมกับมิคาอิลพี่ชายของเขาเอง หนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ชื่อ Vremya (เวลา) เฮอร์เซนในกรุงลอนดอนวิจารณ์ว่าหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ (ซึ่งต่อมาไม่นานคือปี 1863 ก็ถูกสั่งห้าม) มีลักษณะที่ "ไม่รุนแรง แต่ทว่าซื่อสัตย์และเต็มไปด้วยามเห็นอกเห็นใจ" หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมากตั้งแต่ต้นเลยทีเดียว มันเรียกร้องอย่างจริงใจให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในสังคม และโต้เถียงอย่างดุเดือดกับองค์กรสำคัญๆ ในทุกทิศทาง รวมทั้งกลุ่ม Sovremennik ของเนกราซอฟ ผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายประชาธิปไตยซึ่งเป็นที่ยอมรับกันด้วย มันพิมพ์คำสอนใหม่อย่างหนึ่งแต่แล้วก็หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ จุดมุ่งหมายของหนังสือพิมพ์ Vremya นี้ก็คือเพื่อรวมความเคลื่อนไหวในหมู่ประชาชนพร้มอด้วยศักยภาพทางด้านวัฒนธรรมและสติปัญญาไว้และปิดช่องว่างที่มีอยู่เสมอในระหว่างผู้คนธรรมดาสามัญ และสังคมของผู้ได้รับการศึกษา แต่ในระยะเวลาหลังจากการประกาศเลิกระบบทาสติดที่ดินในรัสเซีย (เมื่อปี 1861) ได้มีความขัดแย้งกันในสังคมอย่างรุนแรง ท่าทีที่เป็นอิสระไม่มีพันธะกับฝ่ายใดเป็นพิเศษของหนังสือพิมพ์นี้จึงไม่ได้พบความเห็นอกเห็นใจมากนักจากผู้อ่าน ส่วนหนังสือพิมพ์ที่ออกตามมาคือ อีโปกา(ยุคสมัย) ก็อยู่ไม่ได้นานเช่นกันคือ ล้มละลายลงในปี 1865
......ในปี 1862 ดอสโตยเยียฟสกี้ ออกเดินทางไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก เขาไปปารีสเพื่อนัดพบกับหญิงที่เขารักชื่ออโปลลินเรีย ซัสโลวา (Apolinaria Suslove) แต่เธอไม่รักเขาและได้แต่งงานกับชายคนอื่นคือ วาสิลี โรซานอฟ (Vasily Rozanov) ซึ่งมีอายุอ่อนกว่าเธอถึง 16 ปี เธอเป็นผู้หญิงที่น่าหลงใหลมาก ดอสโตยเยียฟสกี้ได้นำเอาตัวเธอมาใส่ไว้ในตัวน้องสาวของราสโคลนิกอฟ ในเรื่อง Crime and Punishment และนาสตาสยา ฟิลิปโพฟนาในเรื่อง The Idiot รวมทั้งโปลินาในเรื่อง The Gambler(นักพนัน) ด้วย
......การแต่งงานของดอสโตยเยียฟสกี้กับมาเรีย ดมิเทรียฟนา อิซาเยวาล้มเหลวทุกสิ่งผิดไปหมดตั้งแต่ต้นเลยทีเดียว ในไซบีเรีย เธอเป็นวัณโรค อากาศในเมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นอันตรายแก่เธอ ดังนั้นเธอจึงต้องไปอยู่ที่วลาดิรีร และตอนหลังมาอยู่ในมอสโคว์ในฤดุหนาวและฤดูใบไม้ผลิปี 1864 ดอสโตยเยียฟสกี้นั่งอยู่ข้างเตียงภรรยาที่กำลังจะตายของเขา ตอนนั้นแหละที่เขาเขียนเรื่อง Notes from the Underground (บันทึกจากใต้ถุนสังคม) ซึ่งอาจนับได้ว่าเป็นเล่มแรกของนวนิยายเล่มสำคัญๆ ของเขา ภรรยาของเขาสิ้นชีพในวันที่ 15 เมษายน 1864
......ปี 1864 นับเป็นปีที่ร้ายกาจมากสำหรับดอสโตยเยียฟสกี้ ในฤดูร้อน มิคาอิลพี่ชายของเขาสิ้นชีวิตลงอย่างกะทันหันเมื่ออายุ 34 ปี และในฤดูใบไม้ร่วง อโปลโลนกริกอเรียฟ (Apollon Grigoriev) นักวิจารณ์ผู้มีชื่อเสียงและนักเขียนคนสำคัญคนหนึ่งของหนังสือพิมพ์ Vrenya และ Ipoka ก็สิ้นชีพลงเช่นกัน ด้วยความที่ต้องการช่วยครอบครัวของพี่ชาย ดอสโตยเยียฟสกี้จึงรับอาสาแบกหนี้จำนวนมากของหนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับไว้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นหนี้ที่เขาชดใช้อยู่จนถึงบั้นปลายชีวิต
......"ที่นี่ผมรู้สึกเปล่าเปลี่ยวและตื่นตกใจ" เขาเขียนไปถึงเพื่อนเก่าคนหนึ่งเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 1865 "ชีวิตของผมดูเหมือนจะหักออกเป็นสองท่อนในทันที....รอบตัวผมมีแต่ความหนาวเย็นและว่างเปล่า..." ใครๆ ที่สนิทกับเขาตายหมด ตัวเขาเองก็ป่วยแล้วป่วยอีก เจ้าหนี้ก็มาคอยรบกวน ในระยะนี้แหละที่ดอสโตยเยียสกี้เริ่มเขียนเรื่อง Crime and Punishment "อาชญากรรมและการลงโทษ" นี้ได้กลายเป็นนวนิยายที่ยิ่งใหญ่ซึ่งฉายให้เห็นห้วงเหวแห่งโศกนาฏกรรมแห่งความเป็นจริงของรัสเซียและฉายความหมายในด้านปรัชญาของมันไปในอนาคต Crime and Punishment ถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Russky Vestnik (Russian Herald) ของมิคาอิล กัตกอฟ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์แนวอนุรักษ์นิยม ในหนังสือพิมพ์เรื่อง War and Peace (สงครามและสันติภาพ) และ Anna Karenina รวมทั้งงานชิ้นต่อๆ ไปของดอสโตยเยียฟสกี้ด้วย (นอกจากเรื่อง The Raw Youth) นวยิยายเรื่อง The Raw Youth นี้ทำให้ผู้เขียนถูกกล่าวหาว่าพูดจาต่อต้านคนรุ่นใหม่แต่ก็ยังได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากผู้อ่าน
......การเขียนเรื่อง Crime and Punishment ของเขาได้ถูกขัดขวางโดยเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในชีวิตของเขา