อัลดอนซา

เนื้อร้อง วิสา คัญทัพ

 
 

เกิดบนทางข้างถนน แม่คลอดฉันแล้วก็ทิ้งไป
อดโซเยือกเย็นไม่มีแรงร้องให้บอกใคร
ฉันไม่เคยโทษโกรธแม่เลยที่ทอดทิ้งกัน
เธอหวังฉันฉลาดคงเลือกตาย
อยู่ที่ไหนไหนคนไหนพ่อ ใครถามไม่มีคำตอบ
อย่างไรบอกยังไงดี คนไหนคือพ่อฉัน
มีกองทหารผ่านแวะมาในเวลาสั้น ในนั้นคงมี คนเป็นพ่อฉัน
เหมาะควรดีทุกอย่าง กับชีวิตที่เป็นมาและเป็นไป
กับความสาวเพียงชั่วคืน ต้องทนฝืนกระทำไปให้เศษคน

ดอน กิโฮเต้ แต่สำหรับเรา นางคือยอดหญิงมิ่งขวัญ
อัลดอนซา อย่าให้ฉันต้องปวดร้าวยิ่งไปกว่านี้เลย "ยอดหญิงมิ่งขวัญ" ฉันจะเป็นมิ่งขวัญของใครได้ (ร้องเพลง)
 

แม่ยอดหญิงนั้นต้องงามเฉิด ดีพร้อมและอ่านหวาน
มิคู่ควรเปรียบตัวเราแสน ยากไร้ขายร่างกาย
ไม่เคยเลยจะรู้จักและจำวันเวลาว่าวัยสาวคราญตาเป็นอย่างไร
โปรดมองฉันมองซิมองให้ดีดูเสียให้เธอแน่แก่ใจ
นี่คืออีนางคนใช้ที่น่าชัง กายใจมันเหม็นสาบเหลือดี
โสเภณีชีวิตมันไม่มีดีอะไร
โปรดอย่าขืนมองฉันอย่างเช่นนางสาวพรหมจรรย์อันโสภา
เมื่อฉันสนเพียงเงินตรา ยื่นให้ฉันตามราคาเป็นจบกัน

ดอน กิโฮเต้ (อย่างอ่อนโยน) โปรดอย่าปฏิเสธแม่นางคือยอดหญิงดัลซีเนีย
อัลดอนซา (ยิ่งปั่นป่วนมากขึ้น) มองทะลุม่านหมอกที่บังตาเสียทีเถิด ขอให้เห็นฉันอย่างที่ฉันเป็น (ร้องเพลง)
  เปิดให้ฉันเห็นฟากฟ้า แต่ว่าฟ้านั้นสิ้นดาวดูมืดมน ห่างไกลจนเกินกว่าฉันจะเอื้อมถึง
ผู้ชายใจทรามแสนโหดร้ายแรง มิเท่าคุณกระทำซ้ำจนเกินใคราจะเข้าใจ
จากใจจริงแสนอ่อนโยน หยิบยื่นมามอบให้ฉัน
และปล้นเอาความเลวความชั่วร้ายทิ้งไปจากฉัน
ความเลวความร้ายกาจ ฉันเคยรับมือมันไม่กลัว ฉันจึงกลัวเพียงความอ่อนโยน
โปรดอย่ามัวทรมาน เรียกยอดหญิงดัลซีเนียกันเลยคุณ
ข้าเป็นโสเภณีทราม ซื่อจริงฉันอัลดอนซา คนชั่วเลว
ดอน กิโฮเต้ ทั้งเดี๋ยวนี้และตลอดไป แม่นางคือยอดหญิงดัลซีเนีย
อัลดอนซา (ร้องไห้เสียงดัง) ไม่! (หล่อนล้มพับลงไปด้วยความสิ้นหวังกิโฮเต้เคลื่อนตัวเขาไปหาอย่างแสนห่วง แต่ฉับพลัน เสียงแตรดังขึ้นเป็นชุด เป็นเสียงแหลมจัดจ้างดังน่ากลัวของการเข้าสู่สมรภูมิซันโชรีบไปดูแล้วผงะถอยกลับมาเพราะสิ่งที่เห็น
ซันโช (พูดไม่ออกด้วยความกลัว) นาย.. (ดนตรีบรรเลงต่อไป ในขณะที่ประตูใหญ่เปิดผางออก ขบวนที่จัดเป็นลำดับอย่างประหลาดเข้ามา ผู้ติดตามแต่งเครื่องแบบนำหน้าอัศวินร่างสูงดูน่ากลัว สวมเสื้อเกราะทำด้วยชิ้นกระจกเล็กๆต่อกัน แวววาวจนทำให้ตาลาย ที่ศีรษะมีหมวกเกราะเหมือนหน้ากาก มองเห็นแต่ลูกตาตรงยอดมีขนนกขนาดใหญ่ช่วยเน้นให้แลดูเหลือเชื่อยิ่งขึ้น ในมือมีดาบที่ถอดออกจากฝัก แวววาว ดนตรีชะงักกึกเมื่อทั้งขบวนหยุดลง)
อัศวินกระจก (เสียงแหบพร่า) มีผู้ใดที่นี้เรียกตัวเองว่า ดอนกิโฮเต้แห่งลามันช่า หากว่ามี...และเขาไม่กล้าที่จะเผชิญกับข้า...ก็ขอให้เขาก้าวออกมา
ดอน กิโฮเต้ (พูดออกมาในที่สุด เสียงสั่น) ข้าคือดอนกิโฮเต้ อัศวินแห่งทัศนาดูร
อัศวินกระจก (เสียงดังก้องอยู่ภายในหมวกเกราะ) จงฟัง เจ้าคนปลิ้นปล้อน เจ้ามิใช่อัศวินหากเป็นนักเสแสร้งที่โง่เขลา บทบาทของเจ้าเป็นแค่การเล่นเลียนแบบเยี่ยงเด็กและหลักการอันสูงส่งของเจ้าไม่ผิดไปจากธุลีใต้ฝ่าเท้าของข้า
ดอน กิโฮเต้ (ตัวสั่นด้วยความโกรธ) เจ้าอัศวินจอมปลอม วาจาสามหาว จงบอกชื่อของเจ้ามาก่อนที่ข้าจะลงมือสั่งสอนเจ้า
อัศวินกระจก เจ้าจะได้รู้เมื่อถึงเวลาอันควร
ดอน กิโฮเต้ ถ้าเช่นนั้นก็บอกมาว่าเจ้าตามหาข้าทำไม
อัศวินกระจก (เย้ย) เจ้าเรียกร้องข้าเอง ดอนกิโฮเต้ เจ้าประณามหยามเหยียดข้าสารพัด
ดอน กิโฮเต้ จอมมายาลวง (มีเสียงครางจากซันโช ดนตรีคลอเบาๆ ในท่วงทำนอง "จอมมายา" กิโฮเต้ ถดอถุงมือข้างซ้ายเหวี่ยงลงที่เท้าของอัศวิน) จงมองคำท้ารบที่พื้นนั้น
ซันโช (ร้าวราน) นาย...อย่า! (เขาวิ่งตะครุบถุงมือ แต่อัศวินเอาดาบเสียบตรึงมันไว้)
อัศวินกระจก (เย็นชา) เราาจะสู้รบกันด้วยเงื่อนไขอะไร
ดอน กิโฮเต้ เลือกเงื่อนไขของเจ้าเองเถิด
อัศวินกระจก ดีแล้ว หากว่าเจ้าแพ้ เจ้าจะหมดอิสรภาพและจะต้องเชื่อฟังคำสั่งทุกอย่างของข้า (กิโฮเต้ก้มศีรษะรับอย่างเยือกเย็น) แล้วเงื่อนไขของเจ้าล่ะ
ดอน กิโฮเต้ หากว่าเจ้าไม่สิ้นชีวิตไปเสียก่อน เจ้าจะต้องคุกเข่าลงขอความปรานีจากยอดหญิงดัลซีเนียของข้า
อัศวินกระจก (เย้ย) ข้าจะพบนางคนนี้ได้ที่ไหน
ดอน กิโฮเต้ นางยืนอยู่ที่นั่น (อัศวินกระจกหันไปมองอัลดอนซา มองเสื้อผ้ากระรุ่งกระริ่งสกปรก รอยฟกซ้ำดำเขียวใบหน้าที่ยับเยิน เขาเริ่มหัวเราะอย่างใจ โหดร้าย)
อัศวินกระจก นางผู้สูงศักดิ์ของเจ้า ...เป็นหญิงสำส่อน
ดอน กิโฮเต้ (ชักดาบอย่างโกรธจัด) เจ้าปีศาจร้ายต่อสู้ป้องกันตัวเองให้ดี!
อัศวินกระจก (ก้าวถอยหลัง) ช้าก่อน ดอนกิโฮเต้ เจ้าถามชื่อของข้ามิใช่หรือ ข้าคืออัศวินแห่งกระจกเงา (ดนตรีบรรเลงเพลง "จอมมายา" ในขณะที่อัศวินเหวี่ยงโล่ห์ของเขาออกมาข้างหน้า ผิวเป็นโลหะมันวับสะท้อนเข้าตาจนกิโฮเต้งงง้นมองอะไรไม่เห็นบรรดาผู้ติดตามก็เผยกระจกทำนองเดียวกันออกมา กิโฮเต้ ถลาจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง ทว่าต้องปะทะกับภาพของตนเองทุกคราไป) มองดูให้ดี ดอนกิโฮเต้มองเข้าไปในกระจกแห่งความเป็นจริง และจงเห็นโลกอย่างที่มันเป็นอยู่ ดูเสียบอกมาซิว่าเห็นอะไรบ้าง ดอนกิโฮเต้ อัศวินผู้แกล้วกล้าเช่นนั้นรึ ไม่ใช่หรอก ไอ้แก่สติไม่เต็มบาทต่างหาก (กิโฮเต้ผละหนีจากภาพของตัวเอง เพียงเพื่อจะมาประจันเข้ากับอีกภาพหนึ่ง) จงดูเสียให้เต็มตา เห็นภาพคนบ้าแต่ง แฟนซีไปงานสวมหน้ากากไหม (กิโฮเต้พยายามหนีแต่กลับพบตัวเองเผชิญหน้ากับกระจกอีกบานหนึ่ง) ดูเข้าไปดอนกิโฮเต้ ดูให้เห็นอย่างที่เขาเป็นอยู่จริง เห็นไอ้ตัวตลกบ้าๆไหม (กิโฮเต้ถลาหนี ทว่าก็เจอแต่สะท้อนจากกระจกเงา ซึ่งอัศวินและพรรคพวกค่อยๆ ตีวงล้อมกรอบเข้ามา) ดิ่งลงไปในกระจกเงา ให้ลึกสุดลึก งานสวมหน้ากากสิ้นสุดลงแล้ว (กิโฮเต้ทรุดลงคุกเข่า) สารภาพออกมาเสียดีๆหญิงผู้สูงศักดิ์ของเจ้าเป็นนางโสเภณีและฝันของเจ้าคือฝันร้ายอันเนื่องมาจากความฟั่นเฟือน
ดอน กิโฮเต้ (สิ้นหวัง งุนงง) เราคือดอนกิโฮเต้ อัศวินผู้ปราบอธรรมแห่งลามันช่า...และนางผู้สูงศักดิ์ของเราคือ ยอดหญิงดัลซีเนีย เราคือดอนกิโฮเต้ อัศวินผู้ปราบอธรรมและ...นางผู้สูงศักดิ์ของเรา...ยอดหญิง...(เขาทรุดตัวลงกับพื้น ร่ำไห้ รู้สึกว่าพ่ายแพ้สิ้นแล้ว)
อัศวินกระจก (ดึงหมวกออกจากหัว) สำเร็จแล้ว
ซันโช (ตะลึง) คุณหมอคาร์ราสโค ใต้เท้านี่มันคุณหมอคาร์ราสโค
คาร์ราสโค ยกโทษให้ผมด้วย ซินยอร์กิฆานา เป็นหนทางเดียว (แสงหรี่ลงไปจับที่ดอนกิโฮเต้ซึ่งคุดคู้ร่ำไห้อยู่กับพื้น อัลดอนซาเข้ามาหา ใบหน้าปวดร้าวด้วยความรู้สึกสูญเสียและสงสาร ดนตรีเข้าประสานขณะที่แสงเปลี่ยนกลับมายังคุก นายทหารแห่งศาลศาสนาเข้ามา)
นายทหาร (ตะโกน) เซรบานเตส เซรบานเตส เตรียมพร้อมคอยการเรียกตัว
เซรบานเตส (สับสน) ใครจะเรียก
นายทหาร ผู้พิพากษาแห่งศาลศาสนา
หัวหน้า เร็วแค่ไหน ท่านผู้การ
นายทหาร เร็วๆนี้แหละ (เขาออกไป)
หัวหน้า แต่ยังไม่เดี๋ยวนี้หรอก (พูดกับเซรบานเตสด้วยความพอใจ) ดีแล้วละ คุณจะได้มีเวลาเล่าเรื่องให้จบ
เซรบานเตส แต่เรื่องจบแล้วนี่ครับ
หัวหน้า อะไรนะ
เซรบานเตส อย่างน้อยก็เท่าที่ผมทราบ
หัวหน้า ฉันไม่คิดว่าฉันชอบตอนจบอย่างนี้ (มีเสียงคำรามในลำคอมาจากบรรดานักโทษ) ฉันคิดว่าพวกลูกขุนก็ไม่ชอบเหมือนกัน
ดุ๊ก หมายความว่าเขาล้มเหลว
หัวหน้า มิเกล เด เซรบานเตส ศาลนี้ขอตัดสินว่า
เซรบานเตส (อกสั่นขวัญหาย) ประเดี๋ยวก่อน
หัวหน้า จะต้องรออะไร
เซรบานเตส ขอเวลาผมอีกนิดได้ไหม
หัวหน้า (หลังจากเหลือบมองนักโทษคนอื่น) ก็ได้ แต่ทางศาลศาสนา..
เซรบานเตส ไม่กี่นาทีหรอก ให้ผมคิดแต่งเรื่อง...(เขาดีดนิ้ว เลือกตัวนักโทษซึ่งจะเล่นในฉากถัดไป ดนตรีบรรเลงแผ่ว เบาด้วยลีลาเศร้าๆ ในเพลง "ฉันเฝ้าแต่คิดถึงเขา" ขณะมีการจัดฉากห้องนอนของอลองโซ กิฆานา แสง เปลี่ยนไปเป็นลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า เผยให้เห็นเตียงและผู้ที่นอนอยู่.. ดอนกิโฮเต้ดวงตาของเขาลึกกลวงและล่องลอยเสมือนหนึ่งหน้าต่าง แห่งคำนึงซึ่งเก็บตัวถอยกลับไปใน สถานที่อันลึกลับ เงียบมีแต่เสียงดนตรี)
อันโทเนีย (พูดเบาๆกับคาร์ราสโค) ไม่มีทางทำอะไรได้เลยหรือคะ
พระ (เห็นใจ) คงต้องเป็นหน้าที่ของฉันมากกว่า (โบกมือผ่านนัยน์ตาที่มองไม่เห็นของกิโฮเต้) เขาอยู่ที่ไหนนะ
อยากรู้เหลือเกินว่าความคิดเขาล่องลอย ไปสู่โลกอันมืดมิดแห่งไหน
คาร์ราสโค พิจารณาจากทฤษฎีล่าสุด
พระ คุณหมอ ได้โปรดเถิด
คาร์ราสโค (ไม่พอใจ) ท่านคิดว่าผมทำไม่ถูกต้องนั้นหรือ
พระ (ถอนใจ) ถูก แต่ทว่า...(ซันโชเข้ามาอย่างกระดากๆ หมวกอยู่ในมือ)
อันโทเนีย มาทำไม
คาร์ราสโค บอกให้เขาไปให้พ้น
ซันโช (คำนับพระ แล้วพูดอย่างขลาดๆ) ขอพูดกับท่านได้ไหมครับ
พระ เขาคงฟังไม่ได้ยินแล้วละ
ซันโช นิดหน่อยเท่านั้นเองครับ
คาร์ราสโค ห้ามเอ่ยถึงอัศวินผู้ปราบอธรรมเป็นอันขาด
ซันโช ไม่หรอกครับ ใครจะไปพูดถึงเชือกในบ้านของคนที่ถูกแขวนคอ เอ้อ...ขออภัยครับใต้เท้า
อันโทเนีย (อย่างขมขื่น) เฮอะ ใต้เท้า
ซันโช (ลงนั่งข้างเตียง) ขอพูดอะไรแค่สองสามคำ พอให้เขารู้สึกดีขึ้น
  (ดนตรีขึ้น ร้องเพลง)