![]() |
![]() |
![]() |
ขออย่าให้ธรรมศาสตร์เป็นเพียงตำนาน |
เมื่อเราเข้าไปในธรรมศาสตร์ในปลายทศวรรษ 2500 |
ธรรมศาสตร์ที่เคยได้ข่าวร่ำลือมาว่า |
เป็นสถาบันผลิตนักต่อสู้เพื่อความชอบธรรมนั้น |
ดูจะเป็นเพียงตำนาน |
เป็นนิยายปรัมปราที่เกิดขึ้นเมื่อนานโพ้นเสียมากกว่า |
ในความเป็นจริง |
ธรรมศาสตร์ในสมัยของเรา |
เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลไกรัฐที่มีหน้าที่ผลิตปัญญาชน |
ออกไปทำงานรับใช้ระบบเศรษฐกิจการเมืองแบบทุนนิยมบริวารเท่านั้น |
แต่ธรรมศาสตร์ก็ไม่ได้หมายถึงผู้กุมนโยบายและบริหารมหาวิทยาลัย, |
ข้าราชการ อาจารย์ หรือแม้แต่นักศึกษาส่วนใหญ่เท่านั้น |
ธรรมศาสตร์ยังเป็นแหล่งพบปะ |
เป็นชุมชนของผู้ที่ยังต้องการเรียนรู้ |
ผู้กล้าตั้งคำถามและไม่เชื่ออะไรง่ายๆ |
ธรรมศาสตร์จึงยังคงเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงต่อไป |
แม้แต่ในยุคอับเฉาทางปัญญาของ สฤษดิ์ ถนอม ประภาส |
และพวกเราบางคนในชุมชนแห่งนั้น |
ก็ได้มีส่วนร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้ขึ้นอีกฉากหนึ่ง |
จากนักคิด นักเขียน นักทำหนังสือกลุ่มเล็กๆ ถึงสภาหน้าโดม |
แลถึงการลุกฮือ 14 ตุลาคมที่ยิ่งใหญ่ |
เดี่ยวนี้ เพียงชั่วทศวรรษถัดมา |
สิ่งเหล่านี้กำลังจะกลายเป็นเพียงตำนานอีกครั้งหนึ่ง |
ธรรมศาสตร์ในวันนี้ได้พัฒนาทางด้านความรู้ |
และวิชาชีพมากขึ้นกว่าเมื่อทศวรรษสองทศวรรษที่แล้วมาก |
อาจารย์ดุษฎีบัณฑิตเดินกันเกลื่อน |
งานวิจัยกองท่วมหัว |
นักศึกษามีหนังสือให้เลือกอ่าน |
มีกิจกรรมทางวิชาการให้เลือกฟังมากมาย |
แต่สปิริตของการแสวงหาและการต่อสู้เพื่อสังคมที่ดีกว่า |
ยังคงเข้มข้นดีอยู่หรือ? |
ขออย่าให้ธรรมศาสตร์เป็นเพียงตำนาน นิยายปรัมปรา |
ธรรมศาสตร์ไม่ใช้พิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บแต่ซากอดีตที่ตายไปแล้ว |
ไม่ใช่หอคอยงาช้างของนักวิชาการที่เรียนรู้สังคมไทยแต่จากหนังสือ |
และคำบรรยายในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ |
ธรรมศาสตร์คือชุมชนของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ |
คนที่ยังต้องแสวงหา, ต่อสู้เรื่อยไปไม่มีที่สิ้นสุด |
คืออดีตที่เชื่อมโยงถึงปัจจุบัน |
และคือปัจจุบันที่กำลังสร้างอนาคต |
ประวัติศาสตร์ไม่ได้เพียงแต่มีไว้ให้เราชื่นชมหรือขมขื่น |
ประวัติศาสตร์คือสิ่งที่พวกเราในแต่ละยุคสมัยจะต้องสร้างขึ้น |
ให้สวยสดงดงาม |
และมีความหมายยิ่งขึ้นไปกว่าครั้งที่แล้วๆ มา... |
ฝันของเด็กชายชาวนา โดย วิทยากร เชียงกูล |