![]() |
![]() |
ช่างตัดผมและหมวกทอง |
เนื้อร้อง สุรชัย (คาราวาน) |
กัลบก | มาจะกล่าวเรื่องราวชีวิตของช่างตัดผมอารมณ์เบิกบาน พกมีดโกนกับทากดูดเลือดสักฝูงก็พอกินสบาย ถึงใบหน้าจะเกลี้ยงจะเกลาสักวันแล้วคุณจะคิดถึงผม โอ้ สวรรค์ท่านรู้ ท่านทรงให้คนทั้งหลายหนวดงอกออกยาว เมื่อผมทำพลาดบาดคอบาดคางของคุณเลือดไหลออกมาเมื่อไรจะอาสาเป็นหมอใส่ยาบาดแผลอย่างดีไม่ต้องตกใจ (กิโฮเต้เข้ามาทางข้างหลังเขา เอาดาบจิ้มสะกิด ช่างตัดผมหันกลับมาแสดงอาการไม่เชื่อสายตาตนเอง) "อุ๊ย...เทพแห่งกัลบกเจ้าข้าเอ๋ย สาบานได้เลยว่ามีอัศวินสวมชุดเกราะครบเครื่องยืนอยู่ตรงหน้านี้" (ลอบยิ้ม) "ตลกน่า....ไม่มีหรอกอัศวินแถวนี้" (กิโฮเต้ คำรามแล้วกวัดแกว่งดาบ กัลบกทรุดลงคุกเข่าทันที) "เอ๊ะ...ไม่ใช่แล้ว อ้า...ขอประทานโทษครับใต้เท้า กระผมคิดไปว่า ตัวเองคงตากแดดมาร้อนจัดจนสติ ชักจะฟั่นเฟือน" |
ดอน กิโฮเต้ | เจ้าจะเจอฤทธิ์ที่ร้ายยิ่งกว่านั้น หากไม่รีบส่งหมวกทองนั่นมาโดยไว |
ช่างตัดผม | หมวกทอง อะไรนะ..ไหนกัน..(ถอดชามอ่างออกมาพินิจดู) เอ..ก็นี่มันอ่างโกนหนวด |
ดอน กิโฮเต้ | (เหยียดหยามอย่างวางสง่า) อ่างโกนหนวด! |
ซันโช | (พินิจดู) เห็นจะต้องยอมรับว่า ดูเหมือนอ่างโกนหนวดจริงๆ นะครับใต้เท้า |
ช่างตัดผม | ( รีบรับคำ) ก็ใช่นะซี คือ อย่างนี้ ผมน่ะเป็นช่างตัดผมเร่ไปตามหมู่บ้าน จึงจำต้องเอาไอ้นี่ครอบหัวไว้เพื่อบดบังความร้อนแรงจากแสงอาทิตย์ ทำให้ท่านเข้าใจผิดคิดไปว่า... |
ดอน กิโฮเต้ | หยุด! ...(ช่างตัดผมทำหน้ามุ่ยแล้วเงียบในขณะที่แสงจับมาที่พระกับคาร์ราสโคเต็มไปด้วยความรู้สึก) ท่านรู้หรือไม่ว่าที่จริงนั้นมันคืออะไร หมวกทองแห่งมัมบรีโนอย่างไรเล่า หากสวมโดยผู้มีจิตใจสูงส่งแล้วไซร้ ศาสตราวุธทั้งมวลจะมิอาจก้ำกราย (พูดกับช่างตัดผม) เจ้าคนถ่อย เจ้าขโมยมาจากแห่งหนใด |
ช่างตัดผม | ผมเปล่าน่ะ..... |
ดอน กิโฮเต้ | ส่งมาให้ข้า |
ช่างตัดผม | ผมเสียเงินซื้อมาตั้งครึ่งเหรียญ |
ดอน กิโฮเต้ | ส่งมา มิฉะนั้นข้าจะ ...(แกว่งดาบกราดไปอย่างแรงทีหนึ่ง ช่างตัดผมร้องลั่นพลางลนลานหนีทิ้งชามอ่างซึ่งซันโชคว้าไว้ได้ทัน) |
ซันโช | (พอใจ) ราคาตั้งครึ่งเหรียญ |
ดอน กิโฮเต้ | เจ้าคนโง่! (ใบหน้าแจ่มใสขึ้น เขาโยนหมวกเกราะอันเก่าทิ้ง ถือชามอย่างด้ายความเบิกบานและเทิดทูน ร้องเพลง) |
ดอน กิโฮเต้ | เอ้....เจ้าหมวกทองเลอล้ำของข้า
ผ่านความรุ่งโรจน์มานักต่อนัก เสื่อมเกียรติมานานเหมือนดั่งเจ้าไร้ค่า เจ้าจะกลับมาสู่ข้าอย่างเคย หมวกทองเจ้าเอยหมวกทองของข้า หมวกอันยิ่งใหญ่ในโลก มาเรามาร่วมฝ่าฟันผองภัย อยู่เคียงคู่กายเหมือนครั้งก่อน |
กัลบก | สงสัยจริงจริง นี่คงจะเพี้ยนหรือว่าไม่เพี้ยนอย่างไรชอบกล |
ซันโช | เขาจะว่ายังไงก็ตามอย่าถาม ทำตามเขาไว้แหละดี |
กัลบก | แล้วถ้าเขาเกิดรู้ตัวขึ้นมาว่ามันไม่ใช่หมวกทองของเขา |
ซันโช | เอาเถอะนะ อย่างน้อยก็คงได้ใช้เมื่อยามหนวดยาว |
(ซันโชกับช่างตัดผมเดินเข้าไปหากิโฮเต้ซึ่งกำลังทำท่าบอกให้พระทำพิธีสวมหมวกให้เขา พร้อมกับคุกเข่าลงขณะที่พระจะสวมให้ เขานึกถึงของที่ระลึกขึ้นมาได้ จึงล้วงเอาออกมาจากในเสื้อ ส่งให้ซันโชพลางทำท่าบอกให้เอาผ้าแปะไว้กับหมวกก่อน พวกคนต้อนฬ่อมองอย่างพิศวง ส่วนช่างตัดผมมองอย่างไม่เชื่อสายตา ในขณะที่ซันโชเฝ้าร่วมพิธีราวกับเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์) |
|
ดอน กิโฮเต้ | โอ้เจ้าหมวกทองเลอล้ำของข้าเอย เรื่องราวไม่เคยเสื่อมจางหายข้า ดอน กิโฮเต้แห่งลามันช่า สัญญาว่าเจ้าจะยิ่งใหญ่ |
ทั้งหมด | หมวกทองเจ้าเอย
เจ้าเลอล้ำค่า |
(ซันโชค่อยๆ ดึงช่างตัดผมผู้ตะลึงงันให้พ้นจากกิโฮเต้ พวกคนต้อนฬ่อค่อยๆ ถอยออกไปเหมือนถูกมนต์สะกดคนหนึ่งถึงกับสะอื้นเบาๆ ด้วยซาบซึ้งในภาพที่เห็น พระและดร.คาร์ราสโคหลบออกไปเช่นกัน ท่าทางบ่งว่าเลิกล้มความตั้งใจไปแล้ว แสงสลัวขณะเจ้าของโรงเตี๊ยมเดินเข้ามา) |
|
เจ้าของโรงเตี๊ยม | (แปลกใจที่เห็นกิโฮเต้อยู่ตามลำพัง) เพื่อนๆของคุณไปกันหมดแล้วหรือ |
ดอน กิโฮเต้ | (หันกลับมาทั้งที่ยังคุกเข่า) ท่านเจ้าปราสาท ข้าขอสารภาพ |
เจ้าของโรงเตี๊ยม | อะไรหรือ |
ดอน กิโฮเต้ | ขอสารภาพว่าข้ายังไม่เคยเข้าพิธีแต่งตั้งเป็นอัศวิน |
เจ้าของโรงเตี๊ยม | อืม...แย่จังนะ |
ดอน กิโฮเต้ | แต่ข้าพเจ้ามีคุณสมบัติพร้อมนะ ทั้งกล้าหาญ ซื่อสัตย์ เอื้อเฟื้อ อ่อนโยนและอดทน |
เจ้าของโรงเตี๊ยม | (พูดอย่างมีเหตุผล) ใช่...ต้องมีคุณสมบัติพวกนี้ |
ดอน กิโฮเต้ | ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอความกรุณาจากท่าน |
เจ้าของโรงเตี๊ยม | เอาซี ถ้าไม่หนักหนาอะไรนักละก็ |
ดอน กิโฮเต้ | คืนนี้ข้าจะยืนยามพิสูจน์ตัวตามประเพณีอยู่ในโบสถ์ ณ ปราสาทของท่านจนรุ่งอรุณ จากนั้นจึงให้ท่านประดาบทำพิธีแต่งตั้งข้าเป็นอัศวิน |
เจ้าของโรงเตี๊ยม | คือ..ขัดข้องอยู่นิดหน่อยตรงที่ไม่มีโบสถ์ |
ดอน กิโฮเต้ | อะไรนะ.. |
เจ้าของโรงเตี๊ยม | (รีบแก้ตัว) คือกำลังซ่อมอยู่น่ะ นี้ถ้าไม่รังเกียจที่จะใช่ที่อื่นยืนยามพิสูจน์ตัวละก็... |
ดอน กิโฮเต้ | (คิดขึ้นมาได้) ที่นี่ไง ณ ลานแห่งนี้ภายใต้ดวงดาว... |
เจ้าของโรงเตี๊ยม | ยอดมาก ...พอพระอาทิตย์ขึ้น ก็ทำพิธีแต่งตั้งเป็นอัศวินเสียเลย |
ดอน กิโฮเต้ | ข้าขอขอบคุณท่าน |
เจ้าของโรงเตี๊ยม | งั้นกินอะไรเสียก่อนดีไหม |
ดอน กิโฮเต้ | กินก่อนยืนยามพิสูจน์ตัวหรือ ...ขอปฎิเสธ ท่านเจ้าปราสาท คืนนี้ข้าจะต้องงดอาหาร สำรวมจิตใจ (กิโฮเต้และเจ้าของโรงเตี๊ยมแยกกันออกไปคนละทาง ขณะที่แสงจับมาที่พระกับคาร์ราสโค) |
พระ | ถ้าไม่ใช่คนบ้าที่ฉลาดปราดเปรื่องที่สุดก็ต้องเป็นคนฉลาดที่บ้าที่สุดในโลก |
คาร์ราสโค | เข้าเป็นคนบ้า |
พระ | (คิดอยู่ครู่หนึ่ง) แต่เราก็ทำไม่สำเร็จ |
คาร์ราสโค | (เค้นเสียง) อย่าเพิ่งสรุป เมื่อรู้ถึงอาการป่วยแล้ว ก็เหลือแต่หาทางเยียวยา |
พระ | (คิดอยู่ครู่หนึ่ง) การเยียวยา...มันอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าตัวโรคก็ได้ (เห็นกิโฮเต้ในแสงสลัวกำลังติดของที่ระลึกเข้ากับหมวกอย่างยำเกรง และในแสงสลัวเช่นกันก็เห็นอัลดอนซากำลังพินิจดูสารซึ่งอ่านไม่ออกด้วยอารมณ์อันสับสน) |
(แสงที่พระค่อยๆจางหายไป เขาเดินออกไป ขณะเดียวกันแสงที่ลานซึ่งก็คือแสงจันทร์เริ่มส่องสาดเต็มที่...กิโฮเต้กำลังเดินกลับไปกลับมา มีหอกอยู่ในมือ) | |
ดอน กิโฮเต้ | (หยุดเดิน) ผู้รู้แห่งอนาคตจะพรรณนาคนประวัติศาสตร์นี้ว่าอย่างไรนะ (ยืนทำท่าบรรยาย) (ภายหลังที่สุริยาลัยลับลาไปนอน สร้างความมืดแก่ประตู และระเบียงของลามันช่า ดอนกิโฮเต้ซึ่งเดินเป็นจังหวะและแสดงออกซึ่งความสูงส่งยืนยามตามประเพณีก่อนพิธีสำคัญ ณ ลานของปราสาทอันเกรียงไกร" |
(เขาได้ยินเสียงสะท้อนที่โอ้อวดของตัวเองเข้า ก็ก้มศีรษะด้วยความละอายใจ) โอ่คุยโวอย่างไร้สาระ อย่า ดอนกิโฮเต้ สูดลมหายใจแห่งชีวิตเข้าไปลึกๆ แล้วพิจารณาว่า เราควรจะดำรงชีวิตอยู่อย่างไร (คุกเข่าลง) | |
อย่าเรียกขานสิ่งใดเป็นของเจ้า ยกเว้น เว้นแต่ดวงวิญญาณ อย่าหลงใหลในสิ่งที่เจ้าเป็นแต่จงใฝ่หาในสิ่งที่ดีกว่า อย่าระเริงใจไปกับความรื่นรมย์ เพราะเจ้าอาจต้องทุกข์สาหัสในภายหลัง จงมองไปเบื้องหน้า อย่าหลงเพ้ออยู่ในอดีตที่ผ่านมาไม่ว่ามันจะรุ่งโรจน์สักเพียงไร | |
(อัลดอนซาเข้ามาในลาานระหว่างทางไปยังที่นัดพบกับเปโดร หล่อนหยุดเดินจ้องมองกิโฮเต้และนิ่งฟัง) | |
จงให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน
และให้เกียรติแก่สตรี
จงอยู่เพื่ออุทิศวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ให้แก่นางผู้มีนามว่า ดัลซีเนีย.... |
|
อัลดอนซา | ทำไมต้องเรียกฉันอย่างนั้น |
ดอน กิโฮเต้ | (ลืมตา) โอ..แม่นางผู้สูงศักดิ์ |
อัลดอนซา | ลุกขึ้นเถอะ ลุกขึ้น (กิโฮเต้ลุกขึ้นด้วยท่วงท่าสุดบูชา) ทำไมถึงเรียกชื่อนั้น |
ดอน กิโฮเต้ | เพราะนั่นคือนามของแม่นาง |
อัลดอนซา | ฉันชื่ออัลดอนซา |
ดอน กิโฮเต้ | (ส่ายหน้าอย่างยกย่องให้เกียรติ) ข้ารู้จักแม่นางดี |
อัลดอนซา | ฉันชื่ออัลดอนซา |
ดอน กิโฮเต้ | ข้ารู้จักแม่นางมาตลอดชีวิต รู้ซึ้งถึงความดีและจิตใจอันสูงส่ง |
อัลดอนซา | (หัวเราะอย่างหยันๆ ตวัดผ้าคลุมศีรษะออก) ดูให้ดีซิ |
ดอน กิโฮเต้ | (อย่างอ่อนโยน) ข้ามองเห็นแม่นางด้วยหัวใจของข้า |
อัลดอนซา | (ทำเป็นโกรธเพื่อปกปิดความหวั่นไหว) บอกมาซิ ต้องการอะไรจากฉัน |
ดอน กิโฮเต้ | ไม่ต้องการอะไรเลย |
อัลดอนซา | โกหก |
ดอน กิโฮเต้ | (ก้มหน้า) ข้าสมควรได้รับคำตำหนิ ข้าขอเพียงแค่... |
อัลดอนซา | จะแบไต๋แล้วไง |
ดอน กิโฮเต้ | ..อนุญาตให้ข้าได้รับใช้แม่นาง ขอเทิดทูนไว้ในดวงใจ ให้ข้าได้อุทิศชัยชนะแก่แม่นาง และขอคิดถึงนามของนางเพื่อปลอบขวัญยามปราชัย ท้ายที่สุด เมื่อถึงคราวต้องสละชีพ ข้าขอมอบแด่นามอันศักดิ์สิทธิ์ของแม่นาง...ดัลซีเนีย |
อัลดอนซา | (ขยับผ้าขึ้นคลุมไหล่ ค่อยถอยออกไปไม่อาจควบคุมตัวเองได้) ฉันต้องไปแล้วเปโดรเขาคอยอยู่... (หยุด แล้วถามอย่างดุดัน) ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย |
ดอน กิโฮเต้ | ข้าหวังว่าจะเพิ่มความสง่างามให้แก่โลกได้บ้าง |
อัลดอนซา | ไม่มีทาง ลงท้ายคุณนั่นแหละจะพ่ายแพ้จนยับเยิน |
ดอน กิโฮเต้ | ชนะหรือแพ้ย่อมไม่สำคัญ |
อัลดอนซา | แล้วอะไรล่ะที่สำคัญ |
ดอน กิโฮเต้ | ขอเพียงได้ดำเนินรอยตามความใฝ่ฝัน |
อัลดอนซา | (ถ่มน้ำลาย เหยียดหยาม หยาบคาย) ถุย นี่ไงความใฝ่ฝัน (หันหลังกลับ เดินฉับๆจากไป แต่แล้วก็หยุด ดนตรีดังแผ่วเบา อัลดอนซาเดินกลับมา) ความใฝ่ฝันมันเป็นยังไง |
ดอน กิโฮเต้ | มันคือภารกิจของอัศวินทุกคน....เป็นหน้าที่...หามิได้ เป็นอภิสิทธิ์ของเขาต่างหาก(ร้องเพลง) |