อาหารมื้อเย็น

 
สองวันต่อมา
มีผู้คนมากมาย พูดจาด้วยสำเนียงอีสาน
หอบลูกจูงหลาน ขนข้าวของสัมภาระ
อพยพมาที่นี่
คนส่วนหนึ่งทำการปลูกสร้างอาคารเพิงพิกชั่วคราว
ที่ใต้ต้นชมพู่ริมสระน้ำ
คนอีกส่วนหนึ่งแบกเอาเครื่องไม้เครื่องมือตรงไปที่ป่าหญ้านั่น
ในไม่ช้า
ต้นไม้ใหญ่ๆ ก็ล้มครืนลงมาทีละต้น
ต้นแล้วต้นเล่าที่ศิโรราบลงกับพื้นหญ้า
มะม่วง มะพร้าว มะปราง ชมพู่ มะเฟือง และกุ่ม
ล้มลง
ล้มลง
จนเป็นพื้นที่โล่งเตียน
ฝูงนกโบยบินข้ามแม่น้ำไปเป็นกลุ่มๆ
จากไปแล้วหนอชีวิต
ชีวิตได้จากไปแล้ว
ตะวันบ่ายคล้อย
คนงานเดินออกมาจากพื้นที่ที่โล่งเตียน
ส่งเสียงเอะอะโวยวายเป็นสำเนียงอีสาน
ชายมีอายุคนหนึ่งกับเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง
เดินนำหน้าคนงานเหล่านั้นมา
ในมือของเขาทั้งสองคนหิ้วตัวเหี้ยที่ถูกตีจนตายแล้ว
พวกเขาเอามันมากองรวมกันที่ใต้ต้นมะเฟืองทั้งหมดห้าตัว
คนงานต่างพากันรุมล้อม
เจ้าจระเข้บกที่ปราศจากลมหายใจนั่น
ด้วยความปิติยินดี
ค่ำแล้ว
หิ่งห้อยบนต้นลำพูชายแม่น้ำ ซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่
พราวแสงอย่างอ่อนล้าโดยไม่รู้ชะตากรรม
 
"แซบหลาย"
"แซบหลายเด๊อ"
เสียงผู้คนสรวลเสเฮฮา
ดังรอดมาจากเพิงที่พักซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อตอนเย็น
ขณะที่หนังของเจ้าจระเข้บกที่ถูกลอกเอาเนื้อออกไปหมดแล้ว
ถูกแขวนอยู่ที่กิ่งต้นชมพู่